ภายใต้มหาสมุทรที่ลึกลงไปหลายพันเมตร มันคือโลกที่มืดมิดและเต็มไปด้วยสิ่งที่คุณไม่รู้จัก คุณจะสามารถพบ “ปล่องแบบน้ำร้อน” หรือ “ปล่องไฮโดรเทอร์มอล” ที่เป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน มันคือรอยแยกบนเปลือกผิวโลกที่มีน้ำร้อนพวยพุ่งออกมา และทำให้เกิดสารเคมีที่จำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดนี้
เจฟฟรีย์ ดิก และ เอเวอร์เร็ตต์ ช็อก สองนักธรณีวิทยาชีวภาพได้พิจารณาแล้ว่า สภาพแวดล้อมใต้ท้องทะเลบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งยังมีสิ่งมีชีวิตบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้บริเวณก้นมหาสมุทรที่มืดมิด และนั่นอาจไม่ได้หมายถึงโลกมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่อาจหมายรวมถึงทั่วทั้งระบบสุริยะของเราอีกด้วย
ในขณะที่สิ่งมีชีวิตบนบกจะมีเงื่อนไขการดำรงอยู่ที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบริเวณก้นทะเลอย่างสิ้นเชิง บนบกในบรรยากาศที่อุดมไปด้วยออกซิเจน เราจะคุ้นเคยกับการทำให้โมเลกุลของสิ่งมีชีวิตต้องใช้พลังงาน
ในทางตรงกันข้าม บริเวณรอบปล่องไฮโดรเทอร์มอลบนพื้นทะเล ของเหลวร้อนจัดจะผสมกับน้ำทะเลที่เย็นจัดเพื่อสร้างสภาวะที่ทำให้โมเลกุลของสิ่งมีชีวิตต้องปลดปล่อยพลังงานออกมา และพวกเขาพบว่าสิ่งมีชีวิตในบริเวณนี้จะเติบโตได้รวดเร็วที่สุดภายใต้อุณหภูมิที่สูงถึง 85 องศาเซลเซียส
ปล่องไฮโดรเทอร์มอล Sea Cliff บริเวณเขตแดนใต้น้ำของแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกและกอร์ดา ที่ลึกลงไปราว 8,800 ฟุต
นี่คือหนอนท่อไซบ็อกลินิดีกำลังหากินอยู่ที่ฐานของแบลคสโมกเกอร์แห่งหนึ่ง พวกมันมีบทบาทสำคัญต่อชุมชนสิ่งมีชีวิตบริเวณปล่องไฮโดรเทอร์มอลเป็นอย่างมาก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ สิ่งมีชีวิตในบริเวณเขตปล่องไฮโดรเทอร์มอลกลับมีความหนาแน่นของสิ่งมีชีวิตระหว่าง 10,000 ถึง 100,000 เท่า ซึ่งเติบโตได้จากสารอาหารที่มาจากการสะสมตัวทางเคมีเท่านั้น ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานขั้นพื้นฐานของพวกมันที่แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก
“ในขณะที่เราสำรวจพื้นที่ใต้สมุทร เราได้รับการเตือนอยู่เสมอว่า เราไม่ควรยึดติดว่าที่ที่เราอาศัยอยู่ เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต” เอเวอร์เร็ตต์ ช็อกกล่าว นั่นหมายความว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นที่เราไม่รู้จักอาศัยอยู่บริเวณนี้อีกมาก
และถ้าหากจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวดวงอื่นที่ไม่ใช่โลกของเรา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าบนดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดีอาจมีปล่องไฮโดรเทอร์มอลซ่อนอยู่ และอาจมีสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แตกต่างจากปล่องไฮโดรเทอร์มอลบนโลกของเราก็เป็นได้
ที่มา : scitechdaily | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
