ในช่วงชีวิตของมนุษย์ เราใช้เวลาหนึ่งส่วนสามของชีวิตไปกับการนอนหลับ อาจดูเหมือนว่าส่วนนี้ไม่มีอะไรนอกจากเป็นกิจวัตรประจำวันของคนเราที่ไม่น่าจดจำ แต่ถ้าเราใช้เวลาสักครู่ในการคิดถึงมัน การนอนมีอะไรมากกว่าที่คิด โลกแห่งความฝันเต็มไปด้วยรายละเอียดและสิ่งที่น่าค้นหาที่เราอาจไม่เคยฉุกคิดในตอนแรกเริ่ม วันนี้เพชรมายาจะนำคุณไปเผยความจริงเกี่ยวกับการฝันและสิ่งที่เกิดในช่วงเวลาที่เราหลับไหลกัน
1. เหมือนภาพย้อนความทรงจำในอดีต
ไม่ต่างจากในภาพยนตร์เวลาที่ย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่มักจะฉายเป็นภาพซีเปียหรือขาวดำ ซึ่งในความฝันก็ไม่ต่างกัน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ “การดึงภาพความทรงจำในอดีต” โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาพจำในโทรทัศน์ขาวดำ ความฝันจึงมักออกมาเป็นแบบภาพโทนสีเทามากกว่าคนหนุ่มสาว แต่ก็ยังมีคำถามที่ชวนสงสัยนั่นคือ คนรุ่นใหม่ในยุคนี้จะมีภาพความฝันเป็นแบบ Full HD หรือเปล่า
2. ความฝันกับคนตาบอด
แม้แต่คนตาบอดก็ยังฝัน แต่ไม่ใช่ในแบบที่คิดว่า ผู้คนเหล่านี้ยังคงฝันโดยใช้สัมผัสที่ยังมีอยู่เช่นการได้ยิน การดมกลิ่น การสัมผัสและรสชาติ มันยากที่คนตาดีอย่างเราจะจินตนาการได้ แต่มันเป็นการแทนที่สัมผัสทางการมองเห็นที่ขาดหายไป โดยส่วนมากจะเกิดกับคนที่ตาบอดตั้งแต่กำเนิด ผู้คนที่เสียการมองเห็นจากอุบัติเหตุยังคงฝันในแบบเดียวกับคนตาปกติ
3. สัญชาตญาณดิบ
มนุษย์ก็นับได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง พวกเราต่างมีสัญชาตญาณดิบในตัวเองไม่ต่างจากสัตว์ทั่วไป ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่สัตว์ชนิดอื่นก็สามารถฝันได้ อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้รับรองเรื่องนี้ 100% แต่สัตว์บางสายพันธุ์ก็ฝันได้เช่นเดียวกับมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เราจะเห็นสุนัขหรือแมวของเราละเมอหรือทำท่าแปลกประหลาดระหว่างการนอนของพวกมัน
4. ความฝันคือต้นกำเนิดของความคิดสร้างสรรค์
สมองเรายังคงทำงานอย่างต่อเนื่องแม้ว่าขณะที่เรากำลังหลับก็ตาม ในความจริงแล้วความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมส่วนใหญ่เกิดขึ้นขณะที่เราหลับ พอล แม็กคาร์ตนีย์ อดีตสมาชิกวงบีตเทิลส์ แต่งเพลง Yesterday จากความฝันของเขา บางทีอาจมีความคิดที่ยอดเยี่ยมในความฝันของคุณที่อาจทำให้คุณเป็นเศรษฐีก็เป็นได้
5. บุคคลในฝันคือคนที่คุณเคยเห็นมาก่อน
คุณจดจำหน้าที่คุณเห็นในฝันได้หรือไม่ ? แน่นอนว่าคุณอาจไม่รู้จักพวกเขา แต่ใบหน้าที่คุณเห็นในฝันไม่ได้ถูกสุ่มขึ้นมามั่ว ๆ และมันจะต้องมาจากบุคคลที่คุณเคยพบเห็นมาก่อน แม้ว่าคุณจะไม่ได้สนใจพวกเขาเลยก็ตาม มีการศึกษาที่ระบุว่า พื้นที่สมองที่ทำหน้าที่จดจำใบหน้าผู้คน ยังคงทำงานอย่างหนักในระหว่างที่คุณหลับลึกอีกด้วย
6. คนส่วนใหญ่จำฝันไม่ได้
เพียงเพราะคุณจำฝันไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าคุณไม่เคยฝันถึงมัน! มันมีโอกาสที่คุณจะลืมความฝันไป แต่ไม่ต้องกังวล ทุกคืนคนเราจะฝันหลากหลายเรื่องราว แต่มากถึง 95% จะไม่สามารถจดจำความฝันได้ ดังนั้นถ้าคุณตื่นขึ้นมาวันหนึ่งแล้วจำรายละเอียดในความฝันได้อย่างแม่นยำล่ะก็ ถือเป็นความโชคดีไม่น้อยเลยทีเดียว (ถ้าเป็นฝันดีนะ)
7. แตกต่างตามเพศ
“ผู้ชายมาจากดวงอังคาร ส่วนผู้หญิงมาจากดาวศุกร์” คือสำนวนที่มีมาแต่โบราณ หมายถึงผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกันอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ความฝันที่มักแตกต่างไปตามเพศ ตัวอย่างเช่น ผู้ชายมักฝันในเรื่องของการต่อสู้ ความรุนแรงและเรื่องราวที่ก้าวร้าว ในขณะที่ผู้หญิงมักฝันในเรื่องราวที่ตรงกันข้ามกับเพศชาย บ่อยครั้งที่พวกเธอจะฝันถึงเรื่องที่น่ากลัวในการถูกปฎิเสธและความกลัวที่ละเอียดอ่อน
8. กิน ดื่ม นอน
อาหารบางชนิดกระตุ้นให้คุณเกิดอาการง่วงนอนได้ อาหารที่มีผลดังกล่าวคือ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมวัว ผลเชอร์รี่ เนื้อไก่งวง กล้วย และเมล็ดฟักทอง ถ้าคุณมีอาการนอนไม่หลับในยามค่ำคืน คุณอาจมีของกินเหล่านี้ติดบ้านไว้ในยามค่ำคืน
9. การตื่นนอน
การลุกจากที่นอนนับได้ว่าเป็นงานไม่ที่ง่ายดายนัก มันไม่ใช่ว่าคุณยังรู้สึกดีจากการนอนหลับที่แสนสบายและบิดขี้เกียจในตอนเช้า หรือเพราะคุณมีช่วงเวลาที่แสนวิเศษเมื่อคืน นี่อาจเกิดจากอาการที่เรียกว่าอาการหายใจติดขัด ซึ่งทำให้เราเหนื่อยล้า อ่อนเพลียจนทำให้เราใช้เวลายาวนานกว่าจะทำใจลุกจากที่นอนได้ มันไม่ใช่โรคร้าย แต่เป็นอาการที่บ่งบอกได้ถึงสภาวะที่ไม่ควรมองข้ามที่กำลังเกิดในร่างกาย เช่นอาการซึมเศร้าและความเครียด
10. ฝันร้าย
แม้ว่าเรื่องราวในฝันร้ายส่วนมากจะเป็นเรื่องน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เป็นต้นเหตุของฝันร้ายเกี่ยวกับอารมณ์แทบทั้งสิ้น ต้นเหตุไม่ใช่ความกลัวจากภูติผีปีศาจ สัตว์ประหลาด ความมืด หรือแม้แต่สิ่งที่เกิดในภาพยนตร์สยองขวัญ แต่มันคืออารมณ์พื้นฐานที่ค้างคาใจคุณอยู่ เช่น ความสับสน ความเศร้า ความรู้สึกผิด ซึ่ง ถ้าคุณเป็นคนฝันร้ายบ่อยครั้ง อาจต้องลองมองย้อนกลับมาแก้ไขปัญหาทางอารมณ์ของคุณเสียก่อน
11. ตั้งใจอดนอน
ไม่ว่าจะการอดหลับอดนอนเพื่อทำงาน การเล่นเกมติดลมกับเพื่อน หรือเพราะอยากดูตอนจบของซีรีย์ที่ไม่อาจพลาดได้ เราทุกคนเคยมีช่วงเวลาเหล่านี้มาแทบทั้งสิ้น ในความเป็นจริงก็คือ มนุษย์เราเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ “จงใจอดนอน” ไม่ยอมพักผ่อน และแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
12. เลข 7 นำโชค
อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ยแล้วเราจะนอนหลับได้ภายใน 7 นาทีหลังจากล้มตัวลงนอน บางครั้งอาจจะนานหรือน้อยกว่านั้นเล็กน้อย กิจกรรมที่เราทำประจำวันก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน แล้วคุณล่ะใช้เวลานานมากนี้หรือน้อยกว่านี้
ตามที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด การนอนเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด แล้วคุณมีเรื่องราวของการนอนและความฝันที่อยากบอกเล่าให้ทุกคนฟังบ้างไหม
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ