17 ความเชื่อผิดๆ ที่ผู้คนยังคงหลงผิดมาตลอดชีวิต

รู้หรือไม่ว่า ความเชื่อหลายอย่างที่เราถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แถมมันยากที่จะเปลี่ยนได้ แต่หากคุณลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา คุณอาจพบว่า หลายสิ่งที่เรารู้มานั้นมันไม่จริงเอาเสียเลย

1. ไวกิ้งจะสวมหมวกมีเขา

ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ระบุว่าชาวไวกิ้งจะสวมหมวกที่มีเขา แต่เรื่องหมวกมีเขาของชาวไวกิ้งปรากฏครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 19 ตามภาพวาดของจิตรกรเท่านั้น

2. ยิ่งกินดึกๆ จะยิ่งอ้วน

จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวว่าคุณจะกินหลัง 6 โมงเย็น หรือกินดึกแค่ไหน เพราะเวลากินไม่มีผลต่อความอ้วน ซึ่งจริงๆ แล้ว อ้วนไม่อ้วนมันอยู่ที่ปริมาณแคลอรี่ที่คุณกินต่อวันต่างหาก

3. ฤดูกาลเปลี่ยนตามระยะทางการโคจรของโลก ถ้าโคจรใกล้ดวงอาทิตย์คือฤดูร้อน ถ้าไกลดวงอาทิตย์คือฤดูหนาว

นี่เป็นความเชื่อที่ผิดๆ เพราะจริงๆ แล้วฤดูกาลเปลี่ยนแปลงเพราะแกนโลกที่เอียงเป็นมุม 23.5 องศา และการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ จึงทำให้ในแต่ละช่วงของปี แต่ละพื้นที่บนโลกจะได้รับแสงแดดไม่เท่ากัน ส่งผลทำให้มีอุณหภูมิต่างกัน และเกิดเป็นฤดูกาลต่างๆ ขึ้น ซึ่งประเทศในเขตอบอุ่นและเขตหนาวจะมี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิ ส่วนประเทศในเขตร้อนจะมีเพียง 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดูฝน

4. หลุมดำ คือหลุมที่กลืนกินทุกอย่างลงไป

หลุมดำที่แท้จริงจะมีลักษณะเป็นลูกบอล ไม่ได้เป็น “หลุม” ที่จะดูดทุกสิ่งเข้าไปข้างใน มันเป็นแค่วัตถุหนึ่งที่มีแรงโน้มถ่วงมหาศาล จนสามารถดูดกลืนทุกสิ่งที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนั่นเอง

5. การจำเป็นภาพ มีอยู่จริง

หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องคนที่มีความทรงจำแบบภาพถ่าย (Photographic Memory) ที่ทำให้พวกเขาสามารถเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้เป็นภาพ และทำให้พวกเขาจดจำรายละเอียดได้มากกว่คนธรรมดาทั่วไป แต่ในความเป็นจริง ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าการจำแบบภาพมีอยู่จริง แต่บุคคลที่มีความจำเป็นเลิศเหล่านี้มักเกิดจากการใช้เทคนิคการช่วยจำ (Mnemonic Techniques) มากกว่าการจดจำตามธรรมชาติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด

6. ผักดิบมีประโยชน์กว่าผักที่ปรุงสุกแล้ว

ไม่ใช่ทุกผักที่กินดิบๆ แล้วจะมีประโยชน์มากกว่า ตัวอย่างผักที่กินแบบต้มแล้วมีประโยชน์มากกว่าก็คือ แครอท มะเขือเทศ มันฝรั่ง กระหล่ำดาว และ บีท เนื่องจากแร่ธาตุจากผักที่ต้มสุกจะถูกร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าผักดิบ 6-7 เท่า ถึงแม้ว่าจะสูญเสียวิตามินไปในระหว่างการใช้ความร้อนก็ตาม

7. ฟันขาวคือสุขภาพดี

นี่อาจทำให้หลายๆ คนผิดหวัง เพราะทันตแพทย์ได้กล่าวไว้ว่า ฟันขาวที่มีสุขภาพดีไม่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ สาเหตุเพราะฟันขาวเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยและการขาดแคลเซียมในร่างกาย

8. ถ้าสัมผัสคางคกแล้วจะเป็นหูด

นี่ไม่ใช่ความเชื่อของคนไทยเท่านั้น แต่ในต่างประเทศก็มีการปลูกฝังความเชื่อผิดๆ นี้มาตั้งแต่อดีต เพราะในความเป็นจริง หูดบนร่างกายมนุษย์เกิดจากเชื้อไว้รัสที่มีผลต่อคนเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถส่งผ่านจากสัตว์ที่มีหูดได้

9. โลกกลมเป๊ะๆ

โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างตลอดเวลา โดยมันเกิดขึ้นเนื่องจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกนี้ยังคงเล็กมาก ประมาณ 5 ซม.ต่อปี แต่มันก็ยังส่งผลต่อรูปร่างของโลกเราใบนี้ไม่ได้กลมเหมือนอย่างที่คาดไว้ ในความเป็นจริงแล้ว มันมีลักษณะคล้ายลูกแพร์หรือบอลลูนที่บิดเบี้ยวมากกว่า

10. ร่างกายมนุษย์จะระเบิดในอวกาศ

เราสามารถอยู่รอดในอวกาศได้เพียง 15 วินาที ก่อนที่จะหมดสติจากการขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง เซลล์สมองจะตายภายใน 3 นาที ร่างกายของคุณจะบวมขึ้นเป็น 2 เท่า ตัวคุณไม่ถึงกับระเบิดแต่ผิวหนังจะยืดขยายออกไปมาก ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่ได้มีชีวิตอยู่นานพอที่จะเห็นตัวเองในสภาพแบบนั้น

11. ครีมกันแดดป้องกันมะเร็งผิวหนัง

แม้ว่าครีมกันแดดจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ การเลือกครีมกันแดดที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายกว่าที่คิด เนื่องจากสีผิวแต่ละโทนจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสม แต่ไม่ว่าค่า SPF จะสูงแค่ไหน หรือคุณจะทาครีมกันแดดที่มากและบ่อยเท่าไหร่ ก็ยังไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้ 100%

12. การใช้ไมโครเวฟทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร

การปรุงอาหารไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม ก็ทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารทั้งสิ้น การใช้ไมโครเวฟก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้เตาอบ แถมในบางครั้ง การปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟยังทำสูญเสียคุณค่าทางอาหารน้อยกว่าการปรุงแบบอื่นด้วย

13. การห่อลิ้นได้เป็นพันธุกรรม

จากการศึกษาเรื่องความสามารถในการห่อลิ้นมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทำให้นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่า การห่อลิ้นถือเป็นพรสวรรค์ ไม่ใช่การส่งต่อทางพันธุกรรมแต่อย่างใด ผลการศึกษานี้พบว่า เด็กอายุ 6-7 ปี จำนวนกว่า 54% สามารถห่อลิ้นได้ และเด็กอายุ 12 ปี สามารถทำได้มากถึง 76%

14. การโกนขนทำให้ขนหนาขึ้น

นี่เป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับเรามาตั้งแต่อดีต หลายคนเชื่อว่าการโกนทำให้เส้นขนหนาและดกมากขึ้น แต่จำนวนรูขุมขนของเรานั้นเป็นลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการโกนแต่อย่างใด นอกจากนั้นเส้นขนของเรางอกจากราก ไม่ใช่จากปลาย และการตัดหรือโกนบ่อยๆ ก็ไม่ได้ส่งผลให้ผมหรือขนเราขึ้นเร็วแต่อย่างใด

15. เลือดกำเดาไหลให้เงยหน้า

นี่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อผิดๆ เพราะการเงยหน้าจะทำให้เลือดไหลย้อนกลับลงคอ และอาจทำให้สำลักได้ วิธีที่ถูกต้องในสถานการณ์นี้ก็คือการโน้มตัวไปข้างหน้า ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งก้อนเอาไว้ข้างในประคบไปที่จมูก เพื่อที่จะช่วยให้เส้นเลือดฝอยหดตัวและหยุดการไหลของเลือด

16. สิวขึ้นเพราะกินช็อกโกแลต

จากการรทดลองของนักวิทยาศาสตร์ที่ให้กลุ่มตัวอย่างทดลองกินช็อกโกแลตแท่งนานกว่า 1 เดือน ผลปรากฏว่าช็อกโกแลตไม่ได้มีส่วนทำให้สิวขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นคุณสามารถกินช็อกโกแลตได้โดยไม่ต้องกลัวสิว

17. การดื่มนมวัวทำให้กระดูกแข็งแรง

การผลวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ได้พิสูจน์ว่า การดื่มนมวัวในปริมาณมากเกินไป ไม่ได้ช่วยให้กระดูกของคุณแข็งแรงขึ้น แต่มันกลับให้ผลตรงกันข้ามคือยิ่งเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนมากยิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญกว่าการกินนมวัวก็คือ การรักษาสมดุลของแคลเซียมในร่างกาย ลดโปรตีนจากสัตว์ ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอหรือได้รับปริมาณวิตามินดีอย่างเหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา