5 โอกาสทอง ! ส่งของจากไทยไปไต้หวัน ขายอะไร ได้กำไรงาม ?

ไต้หวันคือตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและชื่นชอบสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์ แต่ต้องการมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งการส่งของจากไทยไปไต้หวันยังเป็นเรื่องที่ทำได้สะดวกสบาย ผู้ประกอบการไทยจึงมีโอกาสสร้างกำไรได้สูง หากเลือกสินค้าถูกกลุ่มและเข้าใจกฎระเบียบ นี่คือ 5 โอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตามองในตลาดไต้หวัน

1. เครื่องปรุงรสสำเร็จรูป หัวใจของครัวไทยในไต้หวัน

ความนิยมในอาหารไทยทำให้ ผงพริกแกง น้ำปลา ซอสพริก และเครื่องปรุงสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่ชาวไต้หวันซื้อซ้ำเพื่อปรุงอาหารเอง โอกาสคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สะดวกต่อการใช้งาน (Ready-to-Cook) และเน้นรสชาติเข้มข้นแบบต้นตำรับ อย่างไรก็ตาม ในการส่งของจากไทยไปไต้หวัน ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านอาหาร (TFDA) ของไต้หวันอย่างเคร่งครัดเรื่องส่วนผสมและการติดฉลาก

2. ผลไม้แปรรูปพรีเมียม รสชาติเขตร้อนที่หาไม่ได้

ทุเรียนอบกรอบ มะม่วงอบแห้ง และผลไม้เขตร้อนแปรรูปอื่น ๆ ยังคงเป็นที่ต้องการสูง เพราะเป็นรสชาติแปลกใหม่และเป็นของฝากยอดนิยม กุญแจสำคัญคือการเน้นคุณภาพพรีเมียม บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามทันสมัย และการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้า Mass Market ทั่วไป

3. ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและอโรมา ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ

ผู้บริโภคไต้หวันหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามจากธรรมชาติมากขึ้น ยาดม ยาหม่อง เครื่องหอม และผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพี จึงขายดีอย่างต่อเนื่องในฐานะสินค้าสุขภาพ โอกาสคือการเน้นจุดแข็งของสมุนไพรไทย (Wellness) และการออกแบบที่เรียบหรูสไตล์มินิมอล แต่ต้องตรวจสอบกฎระเบียบการนำเข้าเครื่องสำอางและสารเคมีควบคุมให้ละเอียดก่อนส่งของจากไทยไปไต้หวันทุกครั้ง

4. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ตลาด Functional Drink เติบโต

เนื่องจากคนไต้หวันมีแนวโน้มใช้จ่ายเพื่อสุขภาพมากขึ้น เครื่องดื่มประเภท Functional Drink ที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำตะไคร้ หรือเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพอื่นๆ มีโอกาสเข้าตลาดได้ดี หากสามารถนำเสนอคุณประโยชน์ที่ชัดเจนและมีงานวิจัยสนับสนุน และต้องระวังการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริงซึ่งเป็นข้อห้ามในไต้หวัน

5. สินค้าหัตถกรรมดีไซน์ ขายเอกลักษณ์ผ่านออนไลน์

อีกหนึ่งทางเลือกในการส่งของจากไทยไปไต้หวัน คือสินค้าหัตถกรรมไทยดีไซน์สร้างสรรค์ เช่น กระเป๋าผ้า เครื่องประดับ หรือของตกแต่งบ้าน ควรเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซท้องถิ่นอย่าง PChome หรือ Pinkoi การเล่าเรื่องราว (Storytelling) ของผลิตภัณฑ์จะช่วยเพิ่มมูลค่าและดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความแตกต่างได้

การส่งออกไปไต้หวันให้ได้กำไรงาม ต้องเน้นสินค้าที่ไทยมีความได้เปรียบด้านเอกลักษณ์ (อาหาร สมุนไพร ดีไซน์) ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้เทียบเท่ากฎเกณฑ์ของไต้หวัน การใช้บริษัทส่งของจากไทยไปไต้หวันที่มีคุณภาพ และการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการทดลองตลาดและสร้างการรับรู้ ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงในไต้หวันได้