เรื่องราวน่ารักๆ นี้เกิดขึ้นกับ เรน ไพรซ์ เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ที่อยู่ชั้นไฮสคูลปีที่ 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองอเมริกันฟอร์ก รัฐยูทาห์ เด็กหนุ่มรู้สึกอายเพื่อนๆ ที่พ่อของเขาออกไปยืนโบกมือให้ ในระหว่างที่เขาขึ้นรถโรงเรียน ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน
แน่นอนว่าการที่คุณพ่อออกไปโบกมือให้ลูกชายวัยหนุ่มขึ้นรถโรงเรียน มันก็เหมือนการบ่งบอกว่าลูกชายยังเป็นลูกแหง่ เรนตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้กับแม่ของเขาว่า ไม่ต้องให้พ่อออกไปยืนโบกมือให้เขาอีกในวันต่อๆ ไป
เดาสิว่า ใครแอบได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ ? ใช่แล้ว นั่นคือ “เดล ไพรซ์” พ่อของเรนนั่นเอง และเขาตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างที่เหมือนกับเป็นการท้าทายลูกชายของเขา
วันต่อมา เดลแต่งชุดเจ้าสาวออกไปยืนโบกมือให้กับลูกชาย ตอนขึ้นรถไปโรงเรียน
“ตอนที่พ่อทำวันแรก ผมแทบช็อค ไม่มีใครต้องการเห็นพ่อตัวเองอยู่ในชุดเจ้าสาว แล้วโบกมือให้คุณตอนขึ้นรถโรงเรียนแน่นอน” เรนกล่าว
และนั่นไม่ใช่แค่วันเดียว เพราะวันต่อมา คุณพ่อก็ยังแต่งตัวในชุดประหลาดๆ อีกเช่น ชุดนางเงือกสาวแอเรียล
ชุดยักษ์เขียวฮัค ทำให้พ่อดูเท่ขึ้นเป็นกอง แถมยังมีกัปตันตัวน้อยอยู่ข้างหลังอีกต่างหาก
วง KISS ก็มา
เป็น เลโกลัส ง่ายๆ แบบนี้ก็ได้ด้วย
แต่งเป็นคุณพ่อสายชิล ที่กำลังทำธุระอยู่ในห้องน้ำ
นี่ไม่ใช่แบทแมน แต่เป็นแบทเกิร์ล
มาเป็นเพชฌฆาต ดูโหดสุดๆ
วันเดอร์วูแมน ที่เซ็กซี่ไปอีกแบบ
แฮร์รี พอตเตอร์ เวอร์ชั่นนี้ดูอาวุโสไปนิด
ถึงหิมะจะตก ก็ไม่สามารถหยุดคุณพ่อในชุดนินจาได้
คุณได้เห็นบิ๊กฟุตตัวเป็นๆ แล้ว
เป็นถังส้มก็ได้ด้วยเหรอ ?
แต่งแบบนี้ตอนเช้ามืด น่ากลัวสุดๆ ไปเลย
เป็นยอดคุณพ่อมือกลอง
เป็นมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลางก็ยังได้
มาเป็นพรีเดเตอร์เลย ชุดคุณพ่อจัดเต็มเสมอ
หนูน้อยหมวกแดงก็ยังเป็นได้
จริงๆ แล้วทั้งหมดที่ได้ชมมาเป็นแค่ผลงานส่วนหนึ่งของคุณพ่อเดลเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้ว คุณพ่อได้หาไอเดียแต่งตัวไปโบกมือให้ลูกชายนานถึง 170 วันติดต่อกัน จนได้ฉายาว่า “Wave At The Bus Dad” หรือ “คุณพ่อที่โบกมือให้รถโรงเรียน” นอกจากนั้น คุณพ่อยังกล่าวอีกว่า เขาได้งบประมาณไปแค่ 50 เหรียญ หรือราวๆ 1,600 บาทเท่านั้นตลอดทั้งปี เพราะเขาอาศัยการยืนชุดจากเพื่อนๆ และเพื่อนบ้านที่รู้จักแทน ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เชื่อเหลือเกินว่า คงมีคุณพ่อไม่กี่คนบนโลก ที่กล้าทุ่มทุนแกล้งลูกได้ยาวนานขนาดนี้
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : Facebook | Website | Twitter | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
