ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่ใช่บราซิล แต่อัตราการเกิดอาชญากรรมก็มีมากมายเต็มไปหมด และเกิดขึ้นได้ทุกแห่ง โดยที่คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า จะมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดกับเราขึ้นได้ตอนไหนบ้าง แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณรู้จักวิธีเอาตัวรอดเอาไว้ เผื่อในสถานการณ์ฉุกเฉิน คุณอาจจำเป็นต้องใช้มัน และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปชมเคล็ดลับการเอาป้องกันตัวเองแบบง่ายๆ ที่ไม่แน่ว่า มันอาจจะช่วยชีวิตคุณได้ในสักวันหนึ่ง
1. วิธีกำหมัดที่ถูกต้อง
การป้องกันตัวแบบง่ายที่สุดโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ นั่นก็คือ “กำปั้น” ของตัวคุณเอง แต่มีน้อยคนนักที่จะกำหมัดตัวเองได้ถูกวิธีโดยเฉพาะผู้หญิง สิ่งสำคัญของการกำหมัดให้แน่น คือการที่นำนิ้วโป้งมารองไว้ใต้นิ้วอื่นๆ ไม่ใช่การนำนิ้วโป้งไปแนบไว้ด้านข้าง แล้วการออกหมัดของคุณจะหนักแน่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
2. วิธีการหนีจากการถูกมัดด้วยเชือก
สิ่งสำคัญคือคุณต้องทำให้มีช่องว่างระหว่างเชือกให้มากที่สุด ถ้าคุณกำลังถูกมัดข้อมือให้กำหมัดเอาไว้แน่นๆ ถ้าร่างกายคุณกำลังถูกมัด ให้หายใจเข้าเพื่อให้ร่างกายคุณขยายให้ได้มากที่สุด การทำเช่นนี้จะทำให้คุณมีช่องว่างเหลือเวลาที่คุณคลายการกำหมัดหรือผ่อนลมหายใจออก ซึ่งจะเพิ่มโอกาสหนีให้คุณได้มากขึ้นแน่นอน
3. วิธีการหนีจากการถูกมัดด้วยเทปกาว
ถ้าคุณถูกมัดด้วยเทปกาวที่แน่นหนา นั่นแสดงว่าคุณมีโอกาสหนีรอดได้มากกว่าเชือก เพียงคุณยกมือที่ถูกมัดทั้ง 2 ข้างขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นให้กระชากลงมาด้วยความเร็วและแรงที่สุด พร้อมกับฉีกออกไปด้านข้าง เทปก็จะขาดออกจากกันได้ หรือคุณจะใช้การนำส่วนของเทปที่รัดข้อมือไปถูกับขอบหรือสันตู้อะไรบางอย่างเพื่อทำให้เทปบางลงก่อนก็ได้
4. จดจำจุดอ่อนของร่างกาย
ถึงแม้คนร้ายจะเป็นผู้ชายร่างกายที่มีแรงมากกว่าคุณมหาศาล แต่มนุษย์ทุกคนล้วนมีจุดอ่อนเหมือนๆ กัน การจู่โจมเข้าที่จุดตายอย่างเช่น ดวงตา จมูก กระเดือก อวัยวะเพศ หัวเข่า และหน้าแข้ง ด้วยความเร็วและแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะช่วยให้คุณสามารถหนีจากสถานการณ์อันเลวร้ายตรงนั้นได้ และที่สำคัญคืออย่าลังเลที่จะทำจนคนร้ายรู้ตัวเด็ดขาด
5. ใช้แอพลิเคชั่นช่วย
ในโลกยุคใหม่นี้ มีแอพลิเคชั่นมากมายที่อาจช่วยให้คุณรอดจากสถานการณ์อันเลวร้าย เช่น Family Locator, bSafe และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยติดตามการเคลื่อนไหวของคุณ เพื่อนๆ ญาติๆ และสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงอย่าลืมตั้งเบอร์โทรออกฉุกเฉินเอาไว้ด้วย
6. คิดค้น “รหัสลับ”
รหัสลับของคุณไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อน การคิดคำ “เฉพาะ” ขึ้นมาสักคำเพื่อเอาไว้บอกคนใกล้ชิดว่าคุณตกอยู่อันตราย โดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัว เช่นการใช้รหัสคำว่า “ฉันโอเคดี” ซึ่งคุณอาจเตี๊ยมกับคนใกล้ชิดเอาไว้ว่า ถ้าพิมพ์แทนตัวเองคำว่า “ฉัน” เมื่อไหร่ แสดงว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย (ซึ่งการพูดคุยแบบปกติ จะไม่ได้แทนตัวเองว่า “ฉัน”) หรือแม้แต่การใช้รหัสลับที่สามารถระบุตำแหน่งที่คุณอยู่ได้
7. ใช้อุปกรณ์ใกล้มือ
สิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของคุณ อาจช่วยชีวิตคุณได้ในสถานการณ์อันตราย กระเป๋าสตางค์ของคุณอาจใช้เป็นโล่ป้องกันจากการถูกแทง ผ้าพันคอของคุณอาจใช้โยนใส่หน้าคนร้ายเพื่อถ่วงเวลาได้แม้เพียงไม่กี่วินาที ร่ม กระเป๋าถือ ก็อาจช่วยเพิ่มโอกาสเล็กน้อยให้คุณได้ และที่สำคัญ กุญแจ คืออุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการป้องกันตัว
8. เก็บสเปรย์พริกไทย ไว้ในที่ๆ ถูกต้อง
ถ้าคุณมีสเปรย์พริกไทย คุณอาจเก็บมันไว้ในกระเป๋าถือ แต่ลองนึกดูว่า ในสถานการณ์อันเลวร้าย กว่าที่คุณจะหยิบสเปรย์พริกไทยในกระเป๋าถือผู้หญิงที่เต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย ผู้ร้ายก็ถึงตัวคุณก่อนแล้ว แน่นอนว่าคุณไม่ได้มีเวลามากมายเหมือนกับผู้ร้ายให้เวลาเซเลอร์มูนแปลงร่าง ดังนั้นควรเก็บสิ่งของป้องกันตัวเอาไว้ในจุดที่หยิบง่ายต่อการใช้งานที่สุดจะดีกว่า
9. ถ้าคุณถูกคว้าข้อมือ
ผู้ร้ายส่วนใหญ่เวลาเข้าถึงตัวคุณ จะต้องคว้าข้อมือคุณเป็นอันดับแรก แต่คุณสามารถหลบหนีจากการคว้าข้อมือได้ด้วยการใช้ “กฏของหัวแม่มือ” จำง่ายๆ ก็คือให้บิดข้อมือของตัวเองออกไปทางตำแหน่งที่นิ้วหัวแม่มือของคุณอยู่ โปรดจำไว้ว่าควรทำด้วยความรวดเร็วและกระชากแขนตัวเองออกมา หลังจากนั้นคนร้ายอาจจะพยายามใช้กำลังทั้งหมดที่เขามีกระชากแขนคุณกลับ ให้ใช้เท้าของคุณยันเข้าที่หัวเข่าอย่างแรง และกระทืบเท้าของเขาถ้ามีโอกาสทำได้
10. ถ้าคุณถูกกระชากผม
อีกหนึ่งวิธีที่ผู้หญิงมักโดนกันบ่อยคือการถูกกระชากผม สิ่งที่คุณพอจะทำได้ในกรณีนี้คือการรวบรวมพลังทั้งหมด ใช้มือทั้ง 2 ข้างจับเข้าที่แขนของคนร้าย และหาโอกาสใช้เท้าของคุณกระทืบลงไปที่เท้าของคนร้ายให้แรงที่สุด ทันทีที่มือของคนร้ายหลุดจากผมก็ให้รีบวิ่งหนีและตะโกนขอความช่วยเหลือ
11. ถ้าคุณถูกบีบคอ
ในกรณีที่คนร้ายพุ่งเข้ามาจู่โจมคุณด้วยการบีบคอ ให้ใช้นิ้วมือของคุณทิ่งลงไปที่ดวงตาให้แรงที่สุด ความเจ็บปวดจะทำให้คนร้ายต้องปล่อยมือจากคอของคุณ จากนั้นให้รีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุด
12. สถานการณ์ในลิฟต์
ในสถานการณ์ที่น่าสงสัย คุณไม่ควรขึ้นลิฟต์ไปกับคนแปลกหน้าสองต่อสอง ถ้าเป็นไปได้คุณควรขึ้นลิฟต์ไปก่อนคนแปลกหน้า ก่อนที่เขาจะเข้ามา หรือถ้าคุณอยู่ในลิฟต์อยู่แล้ว อย่าหันหลังให้คนอื่นเด็ดขาด คุณควรยืนหลังชิดกำแพงฝั่งที่คุณสามารถกดลิฟต์ได้
13. สถานการณ์ในรถยนต์
การป้องกันตัวในขณะที่คุณอยู่บนรถกับคนร้ายเป็นไปได้ยากมาก กฏง่ายๆ คืออย่าขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก การเตรียมพร้อมด้วยการบันทึกเบอร์โทรฉุกเฉิน การแจ้งรายละเอียดรถที่เราขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเลขทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น สีรถ ให้กับคนที่คุณรู้จัก และบอกว่าคุณกำลังจะไปไหนทุกครั้ง เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และหากมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ให้พุ่งเป้าไปยังจุดตายตามที่บอกได้เลย
14. เรียนรู้การปฐมพยายาลเบื้องต้น
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในเวลาเกิดสถานการณ์เลวร้ายบางอย่างเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างเช่นตามข่าวที่เราเห็นว่า การทำ CPR สามารถช่วยชีวิตคนได้ เนื่องจากบางครั้งกว่าที่รถพยาบาลจะมาถึง ก็อาจสายไปแล้วก็เป็นได้
สิ่งที่ควรและไม่ควรทำอื่นๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
• ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ การใส่หูฟังเพื่อฟังเพลงดังๆ จนไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง การมองจอสมาร์ทโฟนตลอดเวลา หรือการเดินมองต่ำไปที่พื้นโดยไม่สนใจใคร ถือเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงอันตรายอย่างมาก
• รักษาระยะห่าง การรักษาระยะห่างกับคนแปลกหน้าในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก อย่าไว้ใจใครโดยเฉพาะคนแปลกหน้าที่จู่ๆ มาทำความสนิทสนมกับคุณเกินเหตุ
• วิ่งหนี การรักษาชีวิตรอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การเสียดายทรัพย์สินหลายครั้งทำให้คนเราเสียชีวิตมามากมายนับไม่ถ้วน คุณไม่จำเป็นต้องเป็นฮีโร่เสมอไป
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชมายา