สิ่งที่สำคัญในการทำงานในองค์กร คือการทำงานอย่างเปิดใจกับเพื่อนร่วมงาน แต่การเปิดใจนั้นไม่ใช่การเปิดเผยทุกสิ่ง เพราะการเปิดเผยในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร อาจส่งผลต่อหน้าที่การงานของคุณอย่างร้ายแรง และนี่คือ 12 สิ่งที่คุณไม่ควร “เปิดเผย” ให้คนอื่นรับรู้ ถ้าหากคุณอยากจะเติบโตในหน้าที่การงานในฐานะ “มนุษย์เงินเดือน”
1. เปิดเผยว่า “คุณเกลียดงานที่กำลังทำอยู่”
ไม่มีใครอยากได้ยินเพื่อนร่วมงานบ่นเรื่องานตัวเองให้ฟัง นั่นจะทำให้คุณถูกมองว่าเป็นคนที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อองค์กรอีกด้วย
2. เปิดเผยว่า “คุณคิดว่าคนอื่นไร้ความสามารถ”
การประกาศให้คนอื่นรู้ว่า ใครสักคนไร้ความสามารถ ไม่ได้ทำให้คุณดูมีความสามารถมากขึ้น หากคุณมีโอกาสช่วยเหลือคนที่คุณว่า จงทำให้คนอื่นเห็นว่า คุณเป็นคนให้โอกาสคน และพยายามช่วยเหลือคนอื่น มากกว่าที่จะดูถูกคนอื่น
3. เปิดเผยว่า “คุณได้เงินเดือนเท่าไหร่”
พ่อแม่และครอบครัวคุณยินดีที่จะฟังว่าคุณได้เงินเดือนมากเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่กับเพื่อนร่วมงาน เพราะไม่ว่าองค์กรไหนๆ ก็ไม่สามารถจัดสรรเงินเดือนให้ยุัติธรรมกับทุกคนได้แน่นอน ยิ่งรู้เงินเดือนกัน ยิ่งมีแต่ความอิจฉาริษยา
4. เปิดเผย “ความเชื่อด้านการเมืองและศาสนา”
ใครๆ ก็รู้ว่า 2 เรื่องนี้ ไม่เข้าใครออกใคร แม้แต่พี่น้องแท้ๆ หรือพ่อแม่ก็บ้านแตกสาแหรกขาดก็มี ไม่ว่าจะการเมือง หรือ ศาสนา คุณไม่ควรจะเปิดเผยจะดีที่สุด เพราะคุณและเพื่อนร่วมงานอาจตีกันเพราะความเชื่อไม่ตรงกันก็เป็นได้
5. เปิดเผย “ทุกสิ่งที่คุณทำบนเฟสบุ๊ค”
สิ่งสุดท้ายที่เจ้านายคุณต้องการเห็นก็คือ รูปไปเที่ยวเมาสุดเหวี่ยงจนอ้วกอยู่ริมถนน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ ไม่จำเป็นต้องโพสต์ลงเฟสบุ๊คเสียทั้งหมด เพราะเจ้านายคุณเขาอาจแยกแยะไม่ออก เวลาที่ต้องตัดสินใจโปรโมทคุณขึ้นมาเป็นเจ้าคนนายคน
6. เปิดเผย “เรื่องบนเตียงของคุณเอง”
ส่วนใหญ่คนไทยก็ไม่ได้ใจกล้าพอที่จะมาคุยเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก และมันก็ไม่เหมาะที่จะไปเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟัง เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าใครหัวโบราณแค่ไหนกับเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะหัวหน้าที่อายุมากกว่าคุณ
7. เปิดเผย “เรื่องบนเตียงของคนอื่น”
โดยเฉพาะเรื่องรสนิยมทางเพศของเพื่อนร่วมงาน ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งวุ่นวายที่สุด หากคุณต้องตกไปอยู่ในสถานการณ์เมาท์มอยเรื่องเหล่านี้ล่ะก็ พยายามสื่อสารเป็นกลางให้มากที่สุด จะเป็นผลดีต่อตัวเรามากที่สุดเช่นกัน
8. เปิดเผยว่า “นี่เป็นผลงานของฉัน”
การทะเยอทะยานในที่ทำงานเป็นสิ่งดี แต่กลวิธีที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย ต้องไม่ใช่การเอาดีเข้าตัวแต่เพียงคนเดียว ความเห็นแก่ตัว การไม่แยแสเพื่อนร่วมงาน ถือเป็นหายนะในการทำงาน พนักงานที่ดี พวกเขาจะต้องการให้ทีมสำเร็จ ไม่ใช่แค่ตัวเองสำเร็จ
9. เปิดเผยว่า “คุณเกเรอย่างไรในสมัยเรียน”
ไม่ได้มีผลดีอะไรแม้แต่น้อย ในการที่เพื่อนร่วมงานคุณรู้เกี่ยวกับอดีตที่ไม่ดีของตัวคุณ แถมยิ่งจะทำให้เกิดภาพในแง่ลบในตัวเรามากขึ้นไปอีก ถึงแม้เรื่องราวอาจจะผ่านมา 10-20 ปีแล้วก็ตาม
10. เปิดเผยว่า “คุณเป็นคนขี้เมาแค่ไหน”
คุณอาจคิดว่า การที่คุณเป็นสิงห์นักดื่มและมาทำงานได้ตลอดจะไม่มีผลกระทบอะไร แต่ภาพที่เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานมองคุณอาจไม่ใช่แบบนั้น เพราะบางคนอาจมีความคิดเชิงลบกับของมึนเมาเหล่านี้ ซึ่งถ้าวันไหนคุณทำงานพลาด อาจจะโดนโยงไปเกี่ยวกับเรื่องแอลกอฮอล์ก็เป็นได้
11. เปิดเผย “มุขตลกก้าวร้าว”
สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดอีกสิ่งหนึ่งคือ มุขตลกก้าวร้าว ที่อาจทำให้คุณเป็นคนน่ารังเกียจในที่ทำงาน เช่น การล้อเลียนคนอื่น เห็นความผิดพลาดคนอื่นเป็นเรื่องตลก เอามาพูดแซว หรือมุขตลกที่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวในชีวิตคนอื่นก็เช่นกัน
12. เปิดเผยว่า “คุณกำลังหางานใหม่อยู่”
เหมือนเป็นการสกัดขาตัวเองให้ล้ม เพราะหากเจ้านายคุณรู้ว่าคุณกำลังหางานใหม่อยู่ล่ะก็ นั่นคือการปิดโอกาสการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานที่เก่าทันที แล้วในช่วงทีคุณยังหางานไม่ได้ คุณอาจจะเจอการใช้งานหนักกว่าเดิมก็เป็นได้
อ่านมาจนครบ 12 ข้อแล้ว คิดว่าตัวเองทำไปกี่ข้อเอ่ย?
ที่มา : businessinsider