เหตุการณ์ไฟป่าในประเทศออสเตรเลียกำลังดีขึ้นอย่างมากหลังเกิดฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และนี่นับเป็นสถานการณ์ฝนตกที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีก็ว่าได้ ถึงแม้มันอาจไม่ได้ช่วยให้ไฟป่าดับลงจนหมดทุกแห่ง แต่ไฟป่าจุดใหญ่ ๆ หลายจุดที่ลุกไหม้มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก็ดับมอดลงได้สำเร็จ ในขณะที่หลายคนคิดว่านี่คือจุดจบของโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย แต่ในความเป็นจริงยังมีอีกหลายสิ่งที่เกิดขึ้นและเราเองไม่เคยรู้มาก่อน
วันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปชมกันว่า จะมีอะไรบ้างที่จะเกิดตามมาหลังจากเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ และมันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
1. การเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ควันไฟทั้งหมดที่เป็นผลมาจากไฟป่าจะยังคงอยู่ในชั้นบรรยากาศ โดยที่ถูกพัดวนไปทั่วโลกจนส่งผลให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น จากรายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของป่าไม้ทั่วโลก
2. แหล่งน้ำปนเปื้อน
แม้ว่าผู้คนในซิดนีย์จะโห่ร้องยินดีกับสายฝนที่กระหน่ำลงมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปนี้กลับส่งผลต่อแหล่งน้ำเดิมที่มีอยู่ เนื่องจากการพัดพาเอาซากขี้เถ้า เขม่า และพืชที่ไหม้เกรียม ไปปะปนลงในแม่น้ำลำธาร เขื่อน และชายหาด ที่ทำให้น้ำเน่าเสียและอาจเกิดการอุดตันได้ตามท่อระบายน้ำได้
3. สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลถูกคุกคาม
ในช่วงที่เกิดเหตุไฟป่า กระแสลมได้พัดพาขี้เถ้าและเศษซากอื่น ๆ ปลิวลงสู่มหาสมุทร และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทั้งหลายรวมถึงปะการังก็ได้รับผลกระทบจากไฟป่าในครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่างนี้มีให้เห็นแล้วจากเหตุการณ์ไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย ที่ส่งผลทางอ้อมต่อปะการังจำนวนมาก
4. ส่งผลเชิงลบต่อปศุสัตว์และการเกษตร
ไฟป่าได้ทำลายทุ่งหญ้า ฟาร์มปศุสัตว์ และไร่องุ่นจำนวนมาก มีผู้ผลิตนมจำนวนมากต้องสูญเสียสัตว์ในฟาร์ม พื้นที่เลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปในกองเพลิง นอกจากนั้น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปยังส่งผลต่อการผลิตอาหารในหลากหลายประเภท นั่นหมายความว่า ผลผลิตจะน้อยลงจนส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้น
5. ระบบนิเวศน์ถูกทำลาย
การสูญเสียสัตว์ป่าจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่อาจคำนวณเป็นตัวเลขได้ ออสเตรเลียเป็นบ้านของสัตว์หลายชนิดที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยแห่งเดียวบนโลก และมันก็เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ นอกจากนั้นสัตว์ที่รอดชีวิตมาได้ก็ต้องเผชิญกับการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เนื่องจากทั้งบ้านและแหล่งอาหารของมันก็หายไป นอกจากนั้นสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไป วัชพืชจะเข้ามาปกคลุมป่า รวมถึงพืชสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแทนที่สายพันธุ์เดิมที่หายไป
6. ธารน้ำแข็งในนิวซีแลนด์จะละลายเร็วขึ้น
มีรายงานว่า หิมะบนธารน้ำแข็งในนิวซีแลนด์กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว เถ้าถ่านจากไฟป่าคือตัวการที่ทำให้ธารน้ำแข็งเหล่านี้ละลายเร็วขึ้นมากถึง 20-30% ในฤดูกาลนี้ นอกจากนั้น คราบเขม่ายังเปลี่ยนหิมะสีขาวให้กลายเป็นสีน้ำตาลเข้มจนดูราวกับมันถูกเคลือบคาราเมลเอาไว้ หิมะที่มีสีเข้มก็จะดูดซับความร้อนได้มากขึ้น และส่งผลให้ธารน้ำแข็งละลายเร็วขึ้นอีกด้วย
7. สุขภาพของผู้คนกำลังตกอยู่ในอันตราย
ควันและมลพิษทางอากาศส่งผลให้คุณภาพทางอากาศลดลง ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจของตัวคุณเอง และไม่ใช่แค่ชาวออสซี่ที่จะได้รับผลกระทบนี้ แต่นาซ่ายืนยันว่า กระแสลมจะพัดพาควันจากไฟป่าวนไปรอบโลกอย่างน้อย 1 รอบ ก่อนที่จะกลับเข้ามาสู่ท้องฟ้าออสเตรเลียอีกครั้ง เรียกได้ว่าทุกคนจะได้แบ่งปันประสบการณ์ควันไฟเหล่านี้ร่วมกันนั่นเอง
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ