นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนในปี ค.ศ. 1962 เมื่อ เจนิส รูด และ วิลสัน เพรนทิส พบกันครั้งแรกในโรงอาหารของวิทยาลัย Occidental College เมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย
เจนิสทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในโรงอาหาร ส่วนวิลสันเป็นนักศึกษาธรรมดาๆ ที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่เขาลงทุนที่จะโผล่หน้าไปโรงอาหารในทุกๆ เช้า เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ แน่นอนว่าวิลสันอายุน้อยกว่า และเขาคิดว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสได้คบกับเจนิสอย่างแน่นอน เพราะตลอดเวลา ในหัวของเขามีแต่คำว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่สวยเกินไปสำหรับผม”
การได้พบกันทุกวันทำให้ทั้ง 2 คนมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น และต่างก็ค่อยๆ เรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน จนกระทั่งวันขอบคุณพระเจ้ามาถึง เจนิสได้ขอที่อยู่ของวิลสันจากเพื่อนของเขา และตัดสินใจที่จะขับรถไปเซอร์ไพรส์เขาถึงบ้าน เธอเดินทางมาไกลกว่า 240 กิโลเมตร และใช้เวลาร่วมกับวิลสันและครอบครัวตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
นี่เป็นช่วงเวลาที่สุดแสนโรแมนติกของทั้งคู่ มันไม่ง่ายเลยที่ผู้หญิงตัวคนเดียวจะขับรถทางไกลมายังบ้านคนแปลกหน้าโดยไม่ได้รับเชิญและไม่ได้บอกให้รู้ล่วงหน้ามาก่อน วิลสันมีความสุขมากเช่นเดียวกับเจนิส จนกระทั่งทั้งคู่ประกาศที่จะหมั้นกันในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1962 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งได้ทราบเรื่องราวของทั้งคู่ จนนำไปเขียนเป็นข่าวเล็กๆ เกี่ยวกับความโรแมนติกของคู่รักที่กำลังจะมีความสุขในอีกไม่ช้า
แต่เมื่อเจนิสไปบอกเรื่องนี้กับพ่อของเธอ เกี่ยวกับแผนการแต่งงานกับวิลสัน พ่อของเธอไม่พอใจอย่างมาก เช่นเดียวกับผู้หญิงหลายคนในเวลานั้น เส้นทางชีวิตของเจนิสถูกกำหนดโดยของพ่อเธอทั้งหมด เขาต้องการให้เธอยุติความสัมพันธ์กับวิลสันทันที หรือไม่เช่นนั้นก็จะไม่สนับสนุนเงินด้านการศึกษาอีกต่อไป
ส่วนสาเหตุที่พ่อของเจนิสไม่ยอมรับในตัววิลสันเนื่องจากว่า วิลสันมาจากครอบครัวชาวยิว ส่วนครอบครัวของเจนิสเองเป็นชาวคริสเตียน ถึงแม้เจนิสจะไม่ขอเงินจากพ่ออีกจนเธอเรียนไม่จบ และถึงแม้ว่าแม่ของเจนิสจะสัมผัสได้ถึงรักแท้ที่ทั้งคู่มีให้กัน และพยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเจนิสก็ถูกบังคับให้เลิกกับวิลสันอย่างเด็ดขาดอยู่ดี
การเลิกกันอย่างขมขื่นของทั้งคู่นำพาชีวิตได้เดินทางไปคนละเส้น นี่ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องราวนี้ แต่มันเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น
วิลสันเข้าเรียนต่อที่ฮาวาร์ดจนกลายเป็นทนายความชื่อดัง ส่วนเจนิสเองได้สืบทอดกิจการ ‘กระดานกระโดดน้ำ’ ของครอบครัวเธอ มาถึงตอนนี้ ทั้งคู่ต่างก็ไปแต่งงานมีชีวิตคู่เป็นของตัวเอง และหย่าขาดจากคู่ของตนเป็นที่เรียบร้อย
จนกระทั่งถึงวันที่ทั้งคู่ได้สูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักไปในเวลาเดียวกัน แต่การสูญเสียได้นำพาให้คนทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง
ตามปกติแล้ว เมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิต เราก็ต้องไปตรวจดูข้าวของๆ พวกเขา และช่วงเวลานี้เอง ที่เป็นเหมือนกับพรหมลิขิตที่กำหนดทั้งสองคน ได้เติมเต็มสิ่งที่ตามหามานานแสนนาน
ในข้าวของๆ แม่ ทั้งเจนิสและวิลสันได้พบกับ ชิ้นส่วนหนังสือพิมพ์เล็กๆ ที่ถูกตัดออกมาจากหนังสือพิมพ์ในปี 1962 มันคือข่าวงานหมั้นของคนทั้งคู่ เป็นเวลากว่า 50 ปีที่คุณแม่ของทั้งสอง เก็บข่าวงานหมั้นนี้ไว้เป็นอย่างดี ราวกับรอให้โชคชะตามาเล่นตลกกับคนทั้งคู่อีกครั้ง เรื่องราวในอดีตของทั้งคู่ต่างก็พรั่งพรูออกมาจากความทรงจำ ไม่มีใครที่ลืมเรื่องราวในอดีตเหล่านี้ได้เลย
ตอนนี้ทั้งคู่กลับมาโสดอีกครั้ง วิลสันลองชวนเจนิสไปทานอาหารเที่ยงที่ Cliff House ในซานฟรานซิสโก นี่เป็นจุดเริ่มต้นของโชคชะตาครั้งใหม่ หลังจากที่ทั้งคู่ต้องแยกจากกันไปกว่า 17,500 วัน มันเป็นเดทแรกสำหรับโอกาสที่สองในชีวิต
วิลสันและเจนิส จัดงานแต่งงานกันเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2012 ที่โรงอาหารวิทยาลัย Occidental College ซึ่งเป็นที่ๆ ทั้งคู่พบกันเป็นครั้งแรก
และในการ์ดเชิญงานเลี้ยงแต่งานก็มีชิ้นส่วนของหนังสือพิมพ์ที่แม่ของพวกเขาเก็บเอาไว้อยู่ในการ์ดด้วย โดยงานเลี้ยงถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 8 กันยายน 2012 ซึ่งเดิมทีภายในข่าวระบุว่า “วันที่ยังไม่ได้ถูกกำหนด” และภายในการ์ดเชิญเราจะเห็นว่าทั้งคู่ใช้คำว่า finally ซึ่งหมายถึง “ในที่สุด วันที่ก็ถูกกำหนดแล้ว”
ถึงแม้ว่าความรักของวิลสันและเจนิสจะไม่ได้สวยงามมาตั้งแต่ต้น แต่อย่างน้อย ณ วันนี้ พวกเขาทั้งคู่ก็พิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า โชคชะตาบางทีก็เล่นตลกกับเราความรักขได้เช่นกัน และสักวันมันจะได้จบลงแบบ Happy Ending แบบนี้
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา