คุณเคยคิดกันเล่นๆ หรือไม่ว่า ถ้าโลกของเราใบนี้ไม่มีพระจันทร์ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับโลกใบนี้บ้าง ? คำตอบแบบบ้านๆ ก็คือ เราจะขาดความสวยงามยามค่ำคืนไปนั่นเอง แต่ถ้าอ้างอิงจากเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ล่ะก็ จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นบนโลก มากมายยิ่งกว่าที่เราจะคาดถึงได้จริงๆ
1. กระแสน้ำจะอ่อนกำลังลงอย่างมาก
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อกระแสน้ำขึ้นน้ำลงเนื่องจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ ดังนั้นการที่โลกไม่มีพระจันทร์ แรงดึงดูดของกระแสน้ำจะไปขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์แทน และด้วยความที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากโลกมาก จึงทำให้กระแสน้ำที่เกิดจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวจะอ่อนกำลังลงเหลือเพียง 40% เท่านั้น เมื่อเทียบกับกระแสนน้ำแบบเดิมที่ขึ้นอยู่กับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์รวมกัน
2. โลกอาจแกว่งตัวอย่างรุนแรง
ดวงจันทร์อยู่บนฟากฟ้าเรามานานหลายล้านปี โดยแรงดึงดูดของดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก มันทำหน้าที่เป็นเหมือนสมอเรือที่ถ่วงแกนโลกให้เอียงอยู่ในระดับ 23.5 องศา แต่ถ้าดวงจันทร์หายไป แกนโลกจะเปลี่ยนแปลงจนเกิดการแกว่งตัวครั้งใหญ่ และนั่นส่งผลให้ฤดูกาลบนโลกนี้จะมั่วไปหมด จนสิ่งมีชีวิตบนโลกจำนวนมากไม่อาจอยู่รอดได้ และเราต้องรับสภาพเช่นนี้ไปอีกนานหลายหมื่นปีเลยทีเดียว
3. ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมืดสนิท
เมื่อไม่มีดวงจันทร์ ก็ไม่มีแสงจันทร์ ซึ่งนั่นหมายความว่าท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมืดกว่าเดิมมาก บนท้องฟ้าจะไม่มีอะไรเหลือพอให้ส่องสว่างได้อีกเลย ตัวอย่างเช่น ดาวศุกร์จะกลายเป็นดาวที่ส่องสว่างที่สุดแทน แต่มันมีความสว่างน้อยกว่าดวงจันทร์ถึง 14,000 เท่า เมื่อเทียบกับพระจันทร์เต็มดวง
4. เมื่อกระแสน้ำไปขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์
นี่อาจเป็นข่าวดีของชาวประมงทั่วโลก เพราะเมื่อไม่มีดวงจันทร์ กระแสน้ำจะไปขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์แทน นั่นหมายความว่า ช่วงเวลาน้ำขึ้นจะอยู่ในเวลาเที่ยงวัน ทุกแห่ง ทุกที่ ทั่วโลก ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องงงกับกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่แตกต่างกันและซับซ้อนวุ่นวายอีกต่อไป
5. โลกจะหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม
ถ้าดวงจันทร์หายไป โลกจะขาด “ความเสียดทานไทดัล” (Tidal Friction) โดยส่งผลให้โลกหมุนรอบตัวเองเร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากอะไร การที่โลกหมุนเร็วขึ้นนี้จะส่งผลแค่ ความยาวของ “วัน” จะเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่มิลลิวินาทีต่อปีเท่านั้น แต่ถ้าเกิดโลกเราไม่ได้มีดวงจันทร์มาตั้งแต่แรก โลกที่หมุนเร็วขึ้นมานานหลายล้านปี จะส่งผลให้ตอนนี้เรามี 30 ชั่วโมงต่อวันนั่นเอง ส่วนผลกระทบอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น กระแสลมจะพัดได้เร็วขึ้น ส่งผลให้พายุรุนแรงขึ้นอีกด้วย
6. ดวงจันทร์ระเบิด อาจฆ่าเราทุกคนให้ตายได้หมด
ถึงแม้มันจะมีโอกาสเป็นไปได้ยากพอๆ กับการะเบิดโลก แต่ถ้าสมมุติมีเหตุปัจจัยบางอย่างมาทำให้ดวงจันทร์ระเบิดล่ะก็ เศษซากจากดวงจันทร์จะคงอยู่นานนับพันๆ ปี และมันจะกลายเป็นฝนเพลิงที่กระหน่ำลงมาบนโลก กวาดล้างสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่อยู่บนผิวโลกจนหมดสิ้น
7. จะไม่มีจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคาอีกต่อไป
เรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้วว่าการไม่มีดวงจันทร์ก็จะไม่มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้ง 2 อย่างนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ความตื่นเต้นจะไปตกอยู่ที่ “ดาวศุกร์” ที่อยู่ใกล้โลกของเราดวงถัดไปแทน โดยภาพที่เห็นด้านบนนี้คือการเกิด Venus Eclipse ในปี 2012 ที่ผ่านมา ซึ่งชื่อไทยไม่มีคำเรียกเก๋ๆ แบบ “ศุกริยุปราคา” อะไรแบบนี้ แต่ถ้าหากคุณใช้ Google ค้นหา ก็จะเจอเพียงคำว่า “ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์” เรียกกันทื่อๆ ไปเลยนั่นเอง ส่วนการเกิด ศุกริยุปราคา (ตั้งเองตามแบบเพชรมายา) จะเกิดครั้งต่อไปก็คือปี 2117 ซึ่งไม่มีใครอยู่ถึงแน่นอน
8. จะมีสัตว์ตาโปนมากขึ้น
ท้องฟ้าที่มืดมิด จะทำให้เกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่มี “ดวงตาโปน” มากขึ้นกว่าเดิม อ้างอิงจากนักดาราศาสตร์ นีล โคมินส์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า สัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืนจะต้องพัฒนาดวงตาของพวกมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประสาทสัมผัสที่ดีขึ้น เพื่อช่วยในนำทาง หาอาหาร และสืบพันธุ์ ในเวลากลางคืน ซึ่งภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิดไร้พระจันทร์ สัตว์เหล่านี้จะถูกบังคับให้ปรับตัวจนอาจมีสัตว์ที่สามารถมองเห็นกลางคืนได้ชัดเจนในอนาคต
9. ระดับน้ำทะเลจะเปลี่ยนไป
เมื่อไม่มีแรงดึงดูดจากดวงจันทร์ ใจกลางโลกจะอ่อนกำลังลง จนทำให้น้ำทะเลที่กระจุกกันอยู่ระดับสูงใกล้บริเวณเส้นศูนย์สูตรจะกระจัดกระจายไปยังขั้วโลก นั่นหมายความว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเปลี่ยนไป และนั่นอาจส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เราไม่อาจคาดเดาได้
10. เราจะเรียนรู้ดาวเคราะห์น้อยได้ยากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ดวงจันทร์คือสถานที่ๆ ดีที่สุดสำหรับการศึกษาดาวเคราะห์น้อย การสูญเสียดวงจันทร์ก็เหมือนการสูญเสียห้องปฏิบัติการณ์ที่ใช้สำหรับศึกษาดวงดาวในอวกาศไป
11. การสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำจะเปลี่ยนไป
การไม่มีดวงจันทร์ ทำให้ช่วงจังหวะเวลาการสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำหลายชนิด ที่ต้องอาศัยแสงจากดวงจันทร์ที่มากระทบกับผิวน้ำต้องเปลี่ยนไป จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สัตว์มีชีวิตหลายชนิดที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกมันต่อโลกที่ไม่มีดวงจันทร์ ตัวอย่างเช่น ปลากรูเนียน ที่จะวางไข่หลังจากพระจันทร์เต็มดวงเพียง 2-3 วันเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า พฤติกรรมเหล่านี้เชื่อมโยงกับดวงจันทร์อย่างชัดเจน
ประจำเดือนยังคงเหมือนเดิม
มีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับประจำเดือนของผู้หญิงสัมพันธ์กับการโคจรของดวงจันทร์ ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์เองยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งบอกว่าทั้ง 2 สิ่งนี้เชื่อมโยงกัน รวมถึงการคลอดลูก การเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : ranker | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
