ผู้หญิงคนนี้มาเที่ยวกลางคืนในแคนาดา และตื่นเช้ามาพบกับความจริงอันน่าสยอง

คนไทยมักไม่เคยถูกสอนให้ใส่ถุงมือเพื่อป้องกันความเย็นเวลาออกจากบ้าน เพราะบ้านเรานั้นร้อนตับแตกทุกฤดู แต่ถ้าหากเป็นฝรั่งเมืองหนาวล่ะก็ พ่อแม่มักจะสอนลูกๆ ให้สวมใส่ถุงมือทุกครั้งเวลาออกจากบ้านเสมอ นอกจากจะป้องกันความหนาวเย็นแล้ว ยังป้องกันหิมะกัดมืออีกด้วย

หญิงสาวชาวออสเตรเลียคนนี้คงไม่ได้สนใจที่พ่อแม่สอนเท่าไหร่ เพราะในระหว่างที่เธอเดินทางมาเที่ยวที่แคนาดา ก็มีเรื่องที่น่าสยองเกิดขึ้นกับเธอ จนทำให้เธอไม่มีวันลืมมันไปตลอดกาล

เอ็มม่า เคิร์ก ได้ออกไปเที่ยวที่บาร์แห่งหนึ่งในแคนาดา หลังจากนั้นเธอได้ออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกร้าน เพื่อนของเธอบอกว่า เห็นเธอครั้งสุดท้ายตอนเวลา 2.30 น.

เธอบอกว่า เธอไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเงิน ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เธอจึงเริ่มเดินไปรอบๆ ในขณะที่กำลังเมา

เธอถูกพบอีกครั้งเวลาประมาณ 5.30 น. ข้างนอกสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยอากาศที่หนาวเหน็บถึง -30 องศาเซลเซียส

สิ่งต่อไปที่เคิร์กจำได้ก็คือ เธอกำลังเดินเข้าไปในสถานพยาบาลและพยาบาลก็บอกเธอว่า โชคดีที่มือของเธอยังสามารถใช้การได้

อาการหิมะกัด เป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากๆ หากไปสัมผัสหิมะโดยไม่สวมถุงมือ จะเกิดอาการเจ็บ ผิวหนังจะเริ่มซีดชากลายเป็นสีม่วงหรือเทา ไร้ความรู้สึก เลือดจะไปคั่ง ผิวหนังบวม เป็นตุ่มพุพอง ถ้าโดนกัดแบบรุนแรงมากๆ อาจจะถึงกับต้องตัดอวัยวะนั้นทิ้งเลยทีเดียว

อาการบาดเจ็บของเคิร์ก อยู่ในระดับ 3-4 เลยทีเดียว (หิมะกัดมีความรุนแรง 4 ระดับ) 

นิ้วมือของเธอพุพองและเป็นแผลบวมขนาดใหญ่ ซึ่งต้องรีบปฐมพยาบาลโดยผู้เชี่ยวชาญทันที ถือว่าเธอยังโชคดีมากที่ไม่ต้องตัดนิ้วทิ้ง

ถือเป็นอุทหรณ์สำหรับคนไทยที่จะไปเมืองนอกเพื่อเล่นหิมะเลยว่า ควรใส่ถุงมือทุกครั้งเวลาออกไปข้างนอกในอากาศที่หนาวเย็นมากๆ มิฉะนั้น อาจเป็นเช่นนี้

ที่มา : viralnova