ตาโก (Taco) หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อ ทาโก้ เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเม็กซิกันที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศอเมริกาที่มีชาวเม็กซิกันเข้ามาอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันไม่ต่างจากอาหารอื่น ๆ ทั่วไปที่ต้องมีการปรับราคาให้สูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
แต่เรื่องราวต่อไปนี้อาจทำให้ชาวเน็ตประหลาดใจ เมื่อเจ้าของร้านอาหารรายหนึ่งได้รับ ‘จดหมายร้องเรียน’ จากลูกค้าเก่าแก่คนหนึ่งที่ระบุว่า พวกเขามีการปรับราคาทาโก้ให้สูงขึ้น
การร้องเรียนที่เป็นลายลักษณ์อักษรนี้ระบุว่า เธอเป็นลูกค้าเก่าแก่มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80 ตอนที่เธอทำใบขับขี่ครั้งแรก และถ้านับปริมาณทาโก้ที่เธอซื้อมาตลอดทั้งชีวิต ก็คิดเป็นจำนวนเงินที่สูงถึงหลายพันเหรียญเลยทีเดียว
แต่ครั้งล่าสุดที่เธอมาซื้อทาโก้ 3 ชิ้น เธอได้รับใบเสร็จที่ระบุราคาสูงเกิน 5 เหรียญ
“ล่าสุดที่ฉันมายังร้านของคุณเพื่อซื้อทาโก้ 3 ชิ้น และถูกแจ้งในใบเสร็จว่ามันราคาสูงเกิน 5 เหรียญ ฉันถามราคาซ้ำกับพนักงานหญิง และก็บอกว่า ‘ไม่ล่ะ ขอบคุณ’ ฉันออกไปโดยไม่ซื้ออะไร” ลูกค้าหญิงกล่าวในจดหมาย
เธอแจ้งต่อไปว่า เธอถูกเก็บเงินเพิ่ม .69 เซนต์ (ราว 24 บาท) สำหรับอาหารเม็กซิกันแบบนี้ และจะไม่เป็นลูกค้าอีกต่อไป
เธอยังอ้างไปถึงว่าตนเองไม่ได้ลงคะแนนให้กับการแก้ไขบทบัญญัติรัฐฟลอริดา ในปี 2020 ซึ่งหมายความว่าเธอไม่เห็นด้วยกับการจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ 15 เหรียญต่อชั่วโมง ให้กับวัยรุ่นอายุ 16 ปี ที่แค่โยนผักกาดหอม ชีส และเนื้อบดในแป้งข้าวโพดราคาถูก
จากนั้นเธอจบข้อความในจดหมายด้วยประโยคที่ว่า “ขออภัยสำหรับการสูญเสียของคุณ แต่มันเป็นกำไรของฉัน”
ในขณะที่ชาวเน็ตบางคนตั้งข้อสังเกตว่า ใบเสร็จที่แนบมากับจดหมายเป็นใบเสร็จเก่าตั้งแต่ปี 1999 และจดหมายดังกล่าวอาจเป็นจดหมายปลอม ซึ่งเจ้าของร้านได้ออกมายืนยันว่า พวกเขาได้รับจดหมายนี้จริง แต่ลูกค้าอาจใช้ภาพเก่าที่หามาจาก Reddit เพื่อนำมาประกอบในจดหมายก็เป็นได้
แต่ท้ายที่สุด เจ้าของร้านหวังว่านี่จะเป็นเพียงแค่การแกล้งกันเท่านั้น เพราะเขาเองไม่ได้อยากให้มีลูกค้าคนไหนเลิกเป็นลูกค้าที่ร้านของเขาจริง ๆ
ที่มา : reddit | เรียบเรียงโดย เพชรมายา