คนเราไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะต้องไปอยู่ในจุดไหนบ้าง สักวันหนึ่งคุณอาจจะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายบางประเภท ดังนั้นการที่มีความรู้รอบตัวเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แม้อีกสักเพียง 1% ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาชมวิธีเอาตัวรอดจากสัตว์ร้ายต่างๆ หากคุณบังเอิญต้องไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย มาดูกันว่าเราควรจะมีเทคนิคการเอาตัวรอดอย่างไรบ้าง
1. ฉลาม
ข่าวดีก็คือมีฉลามเพียง 20 ชนิดจาก 150 ชนิดบนโลกที่จะโจมตีมนุษย์ นั่นเพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว มนุษย์เราไม่ถือว่าเป็นอาหารหลักของพวกมัน แต่ข่าวร้ายก็คือถ้าฉลามสนใจที่จะเล่นงานคุณขึ้นมาล่ะก็ มันเป็นการยากมากที่จะเอาชีวิตรอดและหนีจากมันได้
อันดับแรก สิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อดึงดูดฉลามเลยนั่นก็คือการที่คุณมีเลือดออกหรือปัสสาวะในน้ำ ฉลามมีประสาทการดมกลิ่นที่ดีมาก ขนาดที่ห่างไปหลายกิโลเมตรยังรู้สึก
และถ้าคุณต้องเผชิญหน้ากับฉลามแบบตัวต่อตัว สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นคือ อย่าหันหลังกลับและว่ายน้ำหนี เพราะนั่นจะทำให้คุณดูเหมือนเหยื่อมากขึ้นไปอีก ให้เคลื่อนไหวช้าๆ เข้าไว้ และถ้าสุดท้ายคุณต้องเผชิญหน้ากับมันละก็ พยายามจ้องตาและเหงือกของมัน นี่ถือเป็นช่วงเวลาวัดใจที่ช่วยให้คุณมีโอกาสรอดมากขึ้น ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้ว
2. จิงโจ้
จิงโจ้จะโจมตีคุณ ถ้าคุณไปบุกรุกอาณาเขตของพวกมัน เนื่องจากจิงโจ้จะรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม และเพื่อหลีกเลี่ยงการดราม่าที่จะเกิดขึ้น ให้ทำตามคำแนะนำดังนี้
การไอ สั้นๆ เรียบๆ ถือเป็นสัญลักษณ์ของอาการเจ็บป่วย ที่คุณอาจจะรอดจากการถูกโจมตี หรือการเดินถอยหลังไปช้าๆ คุณจะดูตัวเล็กลง และเป็นอันตรายน้อยลงตามไปด้วย
สิ่งที่สำคัญคือ อย่าหันหลังกลับและอย่าวิ่ง เพราะมันจะเป็นการกระตุ้นให้จิงโจ้ตกใจ และด้วยความสามารถในการกระโดดที่ไกลมาก จะทำให้มันเข้าถึงตัวคุณได้อย่างรวดเร็ว
3. สิงโต
ถ้าคุณต้องเจอกับสิงโตล่ะก็ ให้มองตาของมัน ห้ามหันหลังและมองไปทางอื่นเด็ดขาด เพราะการหลบสายตาจะทำให้นักล่าไม่ลังเลที่จะโจมตีคุณ พยายามทำตัวเองให้ดูตัวใหญ่ พยายามยกแขนหรือชูเสื้อแจ็คเก็ตขึ้น ถ้าคุณดูตัวใหญ่และดูเป็นอันตรายกับพวกมัน สิงโตเหล่านี้จะหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งด้วย
อีกวิธีคือการคุยกับสิงโตด้วยเสียงที่ดังและมั่นใจ พฤติกรรมการใช้สัญญาณเสียงและท่าทาง จะทำให้คุณไม่มีลักษณะเหมือนกับเหยื่อของพวกมัน และรับรู้ว่าคุณเป็นสิ่งสัตว์ที่มันควรจะอยู่ให้ห่างดีกว่า
4. ช้าง
ช้างเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเป็นมิตร อย่างไรก็ตามพวกมันสามารถโจมตีมนุษย์ได้ โดยเฉพาะช้างตัวเมียที่รู้สึกว่าคุณกำลังจะไปทำอันตรายลูกๆ ของพวกมัน
ถ้าคุณต้องเผชิญหน้ากับช้าง ให้ลองสังเกตภาษากายของพวกมันดู ถ้ามันบิดงวงไปมาและหูพับไปด้านหลัง แสดงว่ามันจะลังจะเหยียบคุณ ถ้าช้างกำลังจะโจมตีคุณ อย่าวิ่งหนีแบบไม่มีจุดหมาย ให้พยายามซ่อนตัวหลังก้อนหินหรือต้นไม้ใหญ่ให้พ้นจากสายตาช้างให้ได้
5. แรด
แรดเป็นสัตว์ที่มีสายตาแย่มาก นั่นเป็นเหตุผลที่คุณสามารถทำให้แรดตกใจได้ง่ายและเข้ามาโจมตีคุณ และถ้าหากคุณเห็นว่ามันอ้วนอุ้ยอ้ายและพยายามวิ่งหนีมันล่ะก็ คุณอาจคิดผิด เพราะแรดสามารถวิ่งได้เร็วถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ดังนั้นสิ่งที่คุณทำได้ก็คือการหลบซ่อนแรดหลังต้นไม้ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับแรด การวิ่งอ้อมผ่านต้นไม้ พุ่มไม้ ต้นหญ้าสูง จะทำให้สัตว์เหล่านี้ไม่สามารถตามคุณได้
6. ฮิปโป
ถึงแม้ฮิปโปจะดูตัวอ้วน ปากกว้าง น่ารักน่าชัง แต่นี่คือสัตว์ที่อันตรายสุดๆ ยิ่งกว่าจระเข้หลายเท่า แถมมันยังเป็นสัตว์ที่ขี้โมโหอีกด้วย ส่วนการวิ่งหนีเจ้าฮิปโปที่วิ่งได้เร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ดูจะยากไม่น้อย
สิ่งแรกคือไม่ควรเข้าไปใกล้ฮิปโป ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ไม่ควรเข้าไปในบริเวณพุ่มไม้สูง เพราะเมื่ออากาศร้อนและน้ำแห้งแล้ง ฮิปโปจะมาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้สูงๆ แทน และเพื่อไม่ให้ฮิปโปเข้าถึงตัวคุณได้ นั่นคือการปีนต้นไม้ ปีนก้อนหินใหญ่ๆ หรือเนินเขาที่ชันพอสมควร และคอยจนกระทั่งพวกมันจากไป
7. กระทิง
กระทิงจะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของคน ไม่ใช่สีแดงหรือสีอื่นๆ ตามที่เราเข้าใจ
ดังนั้นถ้ากระทิงวิ่งใส่คุณล่ะก็ พยายามยืนตัวตรง และใช้หมวกหรือเสื้อของคุณ หรือชิ้นส่วนอะไรก็ตามล่อพวกมัน และทันทีที่กระทิงวิ่งเข้ามาใกล้พอ ให้โยนสิ่งของเหล่านั้นไปข้างๆ เพื่อล่อให้กระทิงวิ่งตามไปแทนที่จะพุ่งเข้ามาหาคุณ
8. แมงกระพรุน
พิษของแมงกระพรุนเป็นอะไรที่ปวดแสบปวดร้อนและยาวนาน หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องถ้าถูกพิษแมงกระพรุนให้เอาปัสสาวะราด แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด
ทันทีที่คุณโดนพิษแมงกระพรุนให้ทำการล้างด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือ การล้างด้วยน้ำจืดปกติจะส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง หลังจากนั้นถ้ามีเศษหนวดแมงกระพรุนติดอยู่ ให้ใช้ไม้เขี่ยหรือใช้แหนบคีบมันทิ้งไป จากนั้นให้รีบนำตัวไปพบแพทย์ทันที
9. จระเข้
นี่คือหนึ่งในสัตว์ที่มีขากรรไกรอันทรงพลังที่สุดบนโลกใบนี้ ดังนั้นถ้าคุณถูกมันกัดเข้าไปแล้วล่ะก็ มันยากมากที่จะหลุดพ้นจากคมเขี้ยวของมันได้
ถ้าคุณถูกกัดและยังมีแรงพอ ให้โจมตีมันที่ตา ดวงตาและลำคอของมันเป็นจุดอ่อนที่สุดของพวกมัน เล็งให้ถูก ซัดให้แรงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าคุณเจอพวกมันกำลังคลานเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ให้พยายามทำเสียงดังพร้อมกับวิ่งหนีแบบซิกแซก นี่เป็นวิธีการวิ่งหนีจระเข้ที่ดีที่สุด
แต่ถ้าบังเอิญคุณเห็นจระเข้ในขณะที่กำลังว่ายน้ำ อย่าทำน้ำกระจายหรืออย่าตะโกน เพราะนั่นจะเป็นการล่อพวกมันให้เข้ามา ให้พยายามว่ายน้ำหนีออกไปให้เงียบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
10. งู
งูส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและไม่มีพิษ แต่ถ้าคุณบังเอิญถูกงูพิษกัดล่ะ จะต้องทำอย่างไร
ถ้าคุณเจอพวกมันกำลังเลื้อยตามคุณมา ให้กระทืบเท้าดังๆ แรงสั่นสะเทือนจะทำให้พวกมันสับสนและหนีไป
และถ้าคุณถูกกัด อย่าพยายามดูดพิษออกเหมือนในละครบางเรื่อง เพราะนั่นจะทำให้ผู้ดูดพิษได้รับพิษเสียเอง และเชื้อโรคจากปากจะติดเข้าไปในแผล วิธีที่ดีที่สุดคือให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หาไม้ดามไว้หลวมๆ เพื่อไม่ให้อวัยวะส่วนนั้นไม่ขยับเขยื้อน และรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
11. กอริลลา
กอริลลาถูกเรียกว่าเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่า พวกมันมีความเป็นผู้นำที่รักในการปกป้องครอบครัวและอาณาเขตของพวกมัน และจะไม่ทำร้ายคุณหากคุณมีพฤติกรรมที่เป็นมิตร การนั่งลงไม่ทำให้ตัวคุณสูงกว่ากอริลลา การพูดด้วยเสียงเบาๆ และหลีกเลี่ยงการสบตาโดยตรงกับพวกมัน จะทำให้คุณดูเป็นมิตรขึ้น
ในกรณีที่คุณถูกทำร้าย ให้ห่อตัวเป็นลูกบอล กอริลลาเป็นสัตว์ที่มีความภาคภูมิใจในตนเองสูง และจะไม่ทำร้ายสัตว์ที่อ่อนแอและไม่สามารถป้องกันตัวได้
12. ผึ้ง
ผึ้งเป็นสัตว์ที่ปกป้องรังของพวกมัน และสามารถต่อยคุณได้ ถ้าหากไปเดินเฉียดใกล้รังของพวกมัน
สีเข้มจะดึงดูดผึ้ง การใส่เสื้อยืดสีดำ จะเพิ่มโอกาสในการถูกผึ้งต่อยได้มากกว่า และถ้าคุณถูกผึ้งไล่ต่อยมา ให้วิ่งหนีไปซ่อนในที่มืด ห้องที่มีแสงสว่างน้อยจะทำให้ผึ้งคลาดจากคุณไปได้
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ