20 สาขาอาชีพจากทั่วโลก พวกเขากินอาหารกลางวันกันแบบไหน

ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกรับประทานอาหารกลางวันตามร้านข้างทางเสียเป็นส่วนใหญ่ นั่นเพราะความสะดวกสบายทั้งเรื่องของการเดินทางที่ใกล้ที่ทำงาน หรือจะเป็นเรื่องของราคาที่เป็นมิตรกับผู้บริโภค แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า แล้วผู้คนต่างสาขาอาชีพจากทั่วโลก เขาจะรับประทานอาหารกลางวันกันแบบไหน ถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ วันนี้เพชรมายาขอนำมาฝากให้ทุกท่านได้ชมกัน

1. ทหารในเรือดำน้ำ (รัสเซีย)

อาหารกลางวันที่ต้องรับประทานใต้น้ำ มักประกอบไปด้วยอาหารกระป๋องที่รับประทานได้ง่าย เปิดแล้วรับประทานได้ทันที ซุปถั่ว และ “พาสต้าสไตล์ทหารเรือ” นอกจากนั้นพวกเขายังมีไวน์และคาเวียร์ในโอกาสพิเศษอีกด้วย แต่นั่นต้องเป็นมื้ออาหารในเรือดำน้ำเท่านั้น ส่วนถ้าอยู่บนบกล่ะก็ เมนูส่วนมากก็มักประกอบด้วยปลา มันฝรั่ง ซุป โดยปริมาณแคลอรีที่แนะนำสูงถึง 1,200 แคลอรี

2. คนงานกะในดินแดนที่แห้งแล้ง (รัสเซีย)

เมื่อนึกถึงดินแดนที่แห้งแล้ง หลายคนอาจคิดไปถึงทะเลทราย แต่สิ่งที่แห้งแล้งกว่าทะเลทรายหลายคนอาจไม่รู้ก็คือพื้นที่ในแถบไซบีเรียที่ห่างไกลในประเทศรัสเซีย และนี่คือหนึ่งหน้าตาอาหารกลางวันของคนงานกะในท่าเรือซาเบตตาที่ห่างไกล พวกเขาถูกห้ามไม่ให้ดื่มแอลกอฮอล แต่ก็มีอาหารหลัก ผัก ผลไม้ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยอาหารทั้งหมดจะถูกจัดส่งมาทางเครื่องบิน เนื่องจากผู้คนไม่สามารถเพาะปลูกใดๆ ได้เลยในพื้นที่แห้งแล้งแห่งนี้

3. นักบินอวกาศ (อเมริกาและรัสเซีย)

นักบินอวกาศจากประเทศต่างๆ บนสถานีอวกาศนานาชาติจะร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน และมักมีการแลกเปลี่ยนอาหารกันอยู่บ่อยครั้ง นักบินของอเมริกาหลายคนชื่นชอบคอทเทจชีสและสตูว์แกะกระป๋องของนักบินรัสเซีย ส่วนของการเตรียมอาหาร นักบินอวกาศจะต้องเทน้ำร้อนใส่ลงในถุงพิเศษและดูดมันด้วยหลอด หรือจะใช้เตาอบแบบพิเศษเพื่ออุ่นอาหาร เกลือและพริกไทยจะถูกบรรจุอยู่ในรูปแบบของเหลว และนักบินอวกาศจะต้องบริโภคอาหารให้ได้มากถึง 3,500 แคลอรีต่อวัน

4. คนงานในโรงงานผลิตเครื่องจักร (เบลารุส)

พาสตาราดซอส ซุปกระหล่ำกับซาวครีม เนื้อทอด ขนมปัง และผลไม้ อาหารเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ในโรงอาหารของโรงงาน ซึ่งมันมีมูลค่าเพียง 1 เหรียญ หรือราวๆ 31 บาทเท่านั้น สำหรับอาหารปริมาณ 500 แคลอรี

5. ทหารบก (รัสเซีย)

ระบบอาหารกลางวันของที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟต์และยังสามารถเลือกได้ว่าจะอะไรจากตัวเลือก 2-3 แบบ ไม่ว่าจะเป็น อาหารจานหลัก จานรอง ซุป สลัด และน้ำผลไม้ ซึ่งคุณสามารถรับประทานอาหารของที่นี่ได้มากถึง 1,980 แคลอรี ภายในมื้อกลางวันเท่านั้น

6. ทหารเรือ (ฟินแลนด์)

ทหารเรือในฟินแลนด์เองก็มีระบบอาหารบุฟเฟต์เช่นกัน โรงอาหารของที่นี่จะมีอาหารที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เช่น มันฝรั่งกับเนื้อหรือสตูว์ เนื้อสเต็ก เนย ขนมปังปิ้ง สลัดผัก ผลไม้ ชาหรือกาแฟ นอกจากนั้น พวกเขายังได้รับนมหรือนมเปรี้ยวในทุกๆ มื้ออีกด้วย

7. กัปตันเครื่องบิน (เนเธอร์แลนด์)

ในทุกๆ สายการบินจะมีกฏที่ระบุว่า นักบินแต่ละคนจะได้รับอาหารที่แตกต่างกันเพื่อลดความเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ ซึ่งส่วนมากแล้วกัปตันจะได้รับประทานอาหารที่เหมือนกับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ กฏการรับประทานอาหารบนเครื่องบินของที่นี่ไม่มีข้อยกเว้นแม่แต่กษัตริย์ของเนเธอร์แลนด์ก็ตาม

8. กัปตันเครื่องบินโลว์คอสต์ (สหรัฐอเมริกา)

สำหรับกัปตันเครื่องบินของสายการบินขนาดเล็กและสายการบินโลว์คอสต์ในอเมริกา จะได้รับอาหารที่เหมือนกับผู้โดยสาร แต่บางคนก็สามารถนำอาหารกล่องที่ทำมาจากบ้านมารับประทานได้ แถมบางครั้งก็มาใช้ห้องครัวที่สนามบินเพื่อทำอาหารของพวกเขาเองอีกด้วย

9. พนักงานเลโก้ (เดนมาร์ก)

ที่นี่มีโรงอาหารแบบบุฟเฟต์ที่พนักงานสามารถเลือกตักอาหารได้ตามใจชอบ ทางบริษัทเลโก้เองมีนโยบายในการทำอาหารเพื่อสุขภาพให้กับพนักงาน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามักเห็นอาหารจำพวกสลัด ผัก และผลไม้ อยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นก็ยังมี เนื้อไก่ เนื้อวัว ชีส และกราโนลาบาร์ ส่วนวันศุกร์ก็จะมีอาหารและของว่างแบบพิเศษให้กับพนักงานอีกด้วย

10. แพทย์ฉุกเฉิน (แคนาดา)

แพทย์ฉุกเฉินของแคนาดามีช่วงเวลาพักกลางวัน แต่ส่วนมากพวกเขามักจะต้องรับประทานอาหารในช่วงว่างจากการทำงาน และเรามักจะเห็นพวกเขาซื้ออาหารตุนเอาไว้ก่อนไปทำงาน และบางคนก็เตรียมอาหารทำเองมาจากบ้าน

11. พนักงานดับเพลิง (สโลวาเกีย)

พนักงานดับเพลิงอาจต้องรับประทานอาหารในระหว่างเดินทาง ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ส่วนอาหารของพวกเขาส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยข้าว ผัดผัก และเนื้อ ซึ่งในขณะที่พวกเขาต้องผจญเพลิงในระหว่างการทำงาน อาจต้องใช้พลังงานมากถึง 500 แคลอรีต่อชั่วโมง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขามักจะกินข้าวเยอะทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

12. เจ้าหน้าที่ FBI และกองกำลังพิเศษ (สหรัฐอเมริกา)

นี่คือตัวอย่างอาหารกลางวันของเจ้าหน้าที่ FBI และกองกำลังพิเศษในฐานทัพเมือง Quantico รัฐเวอร์จิเนีย ที่มีสำนักงานแยกออกมาต่างหาก และพวกเขาก็มีโรงอาหารเป็นของตัวเอง แต่ไม่ใช่อาหารทุกอย่างจะฟรีไปทั้งหมด โดยหน้าตาอาหารที่คุณเห็นอยู่นี้ มีราคา 9.05 เหรียญ ซึ่งอาหารของที่นี่เน้นการให้พลังงานแคลอรีที่สูงเฉลี่ยแล้ว 3,000 แคลอรีต่อวัน โดยเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เพื่อนำไปใช้ในการฝึกพิเศษในแต่ละวัน

13. คนงานเหมือง (เกาหลีใต้)

คนงานเหมืองของที่นี่เน้นการกินข้าวจานใหญ่ คุณอาจเห็นหมูชิ้นโต นม และน้ำเปล่า คนงานเหมืองในหลายๆ ประเทศมักจะใช้กล่องข้าวแบบโลหะ เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารของพวกเขาเย็นลง แต่สำหรับคนงานเหมืองในเกาหลีใต้มักจะใช้เสื้อผ้าของพวกเขาห่อกล่องข้าวแทน

14. พนักงาน Google (อินเดีย)

ในบริษัท Google ของแต่ละประเทศก็จะมีโรงอาหารในบริษัทของตัวเองซึ่งพนักงานสามารถรับประทานได้ฟรีแบบไม่อั้น ซึ่งหน้าตาอาหารก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ส่วนภาพที่เห็นนี้ก็คืออาหารพื้นเมืองของ Google ในประเทศอินเดียนั่นเอง ส่วนตัวผมเองเคยมีโอกาสไปกินที่ Google ประเทศไทย ซึ่งขอบอกว่าเป็นโรงอาหารสำหรับพนักงานที่แจ่มมากๆ

15. นักปีนเขา (โปแลนด์)

นักปีนเขาจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พกพาสะดวก และง่ายต่อการนำมาประกอบอาหาร เนื่องการปีนเขาแต่ละครั้งของนักปีนเขาในโปแลนด์ คุณอาจต้องเจอกับสภาพอากาศที่หนาวติดลบกว่า -34 องศาเซลเซียส ส่วนอาหารที่เรามักเห็นพวกเขากินอยู่เป็นประจำก็คือ ช็อกโกแลต ถั่ว อาหารผงที่ปรุงด้วยน้ำร้อน เช่น ซุป ลาซานญา มันฝรั่งบด หรือแม้แต่พาสตา

16. พนักงาน Facebook (ฮ่องกง)

เช่นเดียวกับ Google เพราะทาง Facebook เองก็มีโรงอาหารสำหรับพนักงานและก็ฟรีเช่นเดียวกัน ซึ่งโรงอาหารของที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเลี้ยงพนักงานในกินดีอยู่ดี บางครั้งอาหารของพนักงานคนเดียวก็เพียงพอสำหรับคนถึง 3 คน นอกจากนั้นพนักงานยังสามารถหยิบขนม ของหวาน ผลไม้กลับไปที่ทำงานของตนเองได้ สิ่งเดียวที่ต้องจ่ายเงินก็คือค่ากาแฟเท่านั้น

17. นักเต้นบัลเลต์ (ญี่ปุ่น)

นักเต้นบัลเลต์จำเป็นต้องฝึกฝนอย่างหนัก และต้องกินอาหารที่ไม่ให้ตัวเองน้ำหนักเพิ่มขึ้น ดังนั้นการรับประทานอาหารของพวกเธอในแต่ละมื้อจำเป็นจะต้องนับจำนวนแคลอรี และรับประทานน้ำตาลให้น้อยที่สุด สำหรับนักบัลเลต์ของญี่ปุ่นจะบริโภคปลา อาหารทะเล ถั่ว ไข่ ผัก ผลไม้ และเจลลี่จำนวนมากเพื่อสร้างสร้างเส้นเอ็น โดยที่พยายามหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์อื่นๆ

18. พนักงานเทสลา (สหรัฐอเมริกา)

พนักงานเทสลาไม่ต้องจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันในการดื่มชา กาแฟ โซดา ซีเรียล อาหารว่างและผลไม้ ซึ่งทางบริษัทเองก็รณรงค์ให้พนักงานรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งอาหารที่เหลือนอกจากนั้น พนักงานจำเป็นจะต้องควักเงินจ่ายเองทั้งหมด

19. นักวิ่งมาราธอน (สโลวาเกีย)

อาหารของนักวิ่งมาราธอนจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ เพราะในบางครั้งพวกเขาจะต้องรับประทานมันในระหว่างวิ่ง กล้วย ของหวาน ช็อกโกแลต โซดา และน้ำดื่มจำนวนมากจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับนักวิ่งมาราธอน ซึ่งในการวิ่งแต่ละครั้ง พวกเขาอาจต้องใช้พลังงานมากถึง 3,000 แคลอรีเลยทีเดียว

20. ตำรวจ (ไทย)

ไม่แน่ใจว่าทำไมเว็บไซต์ Brightside ถึงระบุรวมอาชีพตำรวจไทยไว้ในลิสต์นี้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าอาหารของตำรวจไทยจะน่าสนใจสำหรับฝรั่ง ซึ่งคนไทยเราก็ทราบกันดีว่าตำรวจไทยก็รับประทานอาหารเหมือนๆ กับคนไทยอาชีพอื่นๆ โดยสนนราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับอาหารต่างชาติ แต่ก็อิ่มหนำได้พร้อมกับพลังงานประมาณ 300 แคลอรี

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา