ในแต่ละประเทศก็มักจะมีอาหารประจำชาติที่เราคุ้นเคยกันดี แต่คุณจะแน่ใจได้แค่ไหนว่าอาหารที่เราคิดว่าเป็นอาหารประจำชาติ จะมีต้นกำเนิดมาจากชนชาตินั้นจริง ๆ วันนี้เพชรมายาจะพาคุณไปรู้จักกับต้นกำเนิดของอาหารทั้ง 10 ชนิดต่อไปนี้ ที่เชื่อว่าหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมัน และมาดูกันว่าแท้จริงแล้ว ต้นกำเนิดของอาหารเหล่านี้มาจากที่ไหน
1. โดนัท – เราคิดว่ามาจากอเมริกา แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากกรีซ
โดนัทในรุ่นแรก ๆ ที่เรารู้จักกันเกิดจากชาวดัชต์ที่นำโดนัทมาจากยุโรปเข้ามายังนิวยอร์ก ซึ่งในตอนนั้นมีชื่อว่า นิวอัมสเตอร์ดัม แต่จริง ๆ แล้วย้อนไปไกลกว่านั้น ชาวกรีกโบราณคิดค้นขนมที่มีชื่อว่า Loukoumades ที่มีลักษณะเป็นลูกบอลเล็ก ๆ เคลือบน้ำผึ้งและวอลนัท มันคือขนมที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกเมื่อ 776 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งมันถือเป็นหนึ่งในรางวัลสำหรับผู้ชนะ
2. ไอศกรีม – เราคิดว่ามาจากอิตาลี แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากมองโกเลีย
ไอศกรีมเป็นขนมขึ้นชื่อของชาวอิตาลีโดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพและความอร่อย แต่จริง ๆ แล้วไอศกรีมในยุคแรก ๆ เกิดขึ้นโดยความบังเอิญเมื่อชาวมองโกลที่ต้องบรรทุกนมควายหรือนมจามรีบนหลังม้าข้ามผ่านที่ราบเยือกแข็งในทะเลทรายโกบี แต่เมื่ออุณหภูมิลดต่ำลงนมเหล่านั้นก็แข็งตัว ในขณะที่อาณาจักรมองโกลเพิ่มแผ่ขยายอำนาจไปในช่วงศตวรรษที่ 13 ความนิยมของนมที่แข็งเป็นครีมก็เพิ่มขึ้น และมาร์โค โปโล ก็นำไอเดียนี้กลับไปยังอิตาลีในตอนปลายศตวรรษที่ 13
3. ครัวซองต์ – เราคิดว่ามันมาจากฝรั่งเศส แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากออสเตรีย
ครัวซองต์เป็นขนมอบแสนอร่อยที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน แต่จริง ๆ แล้วมันกำเนิดขึ้นในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมันถูกเรียกว่า Kipfer ที่เป็นเหมือนบรรพบุรุษของครัวซองต์ ขนมรูปพระจันทร์เสี้ยวนี้เป็นประเพณีการอบขนมของชาวออสเตรียเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลอีสเตอร์ โดยถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 12 หรือก่อนที่ครัวซองต์ในฝรั่งเศสจะเกิดขึ้นถึง 400 ปี
4. พาสตา – เราคิดว่ามันมาจากอิตาลี แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากจีน
เส้นพาสตาได้รับความนิยมอย่างมากในอิตาลีช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งได้ไอเดียมาจากการที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ค้นพบบะหมี่ไข่จากชาวอาหรับเร่รอนที่นำมันมาจากเอเชียตะวันตก บ้างก็ว่า มาร์โค โปโล เป็นผู้นำไอเดียการทำเส้นบะหมี่นี้มาจากประเทศจีนด้วยตนเอง โดยบะหมี่ไข่ถือเป็นอาหารจีนมายาวนานตั้งแต่ก่อนคริสตกาล
5. ชูโรส – เราคิดว่ามันมาจากสเปน แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากจีน
ชูโรสคือวัฒนธรรมอาหารเช้าของชาวสเปน แต่ต้นกำเนิดของมันจริง ๆ มาจากอาหารเช้าของชาวจีนที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นคือปาท่องโก๋ ที่ถูกชาวโปรตุเกสนำเข้าไปยังสเปนในศตวรรษที่ 17 ก่อนที่จะมีการปรับปรุงรูปทรงและรสชาติให้มีรสหวานเหมือนกับชูโรสที่เรารู้จักในปัจจุบัน
6. มีตบอลสวีเดน – เราคิดว่ามันมาจากสวีเดน แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากตุรกี
ถ้าพูดถึงมีตบอลเราคงนึกไปถึงอาหารแสนอร่อยใน IKEA แบรนด์ดังจากสวีเดน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดในการปั้นเนื้อให้เป็นลูกบอลมาจากจีนที่ทำมาก่อนหลายศตวรรษ แต่สูตรมีตบอลที่เราคุ้นเคยกันดีมาจากตุรกีที่ถูกนำไปยังสแกนดิเนเวียในศตวรรษที่ 18 โดยพระเจ้าคาร์ลที่ 12 แห่งสวีเดน โดยมีเนื้อวัวและเนื้อแกะที่มีส่วนผสมของหอมใหญ่ ไข่ไก่ ผักชีฝรั่ง เกล็ดขนมปัง และเกลือก คลุกเคล้ากันเพื่อให้ได้รสชาติ ส่วนมีตบอลของสวีเดนในปัจจุบันมักจะใช้เนื้อหมูเป็นหลัก
7. ฟิช แอนด์ ชิปส์ – เราคิดว่ามันมาจากสหราชอาณาจักร แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากโปรตุเกส
นี่คืออาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สามารถหาได้แทบทุกร้านอาหารที่เปิดในเมืองชายฝั่งในสหราชอาณาจักร แต่ต้นกำเนิดของมันจริง ๆ มาจากชาวยิวในคาบสมุทรไอบีเรีย (ปัจจุบันคือสเปนและโปรตุเกส) ที่อพยพมาจากโปรตุเกสนำอาหารที่เรียกว่า Peshkado Frito ไปยังสหราชอาณาจักรในศตวรรษที่ 15 เมนูปลาทอดนี้ได้ถูกปรับสูตรใหม่และกลายเป็นที่นิยมที่พร้อมรับประทานกับมันฝรั่งในเวลาต่อมา
8. ไข่สกอตช์ – เราคิดว่ามันมาจากสกอตแลนด์ แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากอินเดีย
เมนูไข่ต้มที่หุ้มด้วยเนื้อบดนี้เป็นเอกลักษณ์ของชาวสกอต แต่นี่คือเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูที่ชื่อว่า Nargisi Kofta ที่ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในวัฒนธรรมอินเดียเมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นไปได้ว่าชาวอังกฤษได้ค้นพบเมนูนี้ในขณะเดินทางไปยังอินเดียในอีกหลายศตวรรษต่อมา
ที่มา : cda.eu | Facebook | twitter.com | pinterest.com | youtube.com | Boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ