รู้หรือไม่? ทำไมโลโก้ Apple มีรอยกัด และประวัติศาสตร์โลโก้ของ Apple

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมโลโก้ของ Apple จะต้องมีรอยกัดให้แหว่งด้วย ทำไมไม่เป็นแอปเปิ้ลเต็มใบแบบปกติทั่วไป

apple-logo-history

ย้อนกลับไปในอดีต โลโก้แอปเปิ้ลในอดีต ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 1976 ไม่ได้เป็นรูปแอปเปิ้ลเหมือนอย่างทุกวันนี้ โรนัลด์ เวนย์ หนึ่งในผู้ก่อนตั้งบริษัทร่วมกับ สตีฟ จ็อบ และ สตีฟ ว๊อซเนียก ได้ทำการออกแบบโลโก้ออกมาเป็นรูป เซอร์ ไอแซค นิวตัน นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ โดยมีผลแอปเปิ้ลอยู่บนหัว

apple-logo-history-01

ต่อไปไม่กี่วัน โรนัลด์ เวนย์ ถอนตัวออกไป เหลือ 2 สตีฟ ช่วยกันก่อร่างสร้างบริษัท จนได้ฤกษ์ออกเครื่อง Apple II จ็อบส์ จึงว่าจ้างให้บริษัท Rigis McKena ออกแบบโลโก้ใหม่ให้ โดยมี ร็อบ จานอฟฟ์ อาร์ตไดเร็คเตอร์ ของบริษัทรับหน้าที่นี้

apple-logo-history-02

โลโก้รูปแอปเปิ้ลนี้จึงเกิดขึ้น แต่เนื่องจากมีหลายคนที่ดูไม่ออกว่ามันคือรูปแอปเปิ้ล บ้างก็ว่าเหมือนผลเชอร์รี่ บ้างก็ว่าดูเหมือนมะเขือเทศ จานอฟฟ์ จึงตัดสินใจ เพิ่มรอยกัดลงไป (อารมณ์เหมือน สโนไวท์ กัดผลแอปเปิ้ล ซึ่งหากเป็นรูปผลไม้ที่มีรอยกัด คนจะนึกถึงแอปเปิ้ลทันที) นอกจากนั้นคำว่า “กัด” ในภาษาอังกฤษคือ “Bite” พ้องเสียงกับคำว่า “Byte” ที่หมายถึงหน่วยความจำ ที่สื่อถึงคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

apple-logo-history-03

ส่วนเรื่องสีสัน จ็อบส์ ให้ความเห็นว่า โลโก้แอปเปิ้ลควรจะมีสีสัน ซึ่งเป็นช่วงที่เปิดตัว Apple II โดยเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลหน้าจอเป็นสีสันได้ เจนอฟฟ์จึงใส่แถบสีเพิ่มเติมลงไป 

apple-logo-history-04

โลโก้แอปเปิ้ลสีรุ้งที่มีรอยกัดนี้ ถูกใช้มายาวนาน ตั้งแต่ปี 1976 ถึง 1998 จนกระทั่งถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นสีดำและสีเงินแบบที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันนี้นั่นเอง

ที่มา : tribune | เรียบเรียงโดย เพชรมายา