จัดอันดับเหลวที่มีราคาแพงที่สุดในโลก อะไรบ้างที่แพงแบบที่คุณคาดไม่ถึง

ถ้านึกถึงสิ่งของที่มีราคาแพง เรามักจะนึกถึงเพชร ทองคำ หรืออัญมณีหายากที่ดูหรูหรา แต่ในความเป็นจริงบนโลกใบนี้ยังมีสิ่งต่างๆ ที่มีราคาแพงอยู่อีกมากมายเต็มไปหมด แต่วันนี้เพชรมายาจะขอหยิบยกเฉพาะ “ของเหลว” ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกมาให้ทุกท่านได้ชมกัน มาลองดูกันว่าของเหลวที่คุณคิดว่ามันแพงในใจของคุณตอนนี้ จะติดอันดับหรือไม่

***หมายเหตุ: 1 แกลลอน = 3.78541 ลิตร และของเหลวบางชนิดไม่ได้ราคาสูงโดยธรรมชาติ แต่อาจต้องผ่านกระบวนการบางอย่างก่อน***

อันดับ 15: น้ำยาลบคำผิด 150 เหรียญต่อแกลลอน (4,970 บาท)

หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อลิควิดที่ใช้ลบคำผิดนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันตัวลิควิดเองก็มีมากมายหลายประเภท โดยส่วนผสมของมันประกอบไปด้วยผงสี สารนำสีหรือตัวเนื้อลิควิด ตัวทำละลาย และสารเติมแต่ง ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวลิควิดเองมีราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับปริมาณของเหลวในขวด

อันดับ 14: เพนนิซิลลิน 226 เหรียญต่อแกลลอน (7,500 บาท)

เพนนิซิลลิน หรือ ฟีนอกซิลเมตทิลเพนิซิลลิน คือกลุ่มของยาที่อยู่ในกลุ่มหลักๆที่เรียกกันว่า บีตา-แลคแทม โดยคุณสมบัติของยานี้คือเป็นยาที่ใช้รักษาในการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ออกฤทธิ์โดยการขัดขวางการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรียทำให้ผนังเซลล์แบคทีเรียอ่อนแอและถูกทำลาย

อันดับ 13: น้ำมันหอมระเหยแพทชูรี่ (พิมเสน) 605 เหรียญต่อแกลลอน (20,070 บาท)

น้ำมันแพทชูรี่ หรือน้ำมันพิมเสนเทศ ใช้เป็นส่วนผสมเครื่องสำอาง ใช้ในสปา โดยมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ สร้างเซลล์ผิว รักษาแผลเป็น จึงสามารถนำไปเจือจางเพื่อรักษาสิว ผิวหนังอักเสบและผดผื่นคันได้ หลักๆ แล้วจะนิยมใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางโดยมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวที่หยาบกร้านมีริ้วรอยชุ่มชื้นขึ้น

อันดับ 12: เลือดมนุษย์ 1,330 เหรียญต่อแกลลอน (49,780 บาท)

ถึงแม้เลือดมนุษย์จะไม่ใช่เป็นสิ่งที่หายาก แต่ใครจะรู้บ้างว่า กระบวนการหลังจากที่ได้รับเลือดที่บริจาคมาแล้วมันแพงมากมายขนาดไหน และนั่นขึ้นอยู่กับว่ามีการซื้อขายกันที่ไหนของโลกอีกด้วย

อันดับ 11: ยาทาเล็บ 2,200 เหรียญต่อแกลลอน (73,010 บาท)

นี่คือราคาของยาทาเล็บยี่ห้อ Essie แบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บที่ได้ชื่อว่าทนต่อรอยขีดข่วนที่สุดและสดใสสว่างที่สุดในโลก และด้วยคุณภาพที่เต็มเปี่ยมขนาดนี้จึงทำให้ทาง Essie ต้องตั้งราคาของยาทาเล็บพวกเขาให้สูงตามไปด้วยนั่นเอง

อันดับ 10: กรดแกมมาไฮดรอกซีบิวทีริก (GHB) 2,210 เหรียญต่อแกลลอน (73,340 บาท)

GHB สามารถใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า, นอนไม่หลับ และโรคลมหลับ และโดยปกติแล้วจะถูกใช้เป็นยาชาในทางการแพทย์ ซึ่งมันสามารถพบได้ในระบบประสาทส่วนกลางของมนุษย์อีกด้วย นอกจากนั้น GHB ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “ยาเสียสาว” นั่นเอง

อันดับ 9: หมึกปรินเตอร์สีดำ 2,380 เหรียญต่อแกลลอน (78,990 บาท)

ไม่สำคัญว่าเครื่องปรินเตอร์ของคุณจะราคาเท่าไหร่ แต่ราคาหมึกปรินเตอร์มักจะราคาแพงลิบลิ่วเสมอ ซึ่งราคาหมึกปรินเตอร์ก็จะมีหลากหลายแตกต่างกันไป ส่วนยี่ห้อไหนที่แพงๆ หน่อยล่ะก็ การซื้อหมึกปรินเตอร์เพียงไม่กี่ครั้ง ก็มีราคาแพงกว่าตัวปรินเตอร์ไปเสียแล้ว

อันดับ 8: ปรอท 2,966 เหรียญต่อแกลลอน (98,440 บาท)

ปรอทคือโลหะเพียงชนิดเดียวที่มีสภาพเป็นของเหลวเมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้องโดยมันมักจะถูกใช้ไปกับเครื่องมือแพทย์บางชนิด เช่นเครื่องวัดอุณหภูมิ นอกจากนั้น มันยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เคมี โลหะ ไฟฟ้า รวมถึงการเกษตร แต่เนื่องจากมันเป็นสารพิษ จึงมักถูกควบคุมอย่างเข้มงวด

อันดับ 7: อินซูลิน 13,100 เหรียญต่อแกลลอน (434,780 บาท)

ตั้งแต่ปี 2002-2013 ราคาของอินซูลินเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่า และถึงแม้จะอยู่อันดับ 7 แต่แนวโน้มราคาของอินซูลินดูจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยนิตยสาร HF Magazine ได้ระบุราคาของอินซูลินอยู่ที่ 9,400 เหรียญต่อแกลลอน แต่ในความเป็นจริง อินซูลินถูกขายแพงมากตั้งแต่ 15,000 – 100,000 เหรียญ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างในแต่ละประเทศ

อันดับ 6: Chanel No.5 23,300 เหรียญต่อแกลลอน (773,320 บาท)

Chanel No.5 คือน้ำหอมที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก โดยมันถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1922 จากการร่วมมือกันระหว่าง โคโค่ ชาแนล และ เออร์เนสต์ โบซ์ ที่ผลิตน้ำหอมออกมามากกว่า 80 กลิ่น และกลิ่นที่โดนใจโคโค่ที่สุดก็คือน้ำหอมหมายเลข 5 ซึ่งกลายมาเป็นชื่อของน้ำหอม Chanel No.5 นั่นเอง

อันดับ 5: เลือดแมงดาทะเล 53,250 เหรียญต่อแกลลอน (1,767,360 บาท)

เลือดของแมงดาทะเล ไม่มีฮีโมโกลบิน แต่พวกมันมีฮีโมยานินแทน นั่นจีงเป็นเหตุผลที่เลือดแมงดาทะเลมีสีฟ้า ซึ่งเลือดของแมงดาทะเลจึงถูกนำมาใช้ในการแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรียอันตรายที่อาจปนเปื้อนอยู่ในวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เนื่องจากเลือดแมงดาทะเลมีคุณสมบัติไวต่อสิ่งเร้าเป็นพิเศษ โดยจะจับตัวเป็นก้อนทันทีเมื่อสัมผัสกับเชื้อโรคและแบคทีเรีย และหลังจากที่เลือดของมันถูกดูดออกมาแล้ว แมงดาทะเลก็จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

อันดับ 4: LSD 109,200 เหรียญต่อแกลลอน (3,624,340 บาท)

LSD ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษที่ 1960 ในฐานะของยาหลอนประสาทยอดนิยม ซึ่งมีทั้งดาราและคนดังมากมายที่เคยติดยาอันตรายตัวนี้ LSD ถูกจัดให้เป็นยาเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทที่รุนแรงที่สุด โดย LSD จำนวน 1 แกลลอน สามารถหลอนประสาทผู้คนได้มากถึง 55,000 คน

อันดับ 3: พิษงูจงอาง 137,000 เหรียญต่อแกลลอน (4,503,880 บาท)

พิษของงูจงอาง มีความรุนแรงมากขนาดฆ่าช้างที่โตเต็มวัยได้สบายๆ และพิษของมันมันถือว่าเป็นหนึ่งในพิษงูที่ร้ายแรงที่สุดในโลก ส่วนประกอบของพิษงูจงอางคือโปรตีนที่เรียกว่า Ohanin ที่ถูกใช้มาทำเป็นยาแก้ปวด ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามอร์ฟีนถึง 20 เท่า นอกจากนั้นมันยังถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคพากินสัน, อัลไซเมอร์, โรคจิตเภช และโรคซึมเศร้า

อันดับ 2: พิษแมงป่อง 34,626,000 เหรียญต่อแกลลอน (1,149,236,000 บาท)

แมงป่องใช้พิษของมันในการจัดการกับเหยื่อและต่อกรกับผู้ล่าของมัน แต่มีแมงป่องเพียงแค่ 25 ชนิดเท่านั้นที่มีพิษที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ อย่างไรก็ตาม โปรตีนที่พบในพิษของแมงป่อง สามารถนำไปใช้รักษาอาการเจ็บปวดของมนุษย์จากโรคเส้นโลหิตตีบหลายเส้น (MS), โรคลำไส้อักเสบ และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

อันดับ 1 : เหล้าที่แพงที่สุดในโลก 35,598,000 เหรียญต่อขวด (1,181,497,000 บาท)

นี่คือราคาของเหล้าที่มีชื่อว่า D’Amalfi Limoncello Supreme โดยมันถูกบ่มด้วยเปลือกเลมอนที่มาจากชายฝั่ง Amalfi ที่อยู่ภายใต้สูตรดั้งเดิมของแคว้นคัมปาเนียในอิตาลี และนั่นทำให้มันมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้มันราคาแพงหูฉี่ขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็คือขวดของมันที่ประกอบไปด้วยเพชร 3 เม็ดที่มีน้ำหนักรวม 13 กะรัต และเพชรหายากที่มีน้ำหนัก 18.5 กะรัตที่อยู่ตรงกลางขวดนั่นเอง โดยเจ้าเหล้าขวดนี้ถูกผลิตมาเพียงแค่ 2 ขวดในโลกเท่านั้น

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา