12 เรื่องหลอกลวงชาวโลก ที่หลายคนยังเชื่อมาจนถึงทุกวันนี้

เรื่องหลอกลวงหรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า Hoax กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นหลังการเข้ามาของโลกออนไลน์ โดยเกิดจากผู้คนบางกลุ่มมักสร้างเรื่องราวหลอกลวงเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง บางคนก็ทำเพื่อชื่อเสียง เงิน หรืออาจเพียงแค่ต้องการความสนุกที่ได้ปั่นหัวคนเล่นๆ ก็เท่านั้น ซึ่งวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาชมเรื่องราวหลอกลวงระดับชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มาดูกันว่าจะมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

1. นางฟ้าคอตติงลีย์

นางฟ้าคอตติงลีย์ (The Cottingley Fairies) เป็นผลงานภาพถ่ายระหว่างปี 1917 ถึง 1921 โดยเป็นภาพของเด็กหญิง 2 คน อายุ 10 และ 16 ปี กับกลุ่มนางฟ้า ภาพถ่ายชุดนี้ถูกทำขึ้นเป็นข้อพิสูจน์ว่านางฟ้าและเอลฟ์มีอยู่จริง จนสร้างความสับสนวุ่นวายไปทั่ว

แม้แต่ อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ นักเขียนนิยายเรื่อง เชอร์ล็อก โฮมส์ ยังเชื่อว่าภาพถ่ายชุดนี้เป็นของจริงจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี  1930 และทำให้ภาพเหล่านี้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรษที่ 20 ก่อนที่ภายหลัง 1 ในเด็กหญิงในมาเฉลยว่า มันคือผลงานการถ่ายภาพในมหาวิทยาลัยของเธอเท่านั้น

2. สาวผมบลอนด์จะหมดไปจากโลก

ในปี 2002 สำนักข่าว BBC ได้เผยแพร่บทความเรื่องหนึ่ง ที่ระบุว่าผู้คนที่มีผมบลอนด์จะมีอัตราการเกิดน้อยลงทุกๆ ปี และจะหายไปจนหมดโลกภายใน 200 ปีที่จะถึง

ในขณะที่ New York Times ได้เผยแพร่บทความอีกเรื่องที่โต้แย้งว่า การศึกษาดังกล่าวเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ซึ่งในความเป็นจริง  ยีนด้อย อย่างเช่นยีนผมทองจะถูกโอนถ่ายไปยังรุ่นสู่รุ่นโดยอาจไม่ได้แสดงออกมา แต่จะปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องหลอกลวงนี้ก็ถูกเผยแพร่ซ้ำไปซ้ำมาบนโลกออนไลน์หลายครั้ง

3. สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์

เนสซี หรือ สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ อาจเป็นเรื่องหลอกลวงที่โด่งดังที่สุดในโลก โดยในปี 1934 สำนักข่าวเดลีเมลได้เผยแพร่ภาพของ เนสซี เป็นครั้งแรก ที่ถูกถ่ายได้บริเวณทะเลสาบเนสส์ ทางตนเหนือของสกอตแลนด์ โดยผู้ที่ถ่ายได้คือ ดร.วิลสัน ศัลยแพทย์จากลอนดอน

ภาพดังกล่าวกลายเป็นตำนานเล่าขานกันมากว่า 60 ปี มีพยานที่อ้างว่าพบเห็นเนสซีอีกมากมาย จนกระทั่งในปี 1994 ภาพนี้ได้ถูกตัดสินว่าเป็นของปลอม โดย ดร.วิลสัน และเพื่อนของเขาอีก 2 คน ร่วมมือกันจัดฉากสร้างเนสซีปลอมจากของเล่น และสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาหลอกลวงชาวโลก แต่ก็ยังมือผู้ที่ยึดมั่นเชื่อในตำนานนี้ต่อไป โดยไม่สนว่าใครจะคิดยังไง

4. กระโหลกศีรษะ พิลต์ดาวน์แมน

หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ช่วงรอยต่อวิวัฒนาการระหว่างวานรมาสู่มนุษย์ ซึ่งในปี 1912 ชาร์ล ดอว์สัน นักโบราณคดีสมัครเล่นอ้างว่าได้พบกระโหลกศีรษะของมนุษย์โบราณ ซึ่งเป็นช่วงพัฒนาการที่หายไป ที่เชื่อมโยงระหว่างวานรและมนุษย์ บริเวณหมู่บ้านพิลต์ดาวน์ โดยมันถูกตั้งชื่อว่า “พิลต์ดาวน์แมน”

เรื่องหลอกลวงของดอว์สันถูกเปิดเผยในอีก 40 ปีต่อมา เมื่อนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งตัดสินใจนำกระโหลกศีรษะพิลต์ดาวน์ไปตรวจสอบอีกครั้ง และพบว่ามันเป็นกระโหลกศีรษะจากมนุษย์ยุคกลางที่เชื่อมต่อกับขากรรไกรของอุรังอุตัง

5. ภาพติดวิญญาณของ วิลเลียม มุมเลอร์

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 วิลเลียม มุมเลอร์ ช่างภาพชาวนิวยอร์กอ้างว่า เขาสามารถถ่ายภาพวิญญาณของสมาชิกครอบครัวที่ เสียไปได้ ซึ่งในภาพถ่ายของเขาหลายใบ ปรากฏให้เห็นเงาลางๆ ปรากฏอยู่เบื้องหลังญาติผู้เสียชีวิตอย่างชัดเจน

ภาพถ่ายที่โด่งดังทีสุดของเขาคือภาพของ แมรี ทอดด์ ลินคอล์น ที่มีวิญญาณของสามีและประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น อยู่ เบื้องหลัง นั่นทำให้เขามีชื่อเสียงมาก จนกระทั่งถูกเปิดเผยภายหลังว่าภาพถ่ายของเขาเป็นภาพที่ทำขึ้นเอง และนั่นก็ทำให้เขา ต้องถังแตกในที่สุด

6. หินของเบอริงเจอร์

ในปี 1725 โจฮานน์ เบอริงเจอร์ ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ ได้ค้นพบชิ้นส่นหินปูนแกะสลัก ที่มีภาพสัตว์และพืชในยุคก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมาก ซึ่งมีภาษาฮิบรูถูกจารึกไว้ด้วย

เบอริงเจอร์อ้างว่า นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า และได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการค้นพบครั้งนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องการค้นพบหินประหลาดครั้งนี้ก็ถูกเปิดเผยว่าเป็นของเก๊ โดยเพื่อนร่วมงานของเขาเอง เรื่องอื้อฉาวนี้ทำให้ผู้ติดตามและผู้ที่นับถือเขาต่างหมดศรัทธาในตัวของเบอริงเจอร์

7. เครื่องเล่นหมากรุกอัตโนมัติ ‘เดอะ เติร์ก’

ในช่วงศตวรรษที่ 18 นักประดิษฐ์นามว่า โวล์ฟกัง วอน เคมเพเลน ได้สร้างเครื่องเล่นหมากรุกอัตโนมัติที่ดูเหมือนชาวเติร์ก (ตุรกี) กำลังนั่งอยู่ข้างหลังโต๊ะ โดยมันถูกเรียกว่า ‘เดอะ เติร์ก’ โดยจากการเล่นทั้งหมด 300 เกม เดอะ เติร์ก แพ้เพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น

เดอะ เติร์ก เริ่มมีชื่อเสียงกระฉ่อนหลังมีโอกาสได้ชิงไหวชิงพริบกับนโปเลียน ไม่มีใครรู้ว่ามันทำงานได้ยังไง ภายในเครื่องส่วนใหญ่ประกอบด้วยกลไกที่ซับซ้อน และไม่มีที่ว่างให้คนเข้าไปได้ แต่ภายหลังมันถูกพบว่า มีนักเล่นหมากรุกจริงๆ ที่ขาขาดทั้ง 2 ข้างจากสงครามอยู่ข้างใน เขาเห็นกระดานและใช้แม่เหล็กช่วยในการเดินหมากรุก

8. ชันสูตรศพมนุษย์ต่างดาว

ในปี 1947 ได้มีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับจานบินตกในลอสเวลล์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายคนเชื่อว่า ทางกองทัพสหรัฐได้ทำการเก็บซากยานดังกล่าวไว้ รวมถึงศพของนักบินที่เป็นมนุษย์ต่างดาวอีกด้วย

ในปี 1995 ได้มีวีดีโอที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับการชันสูตรศพของมนุษย์ต่างดาวได้ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งมีความสมจริงอย่างมาก โดยมนุษย์ต่างดาวในวีดีโอดังกลาวถูกอ้างว่ามาจากจานบินตกที่รอสเวลล์นั้นเอง แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องหลอกลวง เพราะวีดีโอดังกล่าวถูกทำขึ้นโดย เรย์ ซานทิลลี ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอังกฤษ และมนุษย์ต่างดาวตัวนั้นก็เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง

9. วินาทีสุดท้ายในเหตุการณ์ 9/11

หลังจากเหตุการณ์ 9/11 ที่ทำเอาช็อคผู้คนไปทั่วโลก ได้มีภาพถ่ายหนึ่งปรากฏบนอินเทอร์เน็ต เผยให้เห็นถึงชายหนุ่มนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ วินาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องบินจะชนตึก ซึ่งภายในภาพจะเห็นเครื่องบินอย่างชัดเจน ซึ่งภาพนี้กลายเป็นกระแสโด่งดังบนอินเทอร์เน็ตและในทีวีอย่างมาก

แต่ภาพดังกล่าวได้ถูกจับผิดได้หลายอย่างเช่น เครื่องบินชนตึกเวลา 8.45 น. แต่ชั้นดาดฟ้าเปิดเวลา 9.30 น. เงาตกกระทบก็ไม่ใช่เวลาตอนเช้า เครื่องบินพุ่งเข้ามาผิดด้านจากความเป็นจริง ลักษณะของเครื่องบินก็แปลกๆ แถมการใส่วันที่ในภาพยังดูไม่เนียนอีกด้วย

10. ละครวิทยุ War of the Worlds

ในปี 1938 ผู้กำกับ ออร์สัน เวลเลส ได้ทำละครวิทยุเรื่อง The War of the Worlds ที่อ้างอิงจากนวนิยายชื่อดังของ เฮอร์เบิร์ต เวลส์ โดยเป็นเรื่องราวของมนุษย์ดาวอังคารที่บุกโจมตีโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ฟังวิทยุในขณะนั้นเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง

ละครวิทยุเรื่องนี้ถูกทำให้คล้ายกับการถ่ายทอดสด โดยมีการขัดจังหวะรายการปกติด้วยการประกาศจากผู้สื่อข่าว แถมด้วยคำพูดจากประธานาธิบดีรูสเวลท์ที่ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ถึงแม้ว่าในวิทุยจะมีการเตือนว่านี่คือการแสดง แต่บางคนก็ไม่ได้สนใจและแตกตื่นจนถึงขนาดอพยพไปนอกเมืองก็มี

11. เครื่องจักรนิรันดร์

ในปี 1813 ชาร์ลส เรดเฮฟเฟอร์ ได้ประกาศตัวว่าเป็นคนคิดค้น “เครื่องจักรนิรันดร์” คือสามารถทำงานไปได้เองเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด หรือในอีกความหมายก็คือเครื่องที่สามารถสร้างพลังงานออกมาได้มากกว่าพลังงานที่รับเข้าไป ซึ่งมันขัดกับกฏทรงพลังงานและไม่อาจเป็นไปได้ในกฏฟิสิกส์

ดังนั้นการประกาศของเรดเฮฟเฟอร์จึงกลายเป็นที่โด่งดังอย่างมาก แต่วิศวกรอย่าง โรเบิร์ต ฟูลตันกลับไม่เชื่อแนวคิดนี้ เขาพิจารณาเครื่องจักรดังกล่าวอย่างละเอียดแล้วก็สรุปว่า ต้องมีแหล่งพลังงานที่ทำให้เครื่องจักรนี้ทำงานได้ ซึ่งพลังงานที่ว่าได้ถูกเปิดเผยภายหลังว่าเป็น ‘ชายชรา’ ที่นั่งอยู่ในห้องใต้หลังคาเป็นผู้ควบคุมเครื่องจักรนี้อยู่เบื้องหลัง

12. ตำนานการเสียชีวิตของ พอล แม็กคาร์ทนีย์

ในปี 1969 ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับ พอล แม็กคาร์ทนีย์ หนึ่งในสมาชิกของวงดนตรีชื่อดัง เดอะบีเทิลส์ ว่าเขาได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และทางต้นสังกัดได้นำตัวปลอมมาสวมรอยแทน ในขณะที่สมาชิกวงคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถเปิดปากพูดได้ แถมยังมีทฤษฎีแปลกๆ ตามมาอีกเพียบ

อย่างภาพหน้าปกอัลบัม The Beatles Yesterday and Today พอล นั่งอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ดูคล้ายโลงศพ

บนหน้าปกของ Sgt. Pepper’s Lonely Hearts Club Band ได้มีดอกไม้ประดับเป็นชื่อวงเดอะบีเทิลส์ ซึ่งดูคล้ายกับการตกแต่งดอกไม้บนหลุมฝังศพ

บนหน้าปกที่โด่งดังบริเวณทางม้าลายบนถนน Abbey Road พอลเป็นเพียงคนเดียวที่เดินเท้าเปล่า ซึ่งเหมือนกับเวลาที่ฝังศพคนตาย จะไม่ใส่รองเท้าลงไปด้วย

หน้าปกอัลบัม Magical Mystery Tour ที่ได้มีการสวมชุดสัตว์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตัววอลรัสสีดำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย

แน่นอนว่าทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาเป็นเรื่องจับแพะชนแกะ และพอล แม็กคาร์ทนีย์ ที่เรายังเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ คือตัวจริงแท้แน่นอน

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา