จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเอาสิ่งของต่าง ๆ ไปแช่ในทะเลที่เค็มที่สุดในโลก

ม.ค. 22, 2018

หลายคนคงเคยผ่านหูผ่านตาในห้องเรียนกันมาบ้างเกี่ยวกับทะเลเดดซี (Dead Sea) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลที่มีความเค็มที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมาก จนได้ฉายาว่า “ทะเลเกลือ” โดยทะเลแห่งนี้มีความเค็มมากกว่าทะเลอื่น ๆ ทั่วไปถึง 9.6 เท่า และเป็นทะเลที่เค็มจนแทบไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลยไม่ว่าพืชหรือสัตว์ ยกเว้นแค่แบคทีเรียและเห็ดราบางชนิดเท่านั้น

ซิกาลิต ลันเดา ศิลปินหญิงชาวอิสราเอลได้เกิดไอเดียที่จะเล่นกับความเค็มของกลัวในทะเลมรณะแห่งนี้ด้วยการสร้างคอลเลกชั่นที่แปลกใหม่ไม่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ใด ๆ ในโลกนี้ ด้วยการนำวัตถุต่าง ๆ ไปแช่ในทะเลเดดซีเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้เกลือในน้ำปกคลุมวัตถุเหล่านั้นจนเกิดเป็นชั้นของเกลือที่หนามาก และคุณจะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงหลังนำสิ่งของเหล่านี้ขึ้นมาจากน้ำ

วัตถุที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น ชุดเดรส ไวโอลิน จักรยาน รองเท้า ตาข่ายจับปลา หรือแม้แต่แตงโม ทุกสิ่งอย่างถูกเกลือจับเป็นชั้นหนา แต่ก็ยังเห็นเป็นรูปทรงของวัตถุนั้น ๆ อยู่

“สิ่งของเหล่านี้ได้ละทิ้งตัวตนที่แสนจะธรรมดาและกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ พวกมันสูญเสียคุณสมบัติเดิมไปและดูดซับคุณสมบัติใหม่พร้อมทั้งจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์เข้ามาแทน” ลันเดากล่าว (อ่านให้เป็นเสียงอาจารย์เฉลิมชัย จะได้อารมณ์มาก)

ในหนังสือของเธอที่ชื่อ Salt Years ได้อธิบายถึงกระบวนการสร้างงานประติมากรรมด้วยเกลือเหล่านี้ไว้ว่า เธอใช้เวลาทำงานกับโครงการนี้มานานกว่า 15 ปีแล้ว

หนึ่งในผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักก็คือ ชุดเจ้าสาวเกลือ (Salt Bride) โดยเธอเริ่มจากนำชุดเดรสสีดำที่มีรูปทรงแฟชั่นในช่วงศตวรรษที่ 19 มาแช่ที่ก้นทะเลเดดซีเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน เพื่อดูว่าผลึกเกลือจะเปลี่ยนชุดสีดำให้กลายเป็นชุดเจ้าสาวสีขาวได้หรือไม่

และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ตามคาด ชุดเดรสสีดำกลายเป็นชุดเจ้าสาวสีขาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมน้ำหนักมันจะเพิ่มขึ้นอีกถึง 150 ปอนด์ หรือ 68 กิโลกรัม

มันไม่ง่ายที่จะนำชุดเดรสไปแช่ที่ก้นทะเล หรือแม้แต่การนำกลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่เธอก็ได้ทีมงานคอยช่วยเหลือ จนในที่สุดก็ได้เห็นผลลัพธ์ความแตกต่างระหว่าง 3 เดือนผ่านไปภายใต้ทะเลเดดซี