สาวรีวิวร้านอาหารระดับดาวมิชลินโดยบอกว่าเป็น “มื้อที่แย่ที่สุดในชีวิต”

ดาวมิชลิน ถือเป็นรางวัลที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ทั่วโลกล้วนปรารถนาจะได้รับสักครั้ง มันเป็นเหมือนเหรียญรางวัลแห่งเกียรติยศของคนทำอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพเสมอไปอย่างที่พวกเราคาดหวังให้มันเป็น

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจอรัลดีน เดอรุยเตอร์ ผู้ก่อตั้งบล็อก Everywhereist ได้ออกมารีวิวมื้ออาหารค่ำสุดสยองของเธอที่ร้าน Bros’ ในเมืองเลชเช ทางตอนใต้ของอิตาลี ที่เธอระบุว่าเป็น “ร้านอาหารระดับมิชลินที่แย่ที่สุดที่เคยมีมา”

“มีบางอย่างที่ต้องพูดเกี่ยวกับมื้ออาหารที่เป็นหายนะอย่างแท้จริง เป็นมื้อที่ลบไม่ออกจากความทรงจำของคุณตลอดไป เพราะมันเลวร้ายมาก” เจอรัลดีนกล่าว

“นี่คือร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินแห่งเดียวในเมืองเลชเช เราทั้ง 8 คนมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารด้วยความคาดหวังสูง”

“นี่คือคอร์สที่ใหญ่ที่สุดที่ประกอบด้วยอาหารทั้งหมด 27 อย่างด้วยกัน ซึ่งกินเวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง ฉันไม่สามารถบอกได้ว่ามันพอหรือเปล่า ไม่มีอะไรใกล้เคียงกับมื้ออาหารจริง ๆ บางจานเป็นเหมือนเศษกระดาษที่กินได้ บางจานเป็นแก้วน้ำส้มสายชู ทุกอย่างมีรสชาติเหมือนปลา แม้แต่จานที่ไม่ใช่ปลา”

“อาหารจานนี้สำหรับ 2 คน”

“นี่คือหนึ่งในอาหารที่เราได้รับ มันเป็นอาหารประมาณ 1 ช้อนชา”

“เศษหอยนางรมที่ถูกปั้นเป็นก้อนเสิร์ฟพร้อมโฟม สีหน้าของเดวิดบ่งบอกได้ทุกอย่าง”

“ไอศกรีมมะกอกที่ขนาดเท่าช้อนชา”

“แรนด์กำลังถืออาหาร 1 อย่างในคอร์ส ที่เป็นเพียงแค่แครกเกอร์รูปปลาบาง ๆ เท่ากระดาษ”

“แรนด์พยายามหาว่าส่วนใดของอาหารจานนี้ที่กินได้”

“และเขาก็หาไม่เจอ”

หนึ่งในจานที่พีคที่สุด พนักงานเสิร์ฟนำสิ่งที่คล้ายกับชีสบอลมาเสิร์ฟพร้อมกับพูดว่า “พวกนี้ทำมาจากริคอตตาเหม็นหืน”

ดูเหมือนว่าพนักงานจะใช้คำว่า Rancido ที่มีความหมายว่า หืน บูดหรือเน่า ซึ่งเจอรัลดีนถามกลับไปว่า “ฉัน..ฉันขอโทษนะ คุณพูดว่าเหม็นหืนเหรอ คุณหมายถึง… หมัก หรือ บ่ม ใช่ไหม”

“ไม่… เหม็นหืน ถูกแล้ว” พนักงานตอบ

“โอเค แต่ฉันคิดว่าเราอาจมีปัญหาด้านการสื่อสาร เพราะมันไม่ควรจะ…”

“Rancido” พนักงานชี้แจง

ส่วนจานนี้คือ “ซิตรัสโฟม” ที่ถูกเสิร์ฟในปูนปลาสเตอร์รูปทรงปากของเชฟ เมื่อไม่มีช้อนมาให้ เราถูกบอกว่าให้เลียมันจากปากของเชฟได้เลย

“จนถึงตอนนี้ ฉันเริ่มสติแตกอย่างเงียบ ๆ” เจอรัลดีนกล่าว เพราะไม่ใช่แค่อาหารหน้าตาแปลกประหลาดที่พวกเขาได้รับเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เธอรู้สึกว่ามันไม่โอเคอีกด้วย เช่น

“เมื่อสมาชิกในกลุ่มยืนขึ้นในระหว่างรออาหารจานใหม่และจะไปสูบบุหรี่ข้างนอก เขาถูกดุให้นั่งลง”

“เมื่อสมาชิกคนหนึ่งแพ้อาหารบางอย่าง เธอไม่ได้ถูกเสิร์ฟอาหารถึง 3 จานติดต่อกัน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับอาการแพ้อาหารของเธออย่างไร”

“แรนด์ถูกเสิร์ฟอาหารที่เขาแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะพวกเขาไม่สนใจที่จะดูแลเขา”

“พนักงานเสิร์ฟตำหนิฉันเรื่องการกิน มันคือเมนูส้ม (1 ลูกต่อคน) ที่สามารถกินได้แค่ส่วนที่หั่นเอาไว้

“เมื่อฉันถามว่าฉันสามารถกินส้มส่วนที่เหลือที่ไม่ได้หั่นได้หรือไม่ (ณ จุดนั้น ฉันหินมาก) เขาตอบอย่างรำคาญว่า ‘ได้ แต่คุณไม่ควรทำ’ จากนั้นเขาก็ให้ฉันแค่ 2 ชิ้นและดึงส่วนที่เหลือออกไป”

เจอรัลดีนกล่าวว่า เธอนั่งอยู่ที่ร้านพร้อมกับอาหารที่ถูกเสิร์ฟที่ละช้อนชา ในขณะที่เธอรออาหารบางอย่างที่เหมือนกับมื้อค่ำจริง ๆ พนักงานเสิร์ฟก็เข้ามาถามว่า “คุณชอบสีแดงหรือสีขาว”

เจอรัลดีนถามกลับว่า “เรากำลังจะได้อาหารมื้อหลักเป็นอะไรบ้าง”

พนักงานทำหน้าฉงนแล้วกล่าวว่า “มื้อหลักงั้นหรือมาดาม…? เอิ่มม เรากำลังจะเสิร์ฟของหวาน”

“เรานิ่งกันครู่หนึ่ง นี่เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วที่เราไม่ได้อาหารใด ๆ ที่ดูเหมือนอาหารค่ำเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันคิดว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อพนักงานวางจานไว้ข้างหน้าเรา หมุนซอสลงบนจานแล้วฉันก็ปรบมือรออย่างตื่นเต้นสำหรับบางสิ่งที่จะถูกวางบนซอสที่สวยงามนี้ แต่แล้วก็มีใครบางคนเดินมาพร้อมกับหลอดหยอดตา แล้วหยดวุ้นลงบนจานของเรา”

“เราได้ผสมหยดเหล่านี้ด้วยโมเลกุลของเนื้อสัตว์” พนักงานเสิร์ฟอธิบายแล้วก็จากไป

“เรานั่งดูอาหารอื่น ๆ อีก 2-3 อย่าง รวมถึงมาร์เมลโลที่ปรุงแต่งเหมือนหมึก มันถูกเรียกว่า “อากาศแช่แข็ง” ซึ่งละลายก่อนที่คุณจะได้กิน”

สุดท้ายบิลค่าอาหารก็มาถึง สนนราคาค่าอาหาร 130-200 ยูโรต่อคน (ประมาณ 4,900-7,500 บาท) เจอรัลดีนกล่าวว่า มันแพงกว่าอาหารอื่น ๆ ที่เธอกินถึง 3 มื้อเลยทีเดียว

ในวันต่อมา พนักงานคนหนึ่งของร้านพยายามติดต่อ สาวโสดคนเดียวในกลุ่มของเธอผ่านทางอินสตาแกรมว่า “เฮ้ ผมเสิร์ฟให้คุณเมื่อคืนนี้!” และเธอก็บล็อกเขาในทันที

เรื่องราวของเจอรัลดีนกลายเป็นไวรัลในทวิตเตอร์ทันทีหลังจากที่เธอนำเสนอผลงานการรีวิวของเธอที่ดุเดือด ในขณะที่เธอกล่าวว่า เธอเข้าใจดีเกี่ยวกับอาหารแฟนซี มันไม่ได้แย่ถ้าหากมันมีความซับซ้อนและการนำเสนอในรูปแบบที่ไม่ธรรมดา

แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง

ที่มา : everywhereist | เรียบเรียงโดย เพชรมายา