ตามปกติแล้ว โลกจะหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วมากกว่า 1,000 ไมล์หรือประมาณ 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่เส้นศูนย์สูตร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าจู่ ๆ โลกของเราหยุดหมุนกะทันหัน หลายคนอาจจินตนาการไปต่าง ๆ นานา บางคนอาจคิดว่ามันไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมาก แต่บางคนก็คิดว่ามันน่าจะส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเป็นจุดจบของโลกก็ว่าได้
วันนี้เพชรมายาขอพาทุกท่านไปชมคำตอบที่หลาย ๆ คนเคยสงสัยและอยากรู้ มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อโลกหยุดหมุนกะทันหัน
1. วัตถุทั้งหมดบนโลกจะปลิวไปด้วยความเร็วสูง
สเตน โอเดนวาลด์ นักบินอวกาศจากนาซากล่าวว่า มนุษย์เราไม่ได้รับรู้ถึงความเร็วมหาศาลที่โลกกำลังหมุนอยู่ แต่ถ้ามันหยุดลง ทุกอย่างบนพื้นผิวจะถูกฉีกออกจากพื้นและปลิวไปทางทิศตะวันออกด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งตกลง ในขณะที่เส้นศูนย์สูตรความเร็วจะอยู่ที่ 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบริเวณที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกจะมีความเร็วถึง 1,300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. คลื่นยักษ์ที่ยิ่งกว่าสึนามิ
ด้วยความรุนแรงที่เกิดจากการหยุดหมุนจะทำให้น้ำทะเลและมหาสมุทรทั้งหมดบนโลกเกิดเป็นเคลื่นยักษ์ที่ยิ่งกว่าสึนามิไปทางทิศตะวันออก และกวาดล้างทุกอย่างที่อยู่บนชายฝั่งทั้งหมดไปไกลกว่า 28 กิโลเมตรภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที
3. ลมพายุที่รุนแรง
บรรยากาศของโลกจะยังเคลื่อนที่ต่อไปและเกิดอากาศที่ไหลเวียนไปทั่วโลกด้วยความเร็วมหาศาลถึง 1,770 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเป็นไปได้ที่โลกจะสูญเสียชั้นบรรยากาศบางส่วนไป
4. เกิดเป็นมหาสุมทรและทวีปใหม่
โดยปกติ น้ำในมหาสมุทรจะรวมตัวกันที่บริเวณเส้นศูนย์สูตรเนื่องจากแรงเหวี่ยง แต่การหยุดหมุนของโลกจะทำให้พื้นน้ำและพื้นดินเปลี่ยนไป น้ำในมหาสมุทรทั้งหมดไหลไปยังขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโรงโน้มถ่วงมากที่สุด ส่วนตรงกลางของโลกก็จะถือกำเนิดเป็นทวีปใหม่ที่ติดกันแทน
5. ภัยธรรมชาติทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้น
แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจะส่งผลในเกิดการสั่นสะเทือนไปถึงแกนโลก ผลลัพธ์ที่พอจะคาดเดาได้ก็คือภัยธรรมชาติต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุเฮอร์ริเคน ที่จะทำลายล้างทุกพื้นที่บนโลกใบนี้
6. โลกจะกลมมากยิ่งขึ้น
การหมุนของโลกจะสร้างแรงเหวี่ยงที่ทำให้บริเวณขั้วโลกแบน และบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะมีความนูน แต่ถ้าโลกหยุดหมุน โลกเราก็จะมีลักษณะเป็นทรงกลมมากยิ่งขึ้น
7. ภูมิอากาศที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
หากโลกหยุดหมุนรอบตัวเองแต่ยังคงหมุนรอบดวงอาทิตย์ต่อไป ฝั่งที่หันหน้าเข้าดวงอาทิตย์จะร้อนเหมือนดั่งทะเลทรายและมีแต่กลางวัน ส่วนโลกอีกด้านและบริเวณขั้วโลกที่ไม่เจอแสงอาทิตย์เลยจะหนาวเย็นราวกับแอนตาร์กติกาและจะมืดมิดตลอดกาล และ 1 วันของโลกจะยาวนานเท่ากับ 1 ปี
8. สนามแม่เหล็กของโลกจะหายไป
สนามแม่เหล็กของโลกจะมีหน้าที่ปกป้องโลกของเราจากรังสีคอสมิกที่เป็นอันตราย รวมถึง “ลมสุริยะ” กระแสอนุภาคระจุไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากชั้นบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์ และมันสามารถทำลายทุกสิ่งที่มีชีวิตบนโลกใบนี้ได้
9. สมมุติว่ามนุษย์รอดจาก 8 ข้อด้านบน
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นข้างต้นจะส่งผลให้ไม่มีมนุษย์คนใดบนโลกใบนี้อยู่รอดได้ แต่ถ้าคุณเกิดรอดชีวิตขึ้นมาก็จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ การย้ายไปอยู่ระหว่างพรมแดนของกลางวันและกลางคืน ชีวิตที่ต้องย้ายลงไปอยู่ใต้ดินและจะออกข้างนอกได้ด้วยการสวมชุดป้องกันรังสี
10. สุดท้าย ดวงจันทร์จะตกลงสู่โลก
ศจ.วอห์น แพร็ตต์ จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกล่าวว่า ดวงจันทร์จะค่อย ๆ หมุนช้าลงและระยะห่างจากโลกก็จะลดลงเรื่อย ๆ จนเมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะตกลงมาบนโลกเรา และเมื่อถึงตอนนั้นจะไม่มีใครที่อยู่รอดบนโลกนี้ได้อีกต่อไป
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ