รอยสักเป็นแฟชั่นสำหรับใครหลาย ๆ คนที่ทำให้ร่างกายดูสวยงาม แต่รอยสักสำหรับบางคนก็เป็นเหมือนจิตวิญญาณที่พวกเขาขาดมันไม่ได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่หลงใหลในรอยสักมาก ๆ ต้องปกปิดรอยสักบนร่างกายของตัวเองทั้งหมดเอาไว้
นี่คือเรื่องราวของ เอมี สมิธ คุณแม่ยังสาววัย 23 ปีที่มีรอยสักมากกว่า 40 แห่งบนร่างกายรวมถึงบนใบหน้าของเธอเอง ที่ตัดสินใจมาร่วมรายการ Hooked On The Look ซึ่งเป็นการแปลงโฉมตัวเองเพื่อการทดลองบางอย่าง
เอมีหลงใหลในการสักบนร่างกายมาตั้งแต่อายุ 13 ปี หลังจากที่เธอชมรายการเรียลลิตีที่ชื่อว่า Miami Ink ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในร้านสักในไมอามีบีช และนั่นเป็นช่วงเวลาที่เธอได้รับรอยสักเป็นครั้งแรกในชีวิต
ต่อมาเมื่ออายุได้ 14 ปี เธอได้รับเครื่องสักเป็นครั้งแรก และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยรอยสักมากมาย จนทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมถึงการสักบนใบหน้าครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี
แต่การปรากฎตัวของเธอในรายการ เธอต้องถูกปกปิดรอยสักทั้งร่างกายเพื่อการทดลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับทั้งตัวเธอเองและคนใกล้ตัว ซึ่งผลลัพธ์ดูเหมือนจะออกมาแย่กว่าที่เธอคิดเอาไว้
“ฉันไม่ประทับใจเลย ฉันพยายามอย่างมากที่จะไม่ร้องไห้” เอมี่กล่าว หลังจากที่รอยสักทั้งหมดของเธอถูกตกแต่งให้หายไปจากร่างกาย
“สำหรับบางคนมันแค่การเมคอัพ แต่ฉันรู้สึกขยะแขยงที่เห็นตัวเองเป็นแบบนั้น”
“ฉันรู้ว่ามันเป็นคำที่รุนแรง แต่ฉันรู้สึกไร้ค่าและแย่กับตัวเองมาก ฉันรู้สึกอึดอัดและเหมือนกับมองใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก”
แต่แม่ของเอมี่กลับเห็นต่างออกไป
“แม่ของฉันถึงกับร้องไห้ ฉันตกใจที่ได้ยินแม่บอกว่า ฉันดูสวยมากแค่ไหน” เอมีกล่าว “แต่ฉันก็มีรอยสักมานานมากแล้ว มันคือส่วนสำคัญของชีวิตฉัน แต่แม่ก็แบบว่า ‘นั่นไม่ใช่ลูกสาวฉัน’ “
หลังจากจบรายการ เอมีต้องไปรับลูก ๆ ของเธอในสภาพที่ไร้รอยสัก แต่เธอกล่าวว่าลูก ๆ ของเธอก็จำเธอไม่ได้
“ฉันต้องไปรับลูก ๆ ของฉัน และพวกเขาก็จำฉันไม่ได้ ลูกคนเล็กของฉันไม่แม้แต่จะมองมาที่ฉันด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร” เอมีกล่าว
“ปฏิกิริยาของลูกทำให้ฉันรู้ได้ว่า รอยสักเป็นส่วนสำคัญของชีวิตฉันมากขนาดไหน”
“ฉันอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ และทุกคนก็รู้จักฉันจากรูปลักษณ์ของฉัน พวกเขาไม่รู้จักชื่อฉันหรอกนะ แต่พวกเขารู้จักฉันในฐานะเด็กหญิงที่มีรอยสัก”
แต่หลังจากรายการจบลง เธอก็กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง และจากการทดลองครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้นและพร้อมจะรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ และเธอยังได้รับโอกาสไปบรรยายให้กับโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งเพื่อสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับการสักอีกด้วย
เธอกล่าวว่า “มีหลายครั้งที่ฉันรู้สึกเหมือนสัตว์ในกรงเพราะรอยสักของฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวตนของฉันและไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร”
สำหรับอนาคตต่อจากนี้ เอมีวางแผนที่จะสักบนร่างกายของตัวเองต่อไปจนครอบคลุมทั้งร่างกายแบบ 100% โดยรอยสักหลายแห่งบนร่างกายของเธอล้วนมีความหมายเกี่ยวกับชีวิตเธอแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นรอยสักช้างที่ข้อเท้าเพื่อเป็นเกียรติให้กับพ่อเลี้ยงของเธอ หรือรอยสักปีที่ลูก ๆ เกิดเอาไว้ที่นิ้ว
ที่มา : dailystar | เรียบเรียงโดย เพชรมายา