หญิงสาวพบทารกถูกฝังอยู่ในขณะวิ่งจ๊อกกิ้ง และนี่คืออีก 20 ปีต่อมา

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1998 ในขณะ อซิตา มิลาเนียน กำลังวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่กับสุนัขของเธออยู่บนเส้นทางเดินป่าในเขตอัลทาเดนา รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอก็เจอกับสิ่งที่ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะเกิดขึ้นได้

สุนัขตัวหนึ่งของเธอก็วิ่งออกนอกเส้นทางไปยังพื้นที่ข้างทาง มันทำท่าเหมือนกับมีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น

ทันทีที่เธอมาถึง เธอเห็นอะไรบางอย่างถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินในผ้าขนหนูสีน้ำเงิน อซิตากล่าวว่า “ฉันคิดว่ามันเป็นสัตว์หรือตัวอะไรสักอย่างที่ตายแล้ว”

แต่เมื่อเธอมองดีๆ ก็พบว่าภายใต้เศษดินที่กลบร่างอยู่ เป็นร่างของเด็กทารก นั่นทำให้เธอรีบขุดดินที่ฝังร่างเด็กน้อยออก อซิตากรีดร้องดังกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากที่โทรไป 911 ไม่สำเร็จ เธอจึงวิ่งออกไปหารถที่วิ่งผ่านไปมาจนเจอกับพลเมืองดีที่พาเธอไปโรงพยาบาล อซิตานั่งอยู่ที่เบาะหลังกับเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้ “เขาคว้าข้อมือของฉันแล้วก็หยุดร้อง มันสะเทือนอารมณ์ของฉันมาก มนุษย์แบบไหนที่ทำสิ่งนี้ได้ลงคอ เด็กน้อยยังมมีสายสะดือห้อยติดอยู่กับตัวของเขาอยู่เลย” อซิตากล่าว

เมื่อถึงโรงพยาบาล เด็กน้อยถูกนำไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดและรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ จนกระทั่งทารกน้อยถูกรับไปเลี้ยงและอซิตาก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย แล้วก็ไม่มีใครทราบว่าแม่แท้ๆ ของเด็กชายคือใครกันแน่

จนกระทั่ง 20 ปีต่อมา เด็กน้อยเติบโตขึ้นมีชื่อว่า แมทธิว วิเทเกอร์ เขามาทราบภายหลังว่า ตัวเองเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะถูกทิ้งเอาไว้ข้างทาง และนี่คือการกลับไปยังสถานที่เดิมในจุดที่เขาเคยถูกฝังเอาไว้นานหลายชั่วโมง ก่อนที่อซิตาจะมาพบ

“ผมอยู่ในรถกับแม่เลี้ยงของผม เธอพูดกับผมว่า ‘เธอรู้เรื่องราวที่แท้จริงหรือเปล่าว่าเราพบเธอได้ยังไง’ จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง ผมจึงกลับไปค้นคว้าหาข้อมูลและก็เริ่มบอกทุกคน เพราะผมรู้สึกว่ามันเจ๋งมากที่ผมรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์” แมทธิวกล่าว

และในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้พบกับผู้หญิงที่เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ อซิตากล่าวกับแมทธิวว่า “ฉันรอเธอมานาน 20 ปีแล้ว”

ซึ่งจริงๆ แล้วอซิตาเคยกลับไปหาข้อมูลที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กมาแล้ว แต่เธอถูกบอกว่าเด็กชายถูกรับไปเลี้ยงแล้ว และเธอจะไม่มีวันได้เห็นเขาอีก

และนี่ก็คือโชคชะตาของคนทั้ง 2 ที่ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆ ด้านของมนุษย์ ที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างไปพร้อมๆ กัน สุดท้ายเรื่องราวนี้ก็ได้ทำให้เรารู้ว่าภายใต้ความมืดมิด ก็ยังมีแสงสว่างที่คอยช่วยนำทางชีวิตเราอยู่เสมอ

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา