เป็นเรื่องที่พบได้ยากที่คนเคร่งและศรัทธาอะไรบางอย่าง จะเปลี่ยนความคิดความเชื่อของตัวเองไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นไปไม่ได้เสียเมื่อไหร่
วันนี้เพชรมายาขอแนะนำ แทมมี่ โจนาส หญิงสาววัย 49 ปี ที่เริ่มใช้ชีวิตสายวีแกนมาตั้งแต่ปี 1970 หลังได้อ่านหนังสือและรับรู้ความโหดร้ายในการทำฟาร์มสัตว์เพื่อใช้ในการบริโภค แต่วันนี้เธอกลับมีอาชีพเป็นคนแล่เนื้อสัตว์ เรียกได้ว่าชีวิตของเธอพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยก็ว่าได้
เป็นเวลานับ 10 ปีที่เธอใช้ชีวิตสายผักแบบวีแกนมาอย่างเคร่งครัด แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอตั้งครรภ์ครั้งที่สามโดยการตั้งครรภ์ก่อนหน้านี้ทั้งสองครั้งไม่พบปัญหาอะไร แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปเนื่องเจอเธอต้องประสบกับภาวะขาดสารอาหารและโลหิตจาง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่จะต้องสูญเสียลูกในท้องของเธอไป
ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอเริ่มต้นทานเบอร์เกอร์ที่ทำงาน และจากนั้นเธอก็เริ่มทานเนื้อสัตว์เรื่อยมาจนทำให้เธอมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นและรู้สึกแข็งแรงดีกว่าที่เคยเป็นมา แต่เธอก็ยังไม่ลืมความโหดร้ายจากการดูแลสัตว์ในฟาร์ม ทำให้เธอระมัดระวังในการเลือกเนื้อสัตว์จากแหล่งที่มาที่มีจริยธรรม
เดิมทีเธอมาจากครอบครัวชาวไร่ในโอเรกอนก่อนที่จะย้ายมาตั้งรกรากในออสเตรเลีย ทำให้เธอมีความรู้และอยากสร้างฟาร์มพร้อมทำอาชีพคนแล่และขายเนื้อสัตว์เอง เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อขายที่มาพร้อมหลักจริยธรรม
โจนาสและสามีเริ่มต้นทำฟาร์มที่ชื่อว่า Jonai Farms and Meatsmiths จนตอนนี้เปิดทำการมาได้ 8 ปีแล้วโดยเน้นในเรื่องจริยธรรมต่อการดูแลสัตว์ที่ต้องนำมาแล่เนื้อ
เธออธิบายว่าจะไม่มีการใช้สารเคมีที่ทำอันตรายต่อสัตว์ในการทำฟาร์ม และสัตว์ทุกตัวจะอยู่ที่นี่เหมือนดั่งกับพวกมันไม่ได้อยู่ในฟาร์ม เธอยังทิ้งท้ายไว้ว่า เธอไม่เชื่อว่าการฆ่าสัตว์เพื่อการบริโภคนั้นผิดศีลธรรมถ้ามันทำให้เกิดผลดีในชีวิต
นี้ก็เป็นอีกตัวอย่างถึงสิ่งที่เรียกว่า “อะไรที่ตึงไปย่อมไม่ใช่ผลที่ดีนัก” แล้วคุณละได้เปลี่ยนแปลงเพื่อผลที่ดีในชีวิตบ้างแล้วหรือยัง
ที่มา : dailymail | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ