16 เหตุการณ์สำคัญ ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2050

โลกเราใบนี้ล้วนมีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นตลอดในทุกๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ก็ตาม และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาชมปรากฏการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2050 หรือในอีก 23 ปีต่อจากนี้ มนุษย์เราจะมีโอกาสได้เป็นพยานในปรากฏการณ์อะไรบ้าง ลองไปชมกัน

1. ปี 2019: ประเทศใหม่อาจเกิดขึ้นในแผนที่

เกาะบูเกนวิลล์ในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเขตปกครองตนเองของประเทศปาปัวนิวกินี โดยมีพื้นที่ 9,300 ตร.กม. และมีจุดสูงสุดคือยอดเขาบัลบีที่สูงถึง 2,700 เมตร แต่ในอนาคตปี 2019 เกาะบูเกนวิลล์ อาจกลายเป็นประเทศน้องใหม่ล่าสุดของโลก หากประชากรในเกาะส่วนใหญ่ลงมติเห็ชอบในการแยกตัวออกมาจากปาปัวนิวกินี และนั่นรวมถึงเกาะนิวคาเลโดเนีย ที่ตอนนี้เป็นของฝรั่งเศส อาจแยกตัวเป็นอิสระเช่นเดียวกัน

2. ปี 2020: การก่อสร้างตึกที่สูงที่สุดในโลกจะเสร็จสิ้น

ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) คือตึกที่สูงที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองดูไบขณะนี้ ซึ่งมีความสูงกว่า 2,717 ฟุต (ตึกใบหยก 2 สูง 1,077 ฟุต) แต่สถิติของตึกนี้กำลังจะถูกทำลายลงเมื่อตึก เจดดาห์ ทาวเวอร์ ในประเทศซาอุดิอาราเบีย ที่มีความสูงกว่า 3,303 ฟุต มีกำหนดก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 2020 ที่จะถึงนี้

3. ปี 2020 : โรงแรมอวกาศของโลกจะเปิดตัว

บริษัท Bigelow Aerospace กำลังวางแผนที่จะเปิดตัวโรงแรมแห่งแรกในอวกาศ โดยการปล่อยยานอวกาศที่สามารถเป็นโรงแรมได้ขึ้นไปให้กับบรรดาแขกที่อยากสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่สามารถหาได้บนโลกได้ โดยโรงแรมอวกาศต้นแบบจะถูกชื่อมติดกับสถานีอวกาศนานาชาติที่โคจรอยู่เหนือโลกประมาณ 400 กิโลเมตร และยังมีนักบินอวกาศคอยช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับแขกอยู่ตลอดอีกด้วย

4. ปี 2024 : จรวดของ SpaceX จะไปถึงดาวอังคาร

อีลอน มาสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัท SpaceX กำลังวางแผนที่จะส่งยานอวกาศขนส่งไปยังดาวอังคาร ก่อนที่แผนการต่อมาจะเป็นการส่งมนุษย์คนแรกขึ้นไปอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์สีแดงแห่งนี้ เพื่อเตรียมตัวใช้ดาวอังคารเป็นอาณานิคมของมนุษย์โลกต่อไป

5. ปี 2025 : ประชากรโลกจะมีมากถึง 8 พันล้านคน

อ้างอิงข้อมูลจากสหประชาชาติ โลกของเราใบนี้จะมีประชากรเพิ่มมากขึ้นถึง 8 พันล้านคนภายในปี 2025 และจะเพิ่มมากขึ้นไปถึง 10,000 ล้านคนภายในปี 2050 นั่นอาจเป็นเพราะความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการแพทย์ จึงทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้คนลดลงอย่างมาก

6. ปี 2026 : มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย จะก่อสร้างสำเร็จ

มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) สถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เซโลนาในประเทศสเปนที่ออกแบบโดยอันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1883 จนผ่านมา 100 กว่าปีก็ยังไม่เสร็จสักที เนื่องจากอันตอนีได้เสียชีวิตในขณะที่งานคืบหน้าไปเพียง 50% เมื่อปี 1926 และถึงแม้จะมีคนมาสานต่อแต่ว่าก็ติดปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สงครามกลางเมือง รวมไปถึงปัญหาด้านการออกแบบที่ต้องใช้อิฐบล็อกที่มีลักษณะพิเศษ แต่สุดท้ายสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่นี้มีโครงการจะเสร็จสิ้นลงในปี 2026

7. ปี 2028 : เวนิซอาจไม่ใช่ที่ๆ เหมาะกับการอยู่อาศัยอีกต่อไป

นั่นไม่ได้หมายคามว่าเมืองจะจมอยู่ใต้น้ำ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือระดับน้ำในทะเลสาบเวนิสจะค่อยๆ สูงขึ้น จนไม่สามารถเป็นที่อยู่อาศัยได้อีกต่อไป และนั่นจะถือว่าเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับชาวเวนิสและประเทศอิตาลี ส่วนเมืองทั้งเมืองอาจจะจมอยู่ใต้น้ำ ก็ต้องหลังจากปี ค.ศ. 2100 ไปแล้ว

8. ปี 2029 : ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะเข้ามาใกล้โลก

จากการคำนวณครั้งแรก นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส จะมีโอกาสชนโลกในปี 2029 มากถึง 2.7% แต่หลังจากที่ได้ข้อมูลวงโคจรเบื้องต้น ทำให้นักดาราศาสตร์วิเคราะห์ว่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะเฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่างประมาณ 23,860 ไมล์ ซึ่งนั่นถือว่าค่อนข้างใกล้มากๆ โดยใกล้กว่าดวงจันทร์ถึง 11 เท่า และใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้า จนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

9. ปี 2030 : พื้นที่แผ่นน้ำแข็งในเขตอาร์กติก จะเล็กลงมาก

การสถานการณ์แผ่นน้ำแข็งในเขตอาร์กติก หรือบริเวณขั้วโลกเหนือที่ละลายลงอย่างรวดเร็ว นั่นจะทำให้ขนาดของทวีปอาร์กติกเล็กลงเรื่อยๆ จนอาจสลายหายไปหมดภายในช่วงฤดูร้อน ปลายศตวรรษที่ 21 และจากสถานการณ์นี้อาจส่งผลกระทบหลายอย่างต่อโลกเราอย่างคาดไม่ถึง

10. ปี 2033 : ภารกิจส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร

ภารกิจสุดท้ายท้ายนี้เป็นหนึ่งในโครงการขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) ที่มุ่งเน้นการศึกษาดวงจันทร์ ดาวอังคาร และดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ นั่นรวมถึงการส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารด้วยระบบการบินอัตโนมัติ แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องทดสอบการขนส่งอุปกรณ์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการลงจอด ก่อนที่จะกลับมาที่โลกอย่างปลอดภัยเสียก่อน

11. ปี 2035 : การเคลื่อนย้ายมวลสารจะเกิดขึ้นในรัสเซีย

โครงการพัฒนาระบบการเคลื่อนย้ายมวลสารแบบควอนตัมเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2014 โดยมีการใช้เงินลงทุนกว่า 2.1 ล้านล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยถึง 69.6 ล้านล้านบาท โดยมีโรดแมพการพัฒนาไปสิ้นสุดในปี 2035 และถ้าหากโครงการนี้สำเร็จ เราอาจจะได้เห็นการส่งคนไปยังอีกสถานที่หนึ่งภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที เหมือนกับภาพยนตร์ Sci-fi ก็เป็นได้

12. ปี 2036 : การเดินทางไปสู่ระบบดวงดาว อัลฟา เซ็นทอรี

อัลฟา เซ็นทอรี คือระบบดวงดาวที่ใกล้กับเรามากที่สุด ที่อยู่ห่างไปเพียง 4.37 ปีแสงนับจากดวงอาทิตย์ โดยมันประกอบไปด้วยดาว 3 ดวงได้แก่ Alpha Centauri A, Alpha Centauri B และดาวแคระแดงที่เรียกว่า Alpha Centauri C ซึ่งทางโครงการ Breakthrough Starshot มีแผนที่จะส่งยานไปยังดาวฤกษ์ที่ใกล้เคียงที่สุดและมันจะใช้เวลานานถึง 20 ปี และต้องใช้เวลานานถึง 5 ปีในการแจ้งข่าวสารมายังโลกว่าภารกิจดังกล่าวสำเร็จแล้ว

13. ปี 2040 : เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันจะเริ่มดำเนินการ

การก่อสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันระหว่างประเทศได้เริ่มขึ้นทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี 2007 ห่างจากเมืองมาร์กเซยไป 40 ไมล์ และเจ้าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันตัวนี้ถือว่ามีความปลอดภัยสูงกว่าตัวที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ระบบจะทำการปิดตัวเองทันทีและทำให้ไม่ต้องเกิดการอพยพผู้คนแต่อย่างใด

14. ปี 2045 : ช่วงเวลาแห่งความเป็นเอกเทศของเทคโนโลยี

อ้างอิงจากผู้คนที่เชื่อในทฤษฎีความเป็นเอกเทศของเทคโนโลยี ในเร็วๆ นี้จะมนุษย์เราจะก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเติบโตของเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนเราไม่สามารถเข้าใจได้ บางคนคิดว่าอาจเป็นช่วงเวลาที่มนุษยชาติจะถูกหลอมหลวมกับเครื่องจักร จนกลายไปสู่รูปลักษณ์ใหม่ของผู้คนในอนาคต

15. ปี 2048 : การขุดแร่ในแอนตาร์กติกา

อ้างอิงจาก “ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก” ได้กล่าวไว้ว่า ไม่มีประเทศใดที่เป็นเจ้าของดินแดนนี้ ห้ามไม่ให้มีการทดลองด้านนิวเคลียร์ใดๆ รวมถึงการขุดแร่ต่างๆ เป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาอีกครั้งในปี 2048

16. ปี 2050 : เริ่มสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร

ดาวอังคารถือเป็นเป้าหมายหลักในการสร้างอาณานิคมถัดไปของมนุษย์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นาซ่าลงทุนกับการส่งยานไปสำรวจดาวอังคารไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาที่มีอยู่มากมายเสียก่อน โดยโครงการ Mars One ที่มีเป้าหมายในการตั้งอาณานิคมในอวกาศนี้อาจสำเร็จได้ในปี 2050 แต่สำหรับบางคนอย่างเช่น สตีฟ วอซเนียก วิศวกรผู้ก่อตั้งบริษัท Apple ไม่เชื่อว่าผู้คนจะสามารถย้ายไปอาศัยอยู่บนดาวดวงอื่นได้ แต่ใครจะไปรู้ ของแบบนี้ต้องใช้กาลเวลาพิสูจน์อย่างเดียวเท่านั้น

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ