เวลาไปซื้อของส่วนใหญ่เราอาจไม่ได้ใส่ใจว่าพวกเครื่องหนังที่คุณไปซื้อกันเป็นหนังแท้หรือหนังเทียม แต่บางครั้งแม่ค้าอาจบอกคุณว่า กระเป๋าหรือรองเท้าที่พวกเขาวางขายอยู่เป็นหนังแท้จึงมีราคาสูง แต่คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่พวกเขาพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า วันนี้เพชรมายาจะมาสอนให้คุณรู้จักวิธีแยกแยะให้ออกระหว่างหนังแท้และหนังเทียม มันแตกต่างกันตรงไหนบ้าง
1. หนังแท้เก็บความร้อน
หนังเทียมไม่เก็บและคายความร้อน แต่หนังจริงเมื่อได้รับความร้อนมาจะเก็บอุณหภูมิเอาไว้ชั่วขณะ และถ้าคุณวางหนังแท้เอาไว้ข้างกับหนังเทียม คุณจะเห็นความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน
2. ลายที่เป็นเอกลักษณ์
หนังแท้มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนหนังเทียมจะมีลวดลายที่ซ้ำๆ กัน และมีจุดเล็กๆ ที่มีขนาดเท่าๆ กันทั้งหมด แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกเช่นกัน ที่หนังเทียมจะลายที่เหมือนกับหนังแท้ แต่สุดท้ายลายของมันก็จะซ้ำๆ กันอยู่ดี นอกจากนั้นโครงสร้างหนังแท้จะมีรูขุมขนที่คุณสามารถสังเกตได้ด้วยอุปกรณ์ช่วยอย่างแว่นขยาย รูขุมขนจะกระจายอยู่ทั่วแผ่นหนังแท้ ถึงแม้เทคโนโลยีในปัจจุบันนี้จะลอกเลียนได้ แต่คุณสามารถมองออกได้ว่ามันเป็นแค่งานพิมพ์เท่านั้น
3. ตรวจสอบด้านหลัง
ลองพลิกแผ่นหนังดูด้านหลัง คุณจะเห็นว่าหนังแท้มีเส้นใยหนังที่นิ่มอยู่มากมาย ในขณะที่หนังเทียมจะมีลักษณะเหมือนผ้าหรือใยสังเคราะห์ นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้วิธีเดียวกันนี้ในการแยกแยะหนังเทียมออกจากหนังเทียมคุณภาพสูงที่เรียกว่า Eco Leather ได้ เพราะถึงแม้ด้านหน้าของหนังจะมีลักษณะเหมือนกัน แต่ด้านหลังหนังเทียมจะเป็นผ้าเสมอ
4. ตรวจสอบน้ำหนัก
หนังแท้จะมีน้ำหนักมากกว่าหนังเทียมเสมอ นอกจากนั้นน้ำหนักของหนังแท้แต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น หนังแกะจะมีน้ำหนักเบากว่าหนังวัว ส่วนหนังเทียมจะเบากว่าอย่างเห็นได้ชัด จนบางครั้งมันเบาเหมือนกับผ้าเลยทีเดียว
5. ดมกลิ่น
หลายๆ คนคงทราบดีว่า รองเท้าหนังเทียมมักจะมีกลิ่นเฉพาะของมัน ซึ่งมันคือกลิ่นสารเคมีที่ยากจะกำจัดออกได้ ส่วนหนังแท้คุณภาพสูงจะมีกลิ่นเบากว่าและไม่ชวนให้ปวดหัว ผู้ผลิตหนังเทียมบางรายได้เพิ่มกลิ่นพิเศษที่เลียนแบบหนังแท้เข้าไป แต่คุณอาจหลงกลได้เฉพาะในหนังเทียมคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ถ้าดมให้ดี มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะซ่อนกลิ่นของสารเคมีเอาไว้อย่างมิดชิด
6. ปฏิกิริยากับความชื้น
นี่คือวิธีที่ง่ายมากที่จะบอกความแตกต่างระหว่างหนังแท้และหนังเทียม แต่มันยากตรงที่คุณไม่สามารถทดสอบด้วยวิธีนี้ก่อนซื้อได้ แต่ถ้าคุณทำได้ล่ะก็ หนังแท้จะดูดซึมน้ำเสมอ ซึ่งหนังสีอ่อนจะทำให้คุณเห็นได้อย่างชัดเจนเวลาโดนน้ำ เพราะจะกลายเป็นรอยด่างสีเข้มขึ้นมา และจะอยู่แบบนั้นจนกว่าความชื้นจะหายไป ส่วนหนังเทียมจะไม่ซึมน้ำและสีของมันก็จะไม่เปลี่ยนไปเลย
7. การสัมผัส
หนังแท้ (ยกเว้นถูกเคลือบเงา) จะไม่เรียบเสียทีเดียว มันจะมีพื้นผิวที่ขรุขระนิดหน่อยเสมอ ส่วนหนังเทียมจะเรียบเนียนและออกมันๆ ถ้าคุณงอหนังแท้ มันจะเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย แต่จะไม่มีรอยพับใดๆ ส่วนหนังเทียมจะไม่เปลี่ยนสี และมีรอยย่นที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน
นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่าเราควรใส่ใจเรื่องราคา เพราะหนังแท้คุณภาพดีจะมีราคาไม่ถูก และโปรดจงรู้ไว้ว่า หนังแท้ก็มีมากมายหลายประเภท ประเภทราคาถูก ได้แก่พวกหนังหมู หนังวัว จะมีราคาถูก ส่วนมากเรามักจะเห็นได้จากรองเท้า แจ็คเก็ต เข็มขัด ซึ่งจะมีความหนาความแข็งแตกต่างกันไป
หนังที่ราคาแพงขึ้นไปหน่อยก็พวกหนังลูกวัว หนังแพะ หนังแกะ ที่มีความนุ่มและทนทาน แต่จะมีความบางกว่าและไม่เปลี่ยนรูปร่าง ส่วนหนังที่มีราคาแพงก็จำพวกหนังจระเข้ หนังงู หนังนกกระจอกเทศ ถือเป็นหนังที่มีคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง สุดท้ายก็อยู่ที่ว่าคุณชอบหนังแบบไหน พึงพอใจที่จะจ่ายในราคาสูงเพื่อให้ได้ใส่หนังแท้หรือเปล่า
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside| เรียบเรียงโดย เพชรมายา