นี่คือการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมผสานกับทักษะการตีดาบมานานกว่า 400 ปี
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Final Aim บริษัทออกแบบ Web3 ของสหรัฐ/ญี่ปุ่น และ Studio Shikumi องค์กรศิลปะของโตเกียวได้จับมือกันออกแบบดาบคาตานะด้วยการสร้างแบบจำลอง 3 มิติและเทคโนโลยี Web3 พร้อมการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำให้ดาบเล่มนี้มีความแข็งแกร่งที่สุด และลดปริมาณการใช้วัสดุที่ช่วยลดน้ำหนักดาบทำให้จับได้สบายมากที่สุด
ดาบดังกล่าวมีชื่อว่า “ทาจิ” โดยมาจากตัวอักษรคันจิของญี่ปุ่นที่ถูกใช้ คำว่าทาจิในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ‘ดาบ’ หรือ ‘ยืนขึ้น/ลุกขึ้น’ ซึ่งทั้งสองคำนี้สื่อถึงดาบคาตานะเล่มนี้ที่เป็นนวัตกรรมใหม่แห่งยุคได้เป็นอย่างดี
หลังจากการออกแบบเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ต้องหาช่างตีดาบที่เหมาะสมสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้น ดังนั้นทาง Final Aim และ Studio Shikumi ได้ขอให้ทาง คูนิฮิระ คาวาจิ หรือ คาวาจิโนะคามิ คูนิสุเกะ รุ่นที่ 15 ช่างตีดาบมากฝีมือเป็นผู้สร้างดาบคาตานะเล่มนี้ขึ้น
หากย้อนกลับไปเมื่อ 400 ปีก่อน คาวาจิโนะคามิ คูนิสุเกะ คือช่างตีดาบที่มีชื่อเสียงในเมืองโอซากะและนาระ ซึ่งตามประเพณีแล้ว ช่างตีดาบระดับปรมาจารย์ที่เกษียณอายุจะส่งต่อชื่อของเขาไปยังลูกศิษย์ที่มีความสามารถที่สุด และในปัจจุบันนี้ คูนิฮิระ คาวาจิ คือผู้สืบทอดชื่อของ คาวาจิโนะคามิ คูนิสุเกะ เป็นรุ่นที่ 15
และผลลัพธ์ที่ออกมาของ ‘ทาจิ’ นั่นก็คือดาบคาตานะที่มีรูปทรงราวกับดาบที่มาจากอนาคต ถึงแม้ว่ามันจะดูแตกต่างจากดาบคาตานะโดยทั่วไป แต่มันก็ยังมีกลิ่นอายความเป็นดาบญี่ปุ่นโดยเฉพาะลักษณะคมด้านเดียวที่เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของดาบคาตานะ
สำหรับดาบทาจิชิ้นนี้ถูกนำไปจัดแสดงในนิวออร์ลีนส์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกนำไปจัดแสดงในญี่ปุ่นเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้น ดาบจะถูกผลิตมาเพื่อวางจำหน่ายผ่านทาง Studio Shikumi แต่ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนแต่อย่างใด
ที่มา : soranews24 | prtimes | เรียบเรียงโดย เพชรมายา