การซื้อผ้าอนามัยของผู้หญิงก็เปรียบเหมือนกับการเดินไปซื้อน้ำอัดลมในร้านสะดวกซื้อ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นผู้ชายที่ถูกวานให้ไปซื้อผ้าอนามัยจากแฟนสาว คุณยินดีที่จะไปซื้อหรือไม่ หรือจะมีความไม่มั่นใจในการหยิบผ้าอนามัยเพื่อไปจ่ายเงินบ้างหรือเปล่า
นี่คือเรื่องราวของหญิงสาววัย 23 ปีที่กลายเป็นกระแสบน Reddit หลังเธอออกมาระบายความคับข้องใจหลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอปฏิเสธที่จะออกไปซื้อผ้าอนามัยให้ ซึ่งธอมองว่ามันเป็นเรื่องตลกที่ไร้สาระมาก ๆ
เธอเปิดประเด็นด้วยหัวข้อที่ว่า “ฉันแย่หรือเปล่าที่บอกแฟนหนุ่มว่าความเป็นชายของเขาช่างเปราะบางหลังจากที่เขาไม่ยอมไปซื้อผ้าอนามัยให้”
หญิงสาวเล่าว่า เธออายุ 23 ปี ย้ายมาอยู่กับแฟนหนุ่มอายุ 24 ปีได้ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว เธอกับแฟนไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลยจนกระทั่งมาเถียงกันเรื่องนี้
“เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันมีประจำเดือน มันมาเร็วกว่าปกติและผ้าอนามัยฉันก็หมดพอดี” หญิงสาวกล่าว
“ฉันไม่สามารถออกไปซื้อเองได้เพราะมันเป็นวันมามากจนเลอะกางเกงฉันไปหมด ฉันเลยตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากแฟนหนุ่มของฉันว่าเขาสามารถออกไปซื้อผ้าอนามัยที่ร้านขายยาได้หรือไม่ เพราะมันดึกแล้ว”
“เขาปฏิเสธทันที ฉันช็อกเพราะฉันไม่คาดหวังคำตอบนี้”
“ฉันถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่าเขาไม่ต้องการให้พนักงานคิดเงินเห็นว่าเขากำลังซื้อผ้าอนามัย ณ จุดนี้ฉันเริ่มขำแล้ว แต่เขาไม่ได้เล่นมุกและเริ่มจ้องมาที่ฉัน”
“ฉันบอกเขาว่า พนักงานก็รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ซื้อไปใช้เอง พนักงานไม่สนใจหรอกว่าเขาจะซื้ออะไร”
“เขายังคงปฏิเสธ ฉันบอกว่าแฟนว่า ถ้าเขารู้สึกไม่โอเคก็สามารถไปจ่ายเงินได้ที่เครื่องคิดเงินอัตโนมัติก็ได้”
“แต่เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการให้ใครก็ตามเห็นเขากับผ้าอนามัย เพราะคนอื่นจะคิดว่าเขาเป็นชายข้ามเพศ”
“ฉันจึงบอกแฟนไปว่า เขานี่ช่างหน่อมแน้มจริง ๆ และมีความเป็นชายที่เปราะบางมาก ๆ ถ้าไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยให้แฟนได้”
“เขาโกรธมากและออกจากห้องไปทันที ฉันต้องเข้าห้องน้ำไปเอากระดาษชำระมากทำเป็นผ้าอนามัยชั่วคราว สวมกางเกงสีดำและเสื้อคลุมยาว จากนั้นก็ออกไปซื้อผ้าอนามัยด้วยตัวเอง”
“ส่วนแฟนหนุ่มของฉันก็ไม่สนใจฉันเลยนับตั้งแต่นั้น ฉันกำลังคิดว่าบางทีฉันอาจจะพูดแรงเกินไปก็ได้”
ซึ่งเธอก็ถามชาวเน็ตว่า “ฉันแย่หรือเปล่าที่บอกแฟนหนุ่มว่าความเป็นชายของเขาช่างเปราะบางหลังจากที่เขาไม่ยอมไปซื้อผ้าอนามัยให้”
ในขณะที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่ล้วนบอกว่าเธอไม่ได้ผิดอะไร และแฟนหนุ่มของเธอต่างหากที่ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะเข้าใจปัญหาของผู้หญิง
หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นกระแสใน Reddit เธอก็ได้มาอัปเดตสถานการณ์ของเธอกับแฟนหนุ่มให้ฟังกันอีกรอบ
“ก่อนอื่นฉันต้องขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็น มันมีความหมายต่อฉันมาก ฉันเพิ่งเผชิญหน้ากับแฟนหนุ่มไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เราจับเข่าคุยกัน ฉันบอกเขาว่าฉันไม่ชอบที่เขาแสดงกิริยาแบบนั้น”
“ส่วนเขาบอกว่า เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องออกไปซื้อ และบอกว่าฉันสามารถ ‘อั้น’ และขับรถไปซื้อเองที่ร้านยาได้”
“ฉันบอกเขาว่า ฉันไม่สามารถ ‘อั้น’ ได้ แต่เขายืนยันว่าฉันทำได้แน่นอนแค่ไม่กี่นาที และมันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เราเถียงกันไปมาเรื่องนี้จนฉันต้องปัดประเด็นนี้ตกไป”
“ฉันถามเขา (เหมือนอย่างที่หลายคอมเมนต์แนะนำ) ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรามีลูกด้วยกันและเขาต้องดูแลฉัน ต้องซื้อครีมทาหัวนมให้ฉัน ต้องพาฉันไปห้องน้ำ”
“เขาตอบว่า ฉันควรทำมันได้เองหลังคลอดลูก มันไม่มีอะไรยากหรอกแค่เข้าห้องน้ำ และเหตุผลที่ฉันต้องให้คนช่วยก็คือพิการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
“เมื่อฉันถามเขาเกี่ยวกับผู้ชายข้ามเพศ เขาบอกว่าเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงต้องการเปลี่ยนเพศที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด นั่นทำให้ฉันปะติดปะต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน และรู้สึกว่าตัวเองหน้าชาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน”
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองใช้เวลา 2 ปีของชีวิตอยู่กับผู้ชายที่มีมุมมองแบบนี้ และฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองตาบอดมาก ๆ ฉันรู้สึกโง่มาก”
“ฉันบอกเขาว่าเราต้องเลิกกัน เขาด่าฉันและบอกว่าฉันเว่อร์เกินไป และฉันกำลังเป็นยัยตัวแสบ”
“ฉันบอกเขาว่า ฉันจะจ่ายค่าเช่าครึ่งเดือนนี้ให้เขา (เราอาศัยอยู่ด้วยกันในอะพาร์ตเมนต์ของเขา ดังนั้นเราจึงแยกค่าใช้จ่ายกัน) จากนั้นฉันก็เก็บกระเป๋าและขับรถไปบ้านพ่อแม่โดยไม่พูดอะไรอีก”
“ฉันจะอยู่กับครอบครัวจนกว่าจะทำใจได้ เพราะฉันรักเขาจริง ๆ แต่ฉันก็รู้สึกโล่งใจ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยให้ฉันหลุดพ้นมาได้ รวมถึงส่งข้อความมาให้กำลังใจ ฉันซาบซึ้งมาก ๆ”
และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของเธอที่เริ่มจากเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นประเด็น แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเลิกกัน แล้วคุณล่ะ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง
ที่มา : reddit | boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ