ในสังคมทุกวันนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องเรียนรู้ทักษะการป้องกันตัว เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันเลวร้าย ถึงแม้จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตคุณจาก 0 เป็น 1% ก็ตาม โดย วิคเตอร์ ลยาลโก ปรมาจารย์ด้านการป้องกันตัวได้อธิบายถึงเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้หญิงรู้จักป้องกันตัวเองได้ และวันนี้เพชรมายาจะขอพาผู้หญิง (หรือแม้แต่ผู้ชาย) มาเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้กัน
1. จดจำจุดอ่อนให้ได้
ไม่ว่าคนร้ายจะตัวใหญ่แค่ไหน คุณสามารถเอาชนะได้ทุกคนหากคุณรู้จักจุดที่อ่อนแอที่สุดสำหรับพวกเขา ได้แก่ ดวงตา จมูก ลำคอ ลิ้นปี่ หัวเข่า และหว่างขา คุณสามารถโจมตีเข้าที่จุดไหนก็ได้ แต่เพื่อความปลอดภัย คุณต้องจำไว้ว่า การโจมตีดังกล่าวต้องให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
2. การโจมตีที่เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดและง่ายที่สุด
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดก็คือถ้าหากคนร้ายพยายามเอามือเข้ามาจับตัวคุณก็คือ การใช้มือข้างหนึ่งจับนิ้วชี้และนิ้วกลาง ส่วนอีกข้างจับนิ้วนางและนิ้วก้อย แล้วพยายามบิดข้อมือเข้าไปหาตัวคนร้ายเอง
แต่ถ้าคุณยังไม่สามารถคว้าข้อมือคนร้ายได้ การโจมตีด้วยกำปั้นหรือนิ้วไปที่กระดูกไหปลาร้าหรือลูกกระเดือก จะช่วยให้คนร้ายชะงักได้นานพอที่คุณจะหนีเอาตัวรอดได้
ส่วนพื้นที่ๆ ดีที่สุดก็คือการโจมตีเข้าที่หว่างขา โดยในหลักสูตรป้องกันตัวทุกที่จะแนะนำให้โจมตีไปยังจุดอ่อนตรงนี้ ซึ่งผู้ชายทุกคนถ้าโดนจุดนี้เข้าไปเต็มๆ รับรองว่ามีจุกลุกไม่ขึ้นไปนานหลายนาทีแน่นอน
3. ถ้าคุณถูกคว้าจากข้างหน้า
ถ้าคุณถูกคว้าตัวจากข้างหน้าและคุณไม่สามารถยกมือขึ้นได้ ให้พยายามกำหมัดแล้วเอาไว้ข้างหน้ากระดูกเชิงกรานของคุณ ที่จะช่วยให้คุณมีช่องว่างเพียงพอระหว่างคุณกับคนร้าย
จากนั้นคุณจะสามารถใช้หน้าผากของตัวเองโขกเข้าไปที่จมูกของคนร้าย ซึ่งนี่จะทำให้คนร้ายผละออกจากตัว จากนั้นคุณสามารถตีเข่าไปที่หว่างขาของคนร้ายต่อได้ทันที
แต่ถ้าคุณยังคงมีช่องว่างระหว่างคนร้ายอยู่ล่ะก็ คุณสามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยการใช้ฝ่ามือ ให้ยืดแขนซ้าย (ที่ไม่ถนัด) ออกไปให้สุด และโจมตีเข้าที่คางหรือจมูกด้วยมือขวา เมื่อคนร้ายชะงัก อย่าลืมโจมตีเข้าที่จุดอ่อนที่สุดของเขาด้วยการตีเข่าเข้าที่ขาหนีบนั่นเอง
4. วิธีปลดมือเป็นอิสระ
ถึงแม้จะโดนคว้าข้อมือ แต่คุณสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดายหากคุณรู้จัก “กฏของนิ้วโป้ง” โดยการหมุนข้อมือของคุณไปยังด้านนิ้วโป้งของคนร้าย
ถ้าคนร้ายจับแขนของคุณแน่นมาก ให้หักข้อมือของคุณเข้าหาตัวและหมุนข้อมือไปยังด้านนิ้วโป้งของคนร้าย จากนั้นให้ดึงแขนของคุณออกให้สุดแรง
5. ถ้าคุณถูกคว้าจากข้างหลัง
บ่อยครั้งที่คนร้ายมักจะเข้ามารวบตัวคุณจากข้างหลัง เพราะมันเป็นวิธีที่พวกเขาจะจัดการเหยื่อได้ง่ายที่สุด และเหยื่อก็ไม่สามารถใช้แขนขัดขืนได้
เพื่อสลัดตัวให้เป็นอิสระ ให้โยกหัวตัวเองไปทางด้านหลัง และพยายามโจมตีคนร้ายด้วยหลังหัวของเรา ถึงแม้จะทำไม่สำเร็จ แต่คนร้ายจะพยายามทรงตัวด้วยการก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า
ในจุดนี้เอง ให้คุณก้มลงอย่างรวดเร็ว คว้าขาของเขาและดึงมันขึ้นมาสุดแรง คนร้ายจะสูญเสียการทรงตัว และคุณก็จะสามารถล้มคนร้ายได้ แม้ว่าเขาจะตัวใหญ่แค่ไหนก็ตาม
6. ถ้าคุณถูกเข้าหาหรือคว้าตัวจากด้านข้าง
สิ่งสำคัญก็คือ พยายามโจมตีคนร้ายเข้าที่ กกหู ขากรรไกร หรือจมูก ด้วยการหมุนศอกเป็นวงกลม หลังจากนั้นคนร้ายจะถอยออกไป 2-3 ก้าว คุณอาจอาศัยช่องว่างนี้โจมตีเข้าที่หน้าอกและท้องของคนร้าย ศอกเป็นส่วนที่แข็งแรงมาก ดังนั้นคนร้ายอาจมีชะงักถ้าเจอศอกเข้าไปเต็มๆ
7. ถ้าคุณถูกผลักจนติดกำแพง
ถ้าแขนของคนร้ายทั้ง 2 ข้างอยู่เหนือไหล่คุณ ให้โจมตีเข้าที่รักแร้ของคนร้ายอย่างเต็มแรง แต่ถ้าแขนของคนร้ายอยู่ต่ำข้างลำตัวข้างหนึ่ง จะมีโอกาสที่คุณจะสามารถโจมตีเข้าที่ อก คอ หรือกรามของเขา
แต่วิธีที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุดก็คือ การใช้ศีรษะของคุณโจมตี โดยเริ่มจากการย่อขาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะกระโดดขึ้นเอาหน้าผากโขกไปที่กรามของคนร้าย ซึ่งการโจมตีในลักษณะนี้จะช่วยให้คนร้ายชะงัก และคุณจะมีโอกาสหนีไปจากสถานการณ์ตรงนั้นได้
สุดท้ายนี้เพชรมายาหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์จากเทคนิคเหล่านี้ไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่อย่าลืมว่าการเอาตัวรอดด้วยวิธีเหล่านี้จำเป็นจะต้องอาศัยการฝึกฝนบ้าง และนอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในสถานการณ์เฉพาะหน้าอีกด้วย
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ