10 สิ่งบรรพบุรุษของเราทำ และคนปัจจุบันไม่มีวันเข้าใจ

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์เรามักพบว่า ผู้คนในอดีตมักทำเรื่องราวแปลกๆ ที่เราไม่เข้าใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะบางสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อความสนุก เพื่อความสบายใจ หรือเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง แต่เรากลับพบว่า มันไม่เข้าท่าแถมบางอย่างยังทำให้เราอึ้งเสียด้วย วันนี้เพชรมายาจึงขอพามาชมสิ่งต่างๆ ที่คนโบราณทำ แล้วคนปัจจุบันอย่างเราๆ ต้องอึ้งไปตามๆ กัน

1. เผาแมว 

bizarre-things-ancestors-01

ในศตวรรษที่ 17 ของฝรั่งเศส มีบันทึกที่แสนโหดร้ายระบุว่า การเผาแมวเป็นรูปแบบหนึ่งของความบันเทิง ในทุกปีช่วงกลางฤดูร้อน ชาวปารีส จะมาร้องเล่นเต้นรำรอบกองไฟใน Place de Greve และกิจกรรมหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการเผาแมวทั้งเป็น และเฝ้าดูมันตายอย่างช้าๆ อย่างสนุกสนาน แมวที่ได้รับเลือกมักจะมีความเชื่อมโยงกับแม่มด หรือบางครั้งก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ถูกโยนเข้ากองไฟ

2. นิทรรศการตู้อบเด็กทารก

bizarre-things-ancestors-02

ก่อนศตวรรษที่ 20 ทารกที่คลอดกำหนดมีโอกาสรอดน้อยมาก จนกระทั่ง ดร.มาร์ติน คอร์นีย์ คิดค้นตู้อบเด็กทารกขึ้น แต่มีคนไม่มากที่เชื่อเครื่องมือนี้ โรงพยาบาลก็ปฏิเสธที่จะใช้ นักลงทุนก็ไม่สนใจมัน ดร.คอร์นีย์ จึงใช้วิธีแก้ปัญหาที่แปลกที่สุด โดยการสร้างนิทรรศการที่จัดแสดงเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนดเป็นครั้งแรกในกรุงเบอร์ลินปี 1896 ก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกาและก็เปิดนิทรรศการให้คนเข้าชมอีก ซึ่งผู้เข้าชมจะต้องจ่ายเงิน 25 เซ็นต์สำหรับการเข้าชม จนสุดท้าย ตู้อบของเขาก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากเด็กที่ถูกนำไปจัดแสดงส่วนใหญ่รอดชีวิต

3. แฟชั่นฟันดำ

bizarre-things-ancestors-03

ในขณะที่คนปัจจุบันพยายามทำให้ฟันตัวเองขาว แต่ในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ที่ประเทศอังกฤษ แฟชั่นฟันดำที่เกิดจากการขาดสุขอนามัยที่ดีเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยในเวลานั้นเอง น้ำตาลมีราคาแพงมากเพราะต้องนำเข้า ชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้กิน และพระนางเอลิซาเบธที่ 1 ก็ต้องสูญเสียฟันไปหลายซี่เนื่องจากความรักในของหวานของพระองค์ สิ่งที่ตามมาก็คือฟันที่ผุและเป็นสีดำ

หลังจากนั้น ผู้คนเริ่มเห็นฟันสีดำเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอันจะกิน แฟชั่นฟันดำจึงเกิดขึ้น ใครที่ฟันไม่ดำพอก็จะนำถ่านมาทาให้ฟันดำ

4. เดินแข่งขัน

bizarre-things-ancestors-04

ในศตวรรษที่ 19 การเดินแข่งขัน ถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา โดยรู้จักกันในชื่อ Pedestrianism ซึ่งเกิดจากความเบื่อหน่ายของผู้คนที่อพยพย้ายเมืองหลังจากช่วงสงครามกลางเมือง ในสนามแข่งขัน ผู้เข้าแข่งจะเดินแทบไม่หยุดเลยตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ โดยมีรายงานว่า ผู้เข้าแข่งบางคนสามารถเดินไปได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร ภายใน 24 ชั่วโมง แต่หลังจากที่มีการประดิษฐ์จักรยานที่ปลอดภัยขึ้นโดย จอห์น สตาร์ลีย์ในปี 1885 การแข่งขันก็เปลี่ยนมาใช้จักรยานแทน

5. แฟชั่นเจ้าหญิงอเล็กซานดรา

bizarre-things-ancestors-05

ในช่วงเวลาที่เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก แต่งงานกับเจ้าชายแห่งเวลส์ พระองค์กลายเป็นที่รักของผู้คนในสหราชอาณาจักร ราวกับเป็นเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งศตวรรษที่ 19 ด้วยความเป็นธรรมชาติและคยวามน่ารัก จึงทำให้มีแต่ผู้คนเลียนแบบพระองค์ในทุกๆ เรื่อง

หลังจากให้กำเนิดลูกคนที่ 3 ในปี 1867 พระองค์ทรงเป็นโรคไข้รูมาติก ส่งผลต่อการเดินที่ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันอยู่เสมอ แต่นั่นทำให้บรรดาผู้หญิงในลอนดอนและเอดินเบิร์กเริ่มใช้ไม้เท้าค้ำยัน และเพื่อความสมจริง พวกเธอเลือกซื้อรองเท้าที่ไม่เท่ากัน เพื่อให้การเดินไม่สม่ำเสมอ แต่หลายๆ คนก็มองว่าการกระทำนี้เหมือนการล้อเลียนเจ้าหญิง ซึ่งโชคดีที่แฟชั่นนี้อยู่เพียงไม่นานก็เริ่มจางหายไป

6. ถ่ายภาพหัวขาด

bizarre-things-ancestors-06

ผู้คนในสมัยวิคตอเรียน ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายภาพแปลกๆ และภาพถ่ายที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือภาพถ่ายหัวขาด ที่ริเริ่มโดยช่างภาพ ออสการ์ เรจแลนเดอร์ ในช่วงปี 1853 ซึ่งน่าแปลกที่คนส่วนใหญ่นิยมมาใช้บริการของเขา ที่สามารถเลือกให้หัวของตัวเองอยู่ตรงไหนก็ได้ ยกเว้นบนคอของตัวเอง โดยแฟชั่นภาพถ่ายหัวขาดนี้ ถูกช่างภาพหลายๆ คน นำเทคนิคนี้ไปใช้หากินมากมายในยุคนั้น

7. การอดอาหารของหญิงสาว

bizarre-things-ancestors-07

โรคคลั่งผอม หรือ โรคกลัวอ้วน ถือเป็นโรคความผิดปกติทางจิตใจชนิดหนึ่ง ที่มีความเชื่อว่าตัวเองยังดูอ้วนอยู่ตลอดเวลา พวกเธอปฏิเสธที่จะกินอาหารจนทำให้ร่างกายผ่ายผอม ซึ่งนี้ไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่มีมานานหลายร้อยปีแล้ว โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จะมีกลุ่มหญิงสาวที่อ้างว่าพวกเธอสามารถอยู่รอดได้โดยไม่กินอะไรเลยเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้พวกเธอถูกมองเป็นเรื่องของปาฏิหาริย์และกลายเป็นคนดังที่ได้รับพรจากพระเจ้า

8. เก็บน้ำตา

bizarre-things-ancestors-08

ไม่มีใครรู้ว่าการเก็บน้ำตาเริ่มมาจากยุคไหน แต่มีการค้นพบครั้งแรกในคัมภีร์ไบเบิ้ล ซึ่งนิยมอย่างมากในยุคโรมัน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ญาติของผู้ตายจะร้องไห้ใส่ขวดแก้วใบเล็กๆ และจะถูกทิ้งไว้ในหลุมฝังศพเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพ บางครั้งจะมีการจ้างผู้หญิงให้ไปร้องไห้ใส่ในขวดในระหว่างพิธี เพื่อให้ขวดเต็มไปด้วยน้ำตา ซึ่งเป็นการวัดคุณค่าของคนที่เสียชีวิตนั่นเอง

9. ฟาร์มมด

bizarre-things-ancestors-09

ในช่วงทศวรรษที่ 1950 มิลตัน เลอวีน เป็นผู้ริเริ่มการทำฟาร์มมด ซึ่งต่อมากลายเป็นของเล่นยอดนิยมที่แพร่กระจายไปทั่ว ไอเดียของมิลตันเริ่มมาจากการที่เขาเห็นกองทัพมดในระหว่างไปปิกนิก และคิดว่ามันดูมีเสน่ห์ดี เขาจึงคิดว่า ถ้าเขาใส่มดไว้ในกล่องพลาสติกใสที่ได้รับการออกแบบให้เหมือนกับฉากฟาร์ม คนจะสนุกกับการสังเกตุพวกมัน

หลังจากนั้นไม่นาน ผลิตภัณฑ์ “Uncle Milton’s Ant Farm” หรือฟาร์มดของลุงมิลตันจึงถือกำเนิดขึ้น ในราคา 1.98 เหรียญ ซึ่งมันขายดิบขายดีไปทั่วประเทศ จนกระทั่งถึงวันที่มิลตันเสียชีวิตในวัย 97 ปี เมื่อปี 2011 ยอดจำหน่ายฟาร์มมดของเขามีมากถึง 20 ล้านฟาร์มเลยทีเดียว

10. นั่งบนยูเรเนียม

bizarre-things-ancestors-10

ในปี 1953 แฟชั่นแปลกๆ ที่เรียกว่า Uranium Sitting หรือการนั่งบนยูเรเนียมได้ถือกำเนิดขึ้นในฟาร์มแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัส เมื่อเจ้าของฟาร์มอย่าง เจสซี รีส อ้างว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของเขาหายไปเพราะเขาฝังขาตัวเองลงไปในดินที่ฟาร์มของเขา เมื่อกลุ่มนักวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบก็พบร่องรอยของแร่ยูเรเนียม

หลังจากนั้นความเชื่อเรื่องแร่ยูเรเนียมในดินที่รักษาอาการป่วยตั้งแต่ไข้หวัดยันโรคมะเร็งได้ก็แพร่กระจายออกไป จนเจสซีต้องขายวัวของเขาทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนฟาร์มให้เป็น “บ้านยูเรเนียม” เพื่อให้ลูกค้ามาฝังร่างกายในดิน ซึ่งเขาสามารถทำกำไรได้มากถึง 20 เหรียญต่อคนเลยทีเดียว

ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : listverse | เรียบเรียงโดย เพชรมายา