14 สถานที่ลึกลับจากทั่วโลก ที่มีปริศนาซ่อนอยู่

สำหรับนักผจญภัยที่ชื่นชอบเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก คงคาดหวังว่าจะได้ไปตามสถานที่ๆ น่าสนใจในทุกๆ ประเทศ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถเข้าไปที่ไหนก็ได้ เพราะบางสถานที่ถือเป็นสถานที่ต้องห้าม และยังคงความลึกลับอยู่ตราบในทุกวันนี้

1. สุสานจักรพรรดิ์นินโทกกุ, ญี่ปุ่น

ถึงแม้ในปัจจุบัน สุสานที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้จะถูกเชื่อว่าเป็นสุสานของจักรพรรดินินโทกกุ แต่จากการสำรวจของนักโบราณคดีเมื่อไม่นานมานี้พบว่า เศษซากโอ่งที่พบน่าจะถูกสร้างขึ้นประมาณศตวรรษที่ 5 และอาจจะไม่ใช่สุสานของจักรพรรดินินโทกกุที่เชื่อต่อๆ กันมา ส่วนสุสานแห่งนี้เป็นของใครก็ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้

2. เกาะนอร์ทเซนติเนล, อินเดีย

นี่คือเกาะที่ชาวเผ่าบนเกาะไม่ต้อนรับผู้คนแปลกหน้า และพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่ย่างกรายเข้าไปใกล้เกาะแห่งนี้ ทางการของอินเดียจึงสั่งห้ามนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่ให้เข้าไปใกล้เกาะแห่งนี้เด็ดขาด

3. แอเรีย 51, สหรัฐอเมริกา

แอเรีย 51 ได้รับการยืนยันว่ามีอยู่จริงโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในปี 2013 โดยอ้างอิงจากเอกสารที่ถูกเปิดเผย มันเป็นฐานทัพอาการของสหรัฐที่ถูกใช้ในการพัฒนาและทดสอบอากาศยานแบบใหม่ แต่ก็มีหลายคนที่เชื่อว่า ที่ฐานทัพแห่งนี้มีการเก็บซากจานบิน รวมถึงมีความเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวอีกด้วย

 

4. โบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปีย

โบสถ์ที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 17 ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นที่เก็บ “หีบพันธสัญญา” ที่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดอย่างหนึ่งของคริสตจักร โดยมีผู้พิทักษ์แห่งอาร์ค เป็นบุคคลเดียวที่สามารถเข้าถึงหีบได้ และเขาถูกห้ามไม่ให้พูดคุยกับบุคคลภายนอกอีกด้วย

5. เกาะคาโฮโอลาวี, ฮาวาย, สหรัฐอเมริกา

ในอดีตที่ผ่านมา เกาะแห่งนี้เคยถูกใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นอาณานิคมนักโทษ และเป็นสถานที่ฝึกซ้อมของทหารเรือสหรัฐ ส่วนปัจจุบันเกาะแห่งนี้มีสถานะเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ วิธีเดียวที่คุณจะสามารถเข้าไปได้คือการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอาสาสมัครทำงานฟื้นฟูสภาพแวดล้อมท้องถิ่น

6. หอคอยบีที หรือ บริติชเทเลคอม, สหราชอาณาจักร

ตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดในตึกแห่งนี้ ภัตตาคารหมุนและหอสังเกตการณ์ก็ถูกปิดไม่ให้ผู้คนทั่วไปเข้า ยกเว้นแต่ในบางครั้งเมื่อมีการจัดงานการกุศล ทางหอคอยก็จะอนุญาตเปิดให้ผู้ที่โชคดีมองเห็นกรุงลอนดอนในมุมที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน

7. ศาลเจ้าอิเสะ

นี่คือหนึ่งในศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น คาดว่ามันมีอายุนานกว่า 2,000 ปีและตอนนี้ มีเพียงแค่พระและคนในราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าออกได้ ส่วนคนธรรมดาจะได้ชื่นชมเพียงแค่หลังคาวัดที่โผล่พ้นรั้วอีกหลายชั้น

8. เมืองผีสิงวาโรชา, ไซปรัส

เมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของไซปรัส แต่ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปหลังจากเดือนกรกฎาคม 1974 เมื่อชาวเมืองจำนวนมากต้องอพยพหนีกองกำลังทหารจากตุรกี นับแต่นั้นเป็นต้นมา เมืองวาโรชาจึงกลายเป็นเมืองร้างและถูกปิดล้อมไว้เพื่อเป็นแนวกันชนกับกองทัพตุรกี

9. เกาะเซเบิล, แคนาดา

เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยมีประชากรน้อยกว่า 30 คน แถมยังเป็นสุสานของเรืออัปปางจำนวนมาก ปัจจุบันเกาะเซเบิลถูกประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยหากต้องการเข้าไป คุณจำเป็นต้องเขียนคำร้องต่อรัฐบบาลแคนาดา เพื่ออธิบายถึงความจำเป็นในการเดินทางเข้าไปยังเกาะแห่งนี้

10. Pionen Data Center, สวีเดน

มันถูกสร้างในสตอกโฮล์ม ในระหว่างช่วงสงครามเย็น โดยนี่คือหลุมหลบภัยที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นสำนักงานที่ทันสมัยของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในสวีเดน โดยมันอยู่ลึกลงไปจากพื้นดินราว 98 ฟุต และซ่อนอยู่หลังประตูหนาถึง 3 ฟุตครึ่ง โดยศูนย์ข้อมูลแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเว็บไซต์ชื่อดังมากมายอีกด้วย

11. ถ้า Lascaux, ฝรั่งเศส

ในปี 1940 เด็กหนุ่ม 4 คนในเมือง Lascaux ได้บังเอิญไปพบถ้ำลับแห่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในป่า ซึ่งภายในถ้ำแห่งนี้มีจิตรกรรมฝาผนังของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้วาดไว้ ปัจจุบันนี้ ถ้ำแห่งนี้ได้ถูกปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่ยังสามารถเข้าชมถ้ำจำลองที่ถูกทำมาเสมือนจริงได้

12. สถานีเรดาห์ Don-2N, รัสเซีย

สถานีรูปทรงพีระมิดแห่งนี้มีความสูง 131 ฟุตและกว้างถึง 459 ฟุต โดยมันเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบป้องกันขีปนาวุธของกรุงมอสโก ซึ่งน้อยครั้งที่จะเปิดให้นักข่าวเข้าไปชมสถานที่จริงได้ แต่ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสถานีเท่านั้น

13. ห้องลับบนเขารัชมอร์, สหรัฐอเมริกา

นอกจากรูปปั้นหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่เป็นรูปใบหน้าประธานาธิบดีสหรัฐทั้ง 4 คนแล้ว บนเขารัชมอร์ยังมีห้องลับที่น่าสนใจอยู่บนนั้น ซึ่งนี่เป็นห้องที่เก็บสำเนาเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดเอาไว้ โดยทางเข้าได้ถูกปิดโดยประตูหินแกรนิต พร้อมกลไกล็อคที่ไม่สามารถให้คนนอกเข้าไปได้

14. น้ำตกใต้น้ำ, มอริเชียส

เมื่อมองจากมุมบน เกาะมอริเชียสในมหาสมุทรอินเดียดูเหมือนว่าจะตั้งอยู่บนน้ำตกขนาดใหญ่ใต้ทะเล อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่สวยงามนี้เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นจากสันทรายและเนินทรายใต้ทะเลนั่นเอง

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา