15 ปริศนา “ยาคูลท์” ไขกระจ่าง ที่จะทำให้คุณนอนตายตาหลับสักที

มีใครเคยสงสัยเกี่ยวกับยาคูลท์เหมือนผมบ้างว่า ยาคูลท์มันคือเครื่องดื่มที่ทำมาจากอะไร แลคโตบาซีลัส มันคืออะไร แล้วทำไมมันอินดี้จัง หากินก็ยาก ต้องตามหาสาวยาคูลท์อีก แถมไม่มีใน 7-11 ด้วย แต่วันนี้ผมมีคำตอบของคำถามที่หลายๆ คนสงสัยมาฝาก หลังจากอ่านทั้งหมดแล้ว ปริศนาต่างๆ เกี่ยวกับ “ยาคูลท์” ทั้งหมดจะต้องไขกระจ่างแน่นอน

1. มีอะไรอยู่ในขวด “ยาคูลท์”

yakult-01

นมคืนรูปขาดมันเนย, น้ำตาล, น้ำ, สารแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ และจุลินทรีย์ชิโรต้า 8 พันล้านตัว ต่อ 1 ขวด

2. จุลินทรีย์ที่อยู่ในยาคูลท์คืออะไร

yakult-02

จุลินทรีย์ที่อยู่ในยาคูลท์ หรือ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า เป็นกลุ่มเชื้อแบคทีเรียกรดนมที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีอยู่แล้วตามธรรมชาติในลำไส้เล็ก เป็นสายพันธุ์ที่มีความพิเศษเฉพาะของยาคูลท์ เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ สำหรับชื่อสายพันธุ์ ชิโรต้า นั้นได้ตั้งให้เป็นเกียรติแก่ ดร. มิโนรุ ชิโรต้า ผู้ค้นพบ

3. จุลินทรีย์ที่อยู่ในยาคูลท์ให้ประโยชน์อย่างไรบ้าง

yakult-03

ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ยับยั้งการสร้างสารพิษของแบคทีเรียที่ให้โทษ ช่วยให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง และการติดเชื้อ

4. ยาคูลท์ ต่างกับ โยเกิร์ต ทั่วไปอย่างไร

yakult-04

ทั้งยาคูลท์ และ โยเกิร์ต จัดเป็นนมเปรี้ยวเช่นเดียวกันซึ่งได้มาจากการหมักนมด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิต แต่สำหรับยาคูลท์ใช้จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสเน้นการทานเพื่อสุขภาพของระบบลำไส้

5. ยาคูลท์มีพลังงานเท่าไหร่

yakult-05

ยาคูลท์ 1 ขวด ให้พลังงาน 71 กิโลแคลอรี่

6. สียาคูลท์ เป็นสีธรรมชาติหรือไม่

yakult-06

ยาคูลท์ไม่มีการเติมสีเจือปนใดๆ เลยแม้แต่น้อย สีที่เป็นเอกลักษณ์นี้เกิดขึ้นจากกระบวนการหมักที่ได้จากกระบวนการ Caramelisation ตามธรรมชาติ

7. ทำไมในยาคูลท์ต้องมีน้ำตาล

yakult-07

เพื่อเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมแก่แบคทีเรีย ช่วยให้แบคทีเรียมีชีวิตอยู่ได้ระหว่างช่วงเวลาการเก็บรักษาจนถึงมือลูกค้า

8. ยาคูลท์มีสารกันบูดหรือไม่

yakult-08

ยาคูลท์ไม่มีการเติมสารกันบูด และสารกันการตกตะกอน (Stabilizer) เพราะกรดนมในยาคูลท์ที่เกิดจากจุลินทรีย์ชิโรต้า ถูกสร้างขึ้นในระหว่างกระบวนการหมักที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เน่าเสีย

9. ทำไมยาคูลท์ ถึงต้องดื่มแค่วันละ 1 ขวด

yakult-09

ผู้ผลิตแนะนำให้ดื่ม 1 ขวดต่อวัน เพื่อส่งเสริมสมดุลด้านบวกของแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้

10. ดื่มยาคูลท์วันละ 2 ขวด ได้หรือไม่

yakult-10

ยาคูลท์ คืออาหาร ฉะนั้นการดื่มมากกว่าหนึ่งขวดต่อวันนั้นจึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพียงแต่การดื่มหนึ่งขวดต่อวันจะให้แบคทีเรียในปริมาณที่เพียงพอสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีหนึ่งคน ในบางครั้งบางคราวคุณอาจต้องการดื่มสองขวดเพื่อให้ลำไส้ได้รับการเสริมแรงอย่างจริงจังก็สามารถทำได้เช่นกัน

11. ควรเก็บยาคูลท์ในตู้เย็นหรือไม่

yakult-11

ควรเก็บยาคูลท์ไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส เพื่อคงคุณภาพของยาคูลท์ และสามารถแช่แข็งได้เช่นกัน

12. ผู้หญิงมีครรภ์ดื่มยาคูลท์ได้หรือไม่

yakult-12

ยาคูลท์เหมาะกับผู้หญิงมีครรภ์ เนื่องจากในยาคูลท์มีจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อดื่มแล้วอาการท้องผูกหรืออาหารไม่ย่อยในระหว่างตั้งครรภ์จะหายไป

13. ทำไมยาคูลท์ถึงมีแต่ขวดเล็ก 80cc ขนาดเดียว ไม่มีขวดใหญ่

yakult-13

ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับปริมาณแนะนำที่ควรดื่มในแต่ละวันคือ 1 ขวดเล็ก และการที่ร่างกายรับเชื้อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสมากเกินไป จะทำให้ท้องเสียได้เพราะฉะนั้น จึงไม่มีการผลิตขวดใหญ่

14. ขวดยาคูลท์ทำมาจากอะไร

yakult-14

พลาสติก Polystyrene ที่สามารถใช้บรรจุอาหารได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และวัสดุปิดฝาขวดคือ Aluminum Foil

15. ทำไมถึงใช้ระบบสาวยาคูลท์ส่งตามที่ต่างๆ และไม่มีขายใน 7-11 และห้างสรรพสินค้า

yakult-15

ทางผู้บริหารของยาคูลย์ได้ให้เหตุผลว่า ที่ไม่ยอมวางจำหน่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้า แต่เลือกที่จะให้สาวยาคูลย์เป็นตัวแทนจำหน่ายนั้นก็เพราะ กระบวนการผลิตไม่เพียงพอต่อลูกค้า และเพื่อเป็นการรักษานโยบายในการเลี้ยงพนักงาน ไม่ให้สาวยาคูลท์ต้องตกงานอีกด้วย (แต่บางคนก็บอกเคยเจอใน 7-11 แค่บางสาขาเท่านั้น)

ส่วนใครต้องการเป็นสาวยาคูลท์ล่ะก็ ติดต่อสาวยาคูลท์สิคะ

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : yakultthailand | เรียบเรียงโดย เพชรมายา