อดีตนักวิทย์นาซ่าเตือน โลกจะร้อนจนมนุษย์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่ขยับโลกให้ห่างจากดวงอาทิตย์

เชื่อว่าหลายคนคงเคยคิดกันเล่น ๆ ว่า โลกของเราใบนี้จะสามารถอยู่ต่อไปได้อีกกี่ปี และจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตต่อจากนี้ แน่นอนว่าโลกของเรายังต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติอีกมากมายไม่ว่าจะมาจากในโลกหรือนอกโลก แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคำถามที่ว่า “เรามีระยะเวลาอีกกี่ปีกันแน่”

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.เดวิด โฮลส์ อดีตนักวิทยาศาสตร์จากองค์การอวกาศได้ออกมาเปิดเผยรายงานทางวิชาการฉบับหนึ่งที่น่าสนใจ ที่ระบุว่าโลกจะถูกแผดเผาจากดวงอาทิตย์จนมนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไปภายในระยะเวลา 1 พันล้านปีข้างหน้าต่อจากนี้ ถ้าหากเราไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขมัน

ข้อมูลดังกล่าวมาจากรายงานทางวิชาการที่ถูกเผยแพร่ผ่านมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์โดยมีชื่อว่า “วิศวกรรมดาราศาตร์: กลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์”

ตามข้อมูลในรายงานระบุว่า ทางรอดทางเดียวมนุษย์เราก็คือการขโมยพลังงานจากดาวพฤหัสเพื่อค่อย ๆ ขยายวงโคจรของโลกให้ออกมาไกลดวงอาทิตย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราสามารถทำแบบนั้นได้จริง ด้วยการเปลี่ยนเส้นทางดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 0.01% ของดวงจันทร์ที่ผ่านเข้ามาระหว่างโลกกับดาวพฤหัสทุก ๆ 6,000 ปี

“กลไกพื้นฐานคือการใช้แรงโน้มถ่วงเพื่อช่วยส่งพลังงานวงโคจรจากดาวพฤหัสมายังโลก การถ่ายโอนนี้ทำได้โดยวัตถุตรงกลางที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นวัตถุจากแถบไคเปอร์หรือแถบดาวเคราะห์น้อยหลัก” รายงานกล่าว

ปัญหาคือการที่โลกของเราจะต้องเผชิญกับดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาด “เหมาะสม” ตามที่ระบุไว้ เราจะต้องรอเวลาทุก ๆ 6,000 ปี กว่าจะมีดาวเคราะห์น้อยตามที่คิดหลงผ่านเข้ามา และเราจะต้องมีเทคโนโลยีด้านอวกาศที่ล้ำหน้าพอจะแก้ไขวงโคจรโลกเราได้อีกด้วย

เดวิดกล่าวว่า “ไอเดียหลุดโลก” นี้จำเป็นต้องมีการปรับปรุงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศเสียก่อน แต่มันเป็นทฤษฎีที่ทำได้จริงอย่างแน่นอน

ส่วนขนาดของดาวเคราะห์น้อยที่เราต้องการคือประมาณ 130 x 130 กิโลเมตร หรือใหญ่ประมาณ 0.01% ของดวงจันทร์ แต่ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเท่านี้ก็ไม่ได้หากันง่าย ๆ

นอกจากนั้น มนุษย์ชาติของเรายังต้องมาทำภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ในทุก ๆ 6,000 ปี เพื่อให้โลกได้มีวงโคจรที่เหมาะสม และนั่นจะทำให้มนุษย์เราจะสามารถอยู่รอดไปได้อีกอย่างน้อย 5,000 ล้านปี

อย่างไรก็ตาม ก็มีประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจตามมาเช่น การเคลื่อนย้ายโลกในตำแหน่งวงโคจรที่ผิดพลาดอาจส่งผลให้โลกถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ จากอิทธิพลของดาวพฤหัสและดาวเสาร์ จนกลายเป็นแถบดาวเคราะห์น้อยเพิ่มขึ้นมาอีกแห่ง

ส่วนบางคนก็มองว่า กว่าจะถึงเวลา ณ ตอนนั้น โลกเราคงมีเทคโนโลยีที่ดีกว่าปัจจุบันมาก จนเราไม่ต้องไปใช้ทฤษฎีเคลื่อนย้ายวงโคจรอะไรแบบนี้ก็เป็นได้

ที่มา : arxiv | news18 | twitter | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ