มินามิไดโต เป็นเกาะเล็ก ๆ ของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมันเกิดจากแนวปะการังที่ก่อตัวสูงขึ้นจนเป็นเนินที่ราบ และล้อมรอบด้วยแนวปะการังสูงที่ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ 48 ล้านปีก่อน นั่นจึงทำให้ที่นี่ไม่มีชายหาดหรือท่าที่ให้เรือเทียบได้ ดังนั้นวิธีเดียวที่คุณจะเข้าออกเกาะแห่งนี้ได้ก็คือการขึ้น “เครนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่” เท่านั้น
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา การเข้าออกในเกาะมินามิไดโตจำเป็นต้องใช้วิธีนี้มาตลอด เนื่องจากแนวปะการังรอบ ๆ เกาะที่ทำให้เรือสามารถเข้าไปใกล้ฝั่งที่สุดได้แค่ 4-6 เมตร
นักท่องเที่ยวที่จะเข้าออกเกาะจะต้องเข้าไปในกรงที่เหมือนลิฟต์ และใช้เครนยกลอยขึ้นไปในอากาศ ซึ่งพวกเขาจะได้รับประสบการณ์ทั้งความสนุกและความน่ากลัวไปพร้อม ๆ กัน
Daito Kaiun บริษัทที่รับผิดชอบด้านการควบคุมเครนไม่ใช่ผู้คิดค้นไอเดียนี้มาแต่แรก แต่พวกเขาสืบทอดวิธีการอันชาญฉลาดนี้มาจากบริษัทอื่นที่ล้มละลายเมื่อหลายสิบปีก่อน
โทโมโนริ มิอุระ ผู้ดำเนินกิจการเครนบนเกาะมินามิไดโตกล่าวว่า การสร้างท่าเรือที่แข็งแรงเพื่อให้รองรับผู้คนขึ้นเกาะจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายมหาศาลและมันก็ยากสำหรับเกาะปะการังแบบนี้ ทั้งนั้นการใช้เครนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และที่สำคัญมันกลายเป็นเอกลักษณ์ของการมาท่องเที่ยวยังเกาะแห่งนี้ไปแล้ว
มิอุระกล่าวว่า บริษัทของเขาใช้กรง 2 ประเภทเพื่อรับคนเข้าออกจากเกาะ กรงแบบแรกคือไม่มีหลังคาที่ถูกใช้ในสภาพอากาศปกติ ส่วนกรงที่ปิดสนิทจะถูกใช้ในวันที่มีฝนตกและพายุ
ส่วนนักท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์ในการขึ้นเครนกล่าวว่า “ผมรู้สึกประหลาดใจเพราะมันเร็วกว่าที่ผมคิด ผมสนุกมากกว่าที่จะกลัวมันนะ แต่สำหรับคนที่กลัวความสูงคงไม่เหมาะที่จะขึ้นเครนแบบนี้”
大東島でのスリリングな乗下船方法! pic.twitter.com/rz5yVLr82e
— たぬきねこ (@JGXC4035370) June 22, 2021
ไม่ใช่แค่การขึ้นเครนเท่านั้นที่เป็นสิ่งที่ท้าทายนักท่องเที่ยว เพราะการเดินทางด้วยเรือเฟอรี่จะต้องใช้เวลานานถึง 15 ชั่วโมงด้วยกัน แต่ถ้าคุณสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที จากสนามบินนาฮะมายังสนาบินมินามิไดโต โดยเปิดให้บริการเพียงแค่ 1-2 เที่ยวต่อสัปดาห์เท่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
สำหรับเกาะมินามิไดโต ไม่ได้มีความน่าประทับใจเพียงแค่การใช้เครนเพื่อเข้าออกเกาะเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ำหินปูนจำนวนมากที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะมากกว่า 120 แห่ง
หนึ่งในถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ ถ้ำโฮชิโนะ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดโดยมีความยาวถึง 375 เมตร และมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ถือเป็นหนึ่งในถ้ำหินปูนที่อยู่ในสภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
นอกจากนั้นบนเกาะแห่งนี้ยังมีทะเลสาบและหนองน้ำขนาดเล็กอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบโออิเกะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หรือจะเป็นทะเลสาบอาคิบะจิเทโคะที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน แต่มีน้ำสีฟ้าสวยสดใสราวกับบ่อน้ำแห่งเทพนิยาย
สำหรับใครที่มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่นและอยากไปสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนเกาะแห่งไหนบนโลกใบนี้ ก็สามารถไปเยี่ยมชมกันได้เลยครับ
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ