7 พิธีกรรมความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับการกิน จากทั่วโลก

เรื่องของพิธีกรรมความเชื่อ มักเป็นเรื่องที่อาจหาเหตุผลไปอธิบายได้ยาก และมันมักจะเกิดขึ้นแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ตามแต่ละภูมิภาค ซึ่งหากใครที่ได้มีโอกาสเดินทางไปยังต่างประเทศบ่อยๆ อาจเคยได้เห็นหรือเข้าไปสัมผัสกับพิธีกรรมความเชื่อบางอย่างของคนท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งวันนี้เพชรมายาอยากจะพาทุกท่านไปชมพิธีกรรมความเชื่อที่เกี่ยวกับ “การกินอาหาร” ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ Amica International ซึ่งคุณจะได้เห็นว่า โลกเราใบนี้มีพิธีกรรมแปลกๆ เกี่ยวกับการกินมากน้อยแค่ไหน รวมถึงไทยเองก็เช่นกัน

1. มื้อค่ำ KFC ในคืนคริสต์มาส ในประเทศญี่ปุ่น

ตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นไม่เคยมีการฉลองคริสต์มาสมาก่อน จนกระทั่งในปี 1974 ทาง KFC ญี่ปุ่นได้เล็งเห็นโอกาสที่จะโปรโมทไก่ทอดของตัวเองให้เป็นมื้ออาหารค่ำในคืนคริสต์มาส

และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดไก่ทอดเซ็ตพิเศษให้กับลูกค้าในชื่อ “KFC Special Christmas Dinner” ที่มีทั้งไก่ทอดแบบเซ็ตครอบครัว ขนมเค้ก และไวน์ ซึ่งต่อมา มีการคาดการณ์ว่ามีชาวญี่ปุ่นกว่า 3.5 ล้านครอบครัว ที่สั่งไก่ทอด KFC มาฉลองกันในคืนวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และการสั่งไก่ทอดชุดพิเศษที่รวมเค้กกับไวน์นี้ จำเป็นต้องสั่งล่วงหน้านานนับสัปดาห์ ส่วนใครที่อยากซื้อหน้าร้านอาจต้องเข้าคิวนานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว

2. อาหารมื้อสุดท้าย ในประเทศอินโดนีเซีย

ในภูมิภาคสุลาเวสีของอินโดนีเซีย เมื่อมีสมาชิกของชนเผ่าโทราจาต้องจากโลกนี้ไป พวกเขาไม่ได้ถูกฝังหรือถูกเผาทันที ในความเป็นจริงแล้ว ร่างไร้วิญญาณจะถูกเก็บรักษาเอาไว้ในบ้านนานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือบางเคสก็หลายปี รวมถึงการพาไปนั่งที่โต๊ะอาหารและมีการนำอาหารมาให้รับประทาน 4 มื้อต่อวัน ประเพณีนี้เกิดขึ้นมาในสมัยศตวรรษที่ 9 และยังดำเนินอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

3. ดื่มโลหิตวัว ในประเทศเคนยา

การดื่มโลหิตวัว เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมที่มีที่มาคลุมเครือ แต่เชื่อว่าผู้คนในอดีตที่ต้องเดินทางไกลข้ามทะเลทราย จำเป็นต้องหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อดื่มดับกระหาย ในกรณีที่น้ำเปล่าของพวกเขาหมดลง ซึ่งการหาแหล่งน้ำอื่นๆ ท่ามกลางทะเลทรายที่กว้างใหญ่ถือเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้วิธีนี้จะดูโหดร้ายทารุณ แต่มันกลายเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้พวกเขารอดชีวิตได้

ส่วนพิธีกรรมในปัจจุบัน บรรดานักรบของชนเผ่ามาไซยังคงทำพิธีกรรมนี้อยู่ การดื่มอาจมีการนำไปผสมกับนมหรือต่อมาจากเส้นเลือดของวัวโดยตรง ส่วนวัวก็จะไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการเจาะเลือดออกมา ยกเว้นแต่จะมีการทำพิธีกรรมใหญ่อื่นๆ นอกจากนั้น ชาวมาไซยังมองว่าโลหิตวัวเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เด็กๆ ที่กำลังโตหรือสตรีที่กำลังตั้งครรภ์จะได้รับโลหิตวัวสดๆ มาดื่มทุกวันอีกด้วย

4. การกลิ้งชีส ในประเทศอังกฤษ

เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวอังกฤษนั้นชอบรับประทานชีส จนถึงกับมีการเฉลิมฉลองด้วยการนำชีสมาทำเป็นวงล้อที่มีน้ำหนักกว่า 8 ปอนด์ ให้กลิ้งลงมาจากเนินเขา แล้วก็ปล่อยให้ผู้คนจำนวนมากวิ่งไล่ชีสก้อนนั้นลงมา

พิธีกรรมนี้เชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากพวกนอกรีตในสมัยก่อน โดยมีชื่อเรียกว่า The Cooper’s Hill Cheese Roll and Wake โดยมีต้นกำเนิดมาจากชาวบ้านในหมู่บ้านบร็อกเวิร์ธและกลูเคสเตอร์เชียร์ ความสนุกมันอยู่ที่ ชีสเพียงชิ้นเดียวจะถูกกลิ้งลงมา ผู้คนจำนวนมากจะต้องวิ่งลงเนินมาเพื่อแย่งชีสเพียงชิ้นเดียวนี้ แน่นอนว่าทุกคนต่างล้มระเนระนาด ล้มกลิ้งล้มหงายลงมาจากเนินเขา และมีผู้เดียวเท่านั้นที่จะได้รับชีสกลับบ้านไป แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือความภาคภูมิใจที่ได้ชนะในพิธีกรรมแปลกๆ นี้

5. ปาร์ตี้เห็ดเมา ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย

ด้วยสภาพของภูมิอากาศที่หนาวจัดและภูมิประเทศที่แห้งแล้ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซีย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบนี้จึงไม่ได้มีกิจกรรมให้ทำมากสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม ชาวคอร์ยัค ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้คิดค้นพิธีกรรมสนุกสนานขึ้นมาโดยใช้ตัวช่วยก็คือ “เห็ดเมา”

ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวคอร์ยัคจะมารวมตัวจัดปาร์ตี้กันในตอนกลางคืน และสิ่งที่พวกเขาทำก็คือปาร์ตี้กินเห็ดเมา ที่ทำให้ทุกคนต่างสลบไหลแล้วก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกหวาดหวั่น แต่หลังจากไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ชาวคอร์ยัคจะดีดถึงขีดสุดโดยมีพลังทำสิ่งต่างๆ ด้วยความสนุกสนานครื้นเครง และถ้าทุกอย่างดูจะเละเทะเกินเลยไป พวกเขาจะล้างเห็ดกับปัสสาวะตัวเองในแก้ว เพื่อทำให้ปาร์ตี้ดำเนินต่อไปได้

6. สาดไวน์ ในประเทศสเปน

มีพีธีกรรมเกี่ยวกับอาหารแปลกๆ มากมายในสเปน และหนึ่งในนั้นก็คือเทศกาลสาดไวน์ Haro Wine Festival ในภูมิภาค La Rioja เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันซานเปโดร ซึ่งในเทศกาลดังกล่าว ผู้คนจะออกมาร้องเพลง เต้นรำ และดื่มไวน์ แต่ไม่ใช่แค่ดื่ม เพราะพวกเขาก็นำไวน์มาสาดใส่กันเหมือนกับการสาดน้ำเล่นสงกรานต์บ้านเราอีกด้วย

ประเพณีสาดไวน์นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เมื่อชาวเมืองฮาโร ได้ทำการตีเส้นแบ่งเขตระหว่างเมืองตนเองกับเมืองข้างเคียงอย่างชัดเจน เส้นดังกล่าวต้องถูกทำขึ้นใหม่ทุกๆ ปี เพื่อรักษาตำแหน่งเดิมของมัน มิฉะนั้นไม่เมืองใดก็เมืองหนึ่งอาจถูกกินพื้นที่เป็นของอีกเมืองได้ กาลเวลาผ่านไป 400 ปี เส้นดังกล่าวได้พังหายไป และชาวเมืองต่างก็นำไวน์มาสาดใส่กันจนกลายเป็นสงครามไวน์ในที่สุด

7. เทศกาลกินเจ ในประเทศไทย

เชื่อว่าคนไทยคงคุ้นเคยกับเทศกาลกินเจในประเทศไทยอย่างดี สำหรับฝรั่งต่างประเทศอาจหลงเข้าใจผิดถ้าฟังแค่ชื่อ เพราะหลงคิดว่าเป็นเทศกาลที่รับประทานแต่อาหารมังสวิรัติ แต่หากเป็นเทศกาลกินเจในจังหวัดภูเก็ตล่ะก็ มันจะแตกต่างออกไปจากชื่ออย่างสิ้นเชิง

เทศกาลกินเจในภูเก็ต มีต้นกำเนิดมาจากประเพณีของลัทธิเต๋า ที่ชาวจีนที่เรียกว่า”เจี๊ยะฉ่าย” โดยจัดขึ้นเป็นเวลา 9 วัน โดยจะมีการเดินขบวนแสดงอภินิหารของ “ม้าทรง” จำนวนมาก ด้วยการนำของมีคม เหล็กแหลม แทงเข้าร่างกายของตนเอง โดยมีการอ้างว่าม้าทรงเหล่านี้ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น

ที่มา : amica-international.co.uk | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ