ในขณะที่พวกเราส่วนใหญ่รู้จักทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมากที่แพร่หลายอยู่บนโลกออนไลน์ แต่หากย้อนกลับไปในอดีต มีแนวคิดเก่า ๆ ไม่น้อยที่แอบซ่อนไปด้วยทฤษฎีสมคบคิด แต่พวกเราเองก็ยังยืนยันที่จะเชื่อทฤษฎีเหล่านั้น ทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่คุณเชื่อเป็นเรื่องโกหก
เดวิด ฮันด์สเนส นักจิตวิทยาจาก Pet Earthling ได้อธิบายเรื่องนี้ใน TikTok ส่วนตัวของเขา โดยชี้ให้เห็นว่า อีโก้ของคนเรามีบทบาทสำคัญที่ทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้ยังคงแพร่ระบาดอยู่ไม่หายไปไหน
“อีโก้เกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมคบคิดอย่างไร ? จริง ๆ แล้วมันเป็นเชื้อเพลิงให้กับทุก ๆ ทฤษฎีสมคบคิด”
“ข้อแรก เมื่อมันขาดข้อมูลบางอย่าง ทฤษฎีสมคบคิดจะเติมข้อมูลที่ขาดหายไป”
“ข้อสอง เมื่อมีบางสิ่งทีให้เกิดความวิตกกังวล ทฤษฎีสมคบคิดจะช่วยให้คุณคาดเดาได้ว่าภัยคุกคามนั้นมาจากไหน ดังนั้นมันจึงไม่ดูเหมือนมั่ว”
“ข้อสาม มันคือความต้องการตามกลุ่มของคุณ ดังนั้นหากพรรคการเมืองของคุณหรือกลุ่มอะไรก็ตามของคุณเชื่อในทฤษฎี คุณก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อมันมากขึ้น”
“และข้อสี่ มันคืออีโก้”
“ผู้คนที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดเชื่อว่าพวกเขาอยู่ในกลุ่มที่พิเศษที่รู้ความจริงเท่านั้น พวกเขาคิดว่าตนมีความรู้ที่เหนือกว่า ในขณะที่คนส่วนใหญ่เป็นเพียงแกะที่โง่เขลาและถูกหลอกได้ง่าย”
“มาเริ่มกันที่ตัวอย่างง่าย ๆ ลองนึกภาพคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนหรือในอาชีพการงาน ลึงลงไปในจิตใจพวกเขารู้สึกด้อยกว่า แต่ถ้าพวกเขาเชื่อทฤษฎีสมคบคิด ตอนนี้พวกเขาจะรู้สึกว่าตนเองฉลาดกว่าคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ และคนในกลุ่มเดียวกันก็จะบอกพวกเขาอย่างนั้น”
“ลองนึกภาพคนที่มีการศึกษาดีและอาชีพการงานอย่างเช่นหมอ เราเคยเห็นแพทย์ไม่กี่คนที่ต่อต้านวัคซีนและหน้ากาก แล้วทำไมพวกเขาถึงทำอย่างนั้น เหตุผลเดียวกันก็คือ – อีโก้”
“บางทีก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือได้รับการยกย่องใด ๆ แต่ด้วยการสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด จู่ ๆ พวกเขาก็ได้รับเชิญไปในฐานะผู้เชี่ยวชาญ และใบหน้าพวกเขาก็ปรากฎอยู่ในช่องข่าวระดับประเทศ และคนในกลุ่มต่างก็ยกย่องพวกเขาว่าเป็นวีรบุรุษที่เก่งกาจ”
“มันเป็นที่น่าดึงดูดใจ และสำหรับหลายคนแล้ว การถูกยกย่องและความรู้สึกพิเศษนั้นคุ้มค่ากับการที่ถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกพวกเขา”
“อันที่จริง อีโก้ที่สูงขึ้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นรากฐานของทฤษฎีสมคบคิดทั้งหมด ส่วนอีก 3 ข้อเป็นส่วนที่ช่วยให้ทฤษฎีสมคบคิดแพร่กระจายออกไปเท่านั้น แต่มันไม่จำเป็นต้องมีก็ได้”
“ตัวอย่างเรื่องโลกแบน เราขาดข้อมูลที่บอกว่าโลกกลมหรือไม่ ? ไม่เลย เรามีหลักฐานมานานหลายศตวรรษแล้ว”
“มีเหตุให้ต้องวิตกกังวลหรือไม่ ? ก็ไม่อีก โลกกลมไม่ได้คุกคามใครเลย”
“มีกลุ่มสังกัดใดที่เชื่อเรื่องนี้อย่างจริงจังหรือไม่ ? ไม่มีนะ อย่างน้อยก็ในช่วงชีวิตเรา”
“แต่ชาวโลกแบนเชื่อว่าพวกเขามีความรู้พิเศษที่เหนือกว่า ดังนั้นมันช่วยเพิ่มอีโก้ของพวกเขาให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับทฤษฎีการลงจอดบนดวงจันทร์เป็นเรื่องโกหก หรือรัฐบาลกำลังปกปิดเรื่องยูเอฟโอ รวมถึงทฤษฎีสัมพันธภาพก็ผิด เพราะลึก ๆ แล้วพวกเขาต้องการฉลาดกว่าไอน์สไตน์”
หากย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ทฤษฎีสมคบคิดล้วนเป็นเรื่องตลกที่ไม่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโลกแบน การลงจอดบนดวงจันทร์ปลอม การพบเจอยูเอฟโอตก แต่ในประวัติศาสตร์ทั่วโลก ทฤษฎีสมคบคิดเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ตัวอย่างที่เช่นได้ชัดที่สุดก็คือ ผู้คนจำนวนมากที่กำลังต่อต้านวัคซีนอยู่ในขณะนี้
เดวิด ฮันด์สเนส แนะนำว่า การที่จะเปลี่ยนความคิดของพวกเขา ต้องเกิดจากการที่ไม่ทำให้พวกเขาเสียหน้า ความเชื่อของพวกเขาจะต้องถูกหักล้างโดยบางคนที่พวกเขาเชื่อใจ เช่นคนในกลุ่มเดียวกันหรืออย่างน้อยก็คนที่เป็นกลาง
แล้วคุณล่ะ ตัวคุณเองหรือมีคนใกล้ตัวที่ยังเชื่อทฤษฎีสมคบคิดใด ๆ อยู่บ้างหรือเปล่าในตอนนี้
ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา