ปริศนาคางคกนับพันพองตัวจนระเบิด เรื่องจริงที่ไม่ได้มีแต่ในนิทาน

หลายคนคงเคยได้ยินนิทานอีสปในสมัยเด็กๆ เมื่อวัวตัวหนึ่งเดินมากินน้ำและเหยียบลูกอึ่งอ่างตายไปหลายตัว ลูกๆ จึงไปบอกแม่อึ่งอ่างว่ามีตัวอะไรไม่รู้ ใหญ่มหึมาเดินมาเหยียบพวกเรา แม่อึ่งอ่างได้ยินดังนั้นจึงพยายามพองตัวให้ใหญ่ขึ้น แต่ไม่ว่าจะพองตัวให้ใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ ลูกๆ ก็ยังบอกว่ายังใหญ่ไม่พออยู่ดี และจุดจบของเรื่องนี้คือการที่แม่อึ่งอ่างพองตัวจนระเบิดท้องแตกตาย ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นแค่นิทาน แต่ใครจะไปรู้ว่าในโลกแห่งความจริง ก็มีเหตุการณ์ระเบิดตัวเองจนตาย ซึ่งมันไม่ได้เกิดกับอึ่งอ่าง แต่เป็น “คางคก” ที่พองตัวได้เช่นกัน

ย้อนกลับไปในเดือนเมษายนปี 2005 ที่เขตอัลโทนา เมืองฮัมบรูก ประเทศเยอรมนี เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้พบเห็นคางคกพองตัวจนระเบิด ทำให้เครื่องในกระจายไปไกลเป็นเมตร

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณทะเลสาบ Tümpel des Todes ที่แปลว่า “บึงแห่งความตาย” โดยเป็นที่อยู่อาศัยของคางคกจำนวนมาก

ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่มันเกิดขึ้นต่อเนื่องนานหลายวัน และเกิดบ่อยที่สุดในช่วงเวลาตี 2 ถึงตี 3

เวอร์เนอร์ สโมลนิค นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า มีคางคกอย่างน้อย 1,000 ตัวที่ระเบิดตัวเองตาย ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น

อ้างอิงจากพยาน คางคกจะพองตัวให้ใหญ่ขึ้นราวๆ 3.5 เท่าของขนาดปกติ ก่อนที่ร่างของมันจะระเบิด และพวกมันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนสิ้นใจ

หลังจากเรื่องราวประหลาดนี้ได้แพร่ออกไป ฟรานซ์ มัตชาแมนน์ สัตวแพทย์จากเบอร์ลินได้เข้ามาทำการเก็บรวบรวมซากคางคกเหล่านี้เพื่อนำไปตรวจสอบหาสาเหตุ ซึ่งเขาเองได้สันนิษฐานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของ “อีกา” ในบริเวณบึงแห่งความตายนี้นั่นเอง

แล้วทำไมอีกาถึงมีส่วนทำให้คางคกจำนวนมากระเบิดตัวเองได้ล่ะ? ฟรานซ์ได้ให้เหตุผลว่า อีกาเป็นสัตว์ที่ฉลาดมากและชอบกินเฉพาะ “ตับคางคก” เนื่องจากคางคกเป็นสัตว์มีพิษ ดังนั้นการกินคางคกทั้งตัวจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของอีกาสักเท่าไหร่

น่าแปลกที่อีกาสามารถรู้ตำแหน่งตับของคางคกได้เป็นอย่างดี พวกมันจะใช้จงอยปากจิกผ่านผิวหนังคางคก และดึงเอาเฉพาะตับไปกินเท่านั้น

หลังจากที่อึ่งอ่างถูกโจมตี กลไกป้องกันตัวของมันจึงทำงานโดยอัตโนมัติ นั่นคือการพองตัวให้ใหญ่ขึ้น คางคกที่ไม่มีกระบังลมหรือซี่โครง รวมถึงตับที่คอยยึดอวัยวะอื่นๆ เข้าด้วยกัน ทำให้พวกมันพองตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนหลอดเลือดและปอดแตกออก และระเบิดตัวเองตายในที่สุด

ถึงแม้ในอดีตที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นมาแล้ว อย่างเช่นบันทึกการระเบิดตัวเองของคางคกครั้งแรกในเยอรมนีเมื่อปี 1968 รวมถึงเหตุการณ์ที่คล้ายกันในเบลเยียม เดนมาร์ก และสหรัฐอเมริกา แต่ก็ไม่มีเคสไหนที่รุนแรงและดูสยดสยองเท่านี้มาก่อน ซึ่งฟรานซ์ได้สรุปเหตุการณ์นี้เอาไว้ว่า “ไม่มีเหตุผลที่เราต้องกังวลอะไร มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติเท่านั้นเอง”

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : wikipedia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา