9 บุคคลที่กลายเป็นคนดัง ด้วยวิธีที่แปลกประหลาดที่สุด

ในทุกวันนี้มีบุคคลที่เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงด้วยวิธีแปลก ๆ มากมายเกิดขึ้นอยู่ทุกวัน โดยมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีปะปนกันไป แต่สำหรับวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาชมผู้คนที่กลายเป็นคนดังด้วยวิธีที่แปลกประหลาดในแบบที่คุณคาดไม่ถึงแน่นอน

1. ไรอัน ไบทซ์ แฟนพันธุ์แท้ภาพยนตร์ Speed

ถึงแม้คุณจะชอบภาพยนตร์เรื่อง Speed แค่ไหน แต่ก็คงไม่มีใครที่บ้าคลั่งเหมือนกับชายคนนี้ เรื่องราวมันเริ่มมาจากวันคริสมาสต์ที่ ไรอัน ไบทซ์ ชายผู้ไม่ค่อยมีอันจะกิน แต่ดันเล่นตลกด้วยการซื้อวีดีโอเทปมือสองเรื่อง Speed ถึง 6 ม้วนจากร้านขายของราคาถูก ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก

ต่อมาเขาเริ่มหลงไหลการสะสมวีดีโอเทป Speed จนตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตออกด้วยทางไปด้วยรถตู้ (ที่ได้จากเว็บระดมทุน Kickster) เพื่อออกทำภารกิจสะสมวีดีโอ Speed ทุกที่ทั่วประเทศเท่าที่เขาจะหาได้

2. เดฟ แม็คเฟอร์สัน ลูกค้าคนแรกที่เข้าไปในดิสนีย์แลนด์

ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม 1955 ตอนที่ดิสนีแลนด์ในเมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดตัวเป็นครั้งแรก เดฟ แม็คเฟอร์สัน นักศึกษาวัย 22 ปี มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะเป็นลูกค้าคนแรกที่เข้าไปในดิสนีแลนด์แห่งนี้ เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปตอนเที่ยงคืนก่อนวันที่เปิดเป็นระยะทางกว่า 10 ไมล์ เดินเข้าไปในบูธซื้อตั๋วที่ไม่มีคนและรอไปอีกหลายชั่วโมง จนกระทั่งเขาได้ซื้อตั๋วและกลายเป็นบุคคลแรกที่ได้เข้าไปในดิสนีย์แลนด์ในวันแรกที่เปิดให้บริการ

ถึงแม้เขาจะไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรเลยก็ตาม เพราะต้องกลับไปเรียนหนังสือ แต่ผลตอบแทนที่เขาได้รับก็คือ เดฟ ได้ตั๋วฟรีตลอดชีพในการเข้าไปยังสวนสนุกและรีสอร์ทของดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก ซึ่งต่อมา เดฟกลายเป็นหนึ่งในตำนานของดิสนีย์ ไม่ต่างจากเซเลปคนดังคนอื่น ๆ

3. เออร์เดน อีรุค ผจญภัยรอบโลกด้วยกำลังตนเอง

นักผจญภัยชาวตุกรีผู้มีชื่อเสียงจากการที่เขาเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เดินทางรอบโลกด้วยกำลังกายของตนเอง นั่นหมายความว่า ถ้าเขาต้องเดินทางบนบกเขาใช้วิธีปั่นจักรยานหรือเดิน แต่ถ้าต้องเดินทางทางทะเล เขาก็จะใช้เรือพายที่ถูกออกแบบมาพิเศษ จนสามารถกลับมายังจุดเริ่มต้นที่เขาออกเดินทาง รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น 66,298 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 5 ปีกับอีก 11 วัน

4. นัตยา สุเลมาน คุณแม่ลูกแฝด 8 ผู้ฉาวโฉ่

คุณแม่ที่ให้กำเนิดลูกแฝด 8 ในเดือนมกราคมปี 2009 ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อเมริกา แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ ก่อนหน้าที่เธอจะตั้งครรภ์แฝด 8 เธอมีลูกอยู่แล้วถึง 6 คน จากการใช้วิธีเด็กหลอดแก้วทั้งหมด แถมเธอเองก็ยังถูกฟ้องล้มละลาย เป็นคนว่างงาน การใช้เงินไปกับการศัลยกรรมให้เหมือนแองเจลินา โจลี่ และขัดสนเรื่องเงินจนถึงไปถ่ายภาพนู้ดและหนังโป๊ จนหลายคนตั้งข้อสงสัยถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของเธอ และเชื่อว่าเธอกำลังใช้ลูกตัวเองเป็นเครื่องมือหากิน

5. เฮนเรียตตา แล็กส์ หญิงสาวผู้มีเซลล์มะเร็งอมตะ

ในปี 1951 สตรีชาวแอฟริกันอเมริกันที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกด้วยวัยเพียง 31 ปี แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ถึงแม้ร่างกายเธอจะตายไปแล้ว เซลล์มะเร็งของเธอยังคงมีชีวิตอยู่ มันเติบโตและแบ่งตัวอย่างไม่สิ้นสุดจนถึงทุกวันนี้ เซลล์มะเร็งของเฮนเรียตตาถูกตั้งชื่อใหม่ว่า “เฮลา” ซึ่งมันกลายเป็นเซลล์อมตะที่สร้างคุณประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างมากมาย และด้วยความอัศจรรย์ของเซลล์เฮลา จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนพิจารณาว่ามันไม่ใช่เซลล์มนุษย์ แต่มันควรจะเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่มากกว่า

6. เมห์ราน คาริมี นาสเซรี ชายผู้ใช้ชีวิตในสนามบินนาน 18 ปี

ชายผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านผู้นี้กลายเป็นคนมีชื่อเสียงจากการที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในสนามบิน Charles de Gaulle ประเทศฝรั่งเศส นานถึง 18 ปี ตั้งแต่ปี 1988 จนถึง 2006 แต่การอาศัยอยู่ในสนามบินของเขาไม่ใช่เพราะความเต็มใจ แต่เพราะหลังจากที่เขาถูกเนรเทศออกนอกประเทศอิหร่านและตัดสินใจไปที่ฝรั่งเศส ก่อนที่จะบินต่อไปยังประเทศอังกฤษ

แต่ความซวยก็คือเขาดันทำเอกสารขอลี้ภัยหายที่ฝรั่งเศส ดังนั้นอังกฤษจึงต้องส่งตัวเขากลับมายังฝรั่งเศส ส่วนทางฝรั่งเศสเองก็ไม่สามารถให้เขาปฏิเสธเขาได้เนื่องจากเขาเข้าประเทศมาอย่างถูกกฏหมายตั้งแต่แรก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถออกเอกสารให้เขาได้ แถมยังไม่สามารถออกจากสนามบินได้อีกต่างหาก สุดท้ายเขาก็ต้องติดอยู่ในสนามบินอยู่ได้แค่อาคาร 1 จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ สตีเวน สปีลเบิร์ก ไปทำหนังเรื่อง The Terminal

7. จอห์น เวย์น บ็อบบิตต์ คนดังจากการสูญเสียเจ้าโลก

คืนหนึ่งในปี 1993 ลอเรนาภรรยาของจอห์น เวย์น บ็อบบิตต์ ได้ลุกขึ้นมากลางดึก เธอเดินไปยังห้องครัวพร้อมกับหยิบมีดออกมาเฉือนเจ้าโลกของจอห์นออกในขณะที่เขากำลังหลับ และโยนมันออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนที่เธอจะสำนึกได้และโทรเรียกตำรวจ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเจ้าโลกของจอห์นถูกเจ้าหน้าที่หาพบและนำกลับไปต่อได้เหมือนเดิมด้วยการผ่าตัดที่กินเวลาเกือบ 10 ชั่วโมง

แน่นอนว่าทั้งคู่หย่าขาดจากกัน จอห์นเริ่มคิดวิธีหาเงินจากความมีชื่อเสียงของเขาด้วยการตั้งวงดนตรีชื่อ The Severed Parts (ส่วนที่ตัดออก) และประสบความสำเร็จเล็กน้อย ก่อนที่จะไปแสดงหนังโป๊ 2 เรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อเรื่องว่า แฟรงเก้นเพนิส

8. มิเชล โลติโต มนุษย์ผู้กินได้ทุกอย่าง

นักกินแหลกชาวฝรั่งเศส ที่การกินแหลกของเขาไม่ใช่กินอาหารได้ทุกอย่าง แต่เขากินได้แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร ไม่ว่าจะเป็นแก้ว โลหะ น้ำมันเครื่อง โดยเขาเริ่มกินของแปลก ๆ เหล่านี้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และกลายเป็นนักแสดงโชว์ชื่อดังที่กินได้ตั้งแต่ ยางรถยนต์ จักรยาน รถยนต์ รวมไปถึงเครื่องบินเล็ก Cessna 150 ที่เขาใช้เวลากินนานถึง 2 ปีจนหมดลำ ซึ่งเขาไม่เคยมีผลข้างเคียงจากการกินของแปลก ๆ เหล่านี้เลย แต่ความจริงแล้วฉายากินแหลกอาจไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่ เพราะมีบางสิ่งที่มิเชลไม่สามารถกินได้ เช่น ไข่ต้มหรือกล้วย ที่ทำให้เขาต้องป่วยอย่างรุนแรง

9. โจชัว นอร์ตัน จักรพรรดิคนแรกของอเมริกา

ชายชาวอังกฤษที่อพยพมายังอเมริกาและประสบความสำเร็จกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี แต่ต่อมาเขาก็ประสบปัญหาจากการทำธุรกิจข้าวจนถึงขั้นล้มละลาย และนั่นทำให้เขาเริ่มมีปัญหาทางจิตจนสถาปนาตนเองเป็น “จักรพรรดิคนแรกของอเมริกา” เรื่องของนอร์ตันน่าจะเป็นแค่โจ๊กขำขันในชุมชน จนกระทั่งหนังสือพิมพ์เริ่มนำไปตีข่าวและชาวบ้านเกือบค่อนเมืองก็รับมุขต่อกัน เช่น การประกาศให้ประชาชนโค้งคำนับเมื่อจักรพรรดิเดินผ่าน และทุกคนก็พร้อมใจกันทำตาม

ส่วนผลงานของท่านจักรพรรดิก็มีตั้งแต่ การเดินตรวจความเรียบร้อยในชุมชน สั่งยุบสภาคองเกรส ปลดประธานาธิบดีลินคอล์น สั่งยุบพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ข้อหาขัดแย้งกันอย่างหนัก และยังพิมพ์ธนบัตรเป็นของตนเอง แถมร้านค้าหลายร้านก็ยังยอมรับอีกต่างหาก ส่วนที่พีคที่สุดก็คือการที่ตำรวจจับเขาข้อหาเป็นคนจรจัดและวิกลจริต แต่ชาวบ้านกลับรุมประท้วงจนต้องปล่อยตัว และมีคำสั่งต่อมาว่า ตำรวจทุกนายต้องทำความเคารพนอร์ตันทุกครั้งที่เดินสวนกับเขาบนท้องถนน

ที่มา : whatculture | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ