หนึ่งในภาพยนตร์ที่หลายคนจับตามากที่สุดในต้นปีนี้นั่นคือ Moonfall ที่เป็นเรื่องราวของการพบเจอบางสิ่งลึกลับบนดวงจันทร์ จนส่งผลให้เกิดสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราไม่อาจคาดเดาได้ และที่สำคัญคือการร่วงหล่นของดวงจันทร์ที่ถูกดึงดูดเข้ามายังโลกมนุษย์ แต่คุณเคยคิดเล่น ๆ หรือไม่ว่า ถ้าดวงจันทร์ตกลงมายังโลกมนุษย์จริง จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
แน่นอนว่ามีคำถามมากมายเต็มไปหมด โดยเฉพาะมนุษย์เราจะรอดจากวิกฤตนี้ได้มากน้อยแค่ไหน หรือแม้แต่โลกจะสูญสลายไปหรือเปล่า
ข้อมูลของดวงจันทร์
ก่อนอื่นเรามาดูข้อมูลของดวงจันทร์กันก่อนว่า มันคือดาวเคราะห์ที่เป็นบริวารของโลกที่ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีก่อน หรือประมาณ 30 ถึง 50 ล้านปี หลังจากการก่อตัวของระบบสุริยะ
ดวงจันทร์มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3,475 กิโลเมตร มีมวลประมาณ 0.01 ของมวลโลก มีขนาดประมาณ 1 ใน 4 ของรัศมีโลก พื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของดวงจันทร์มีอุณหภูมิต่างกันมาก ซึ่งอาจหนาวเย็นได้ถึง -173 องศาเซลเซียส หรือร้อนถึง 127 องศาเซลเซียส
ชั้่นบรรยากาศของดวงจันทร์ก็เบาบางมากเช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสิ่งต่าง ๆ ที่มนุษย์อวกาศทิ้งไว้บนพื้นผิวของดวงจันทร์ถึงยังคงสภาพอยู่แบบนั้น
โดยปกติแล้วดวงจันทร์จะอยู่ห่างจากโลกประมาณ 384,400 กิโลเมตร พื้นผิวของดวงจันทร์เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตเพราะโดนทั้งดาวหางและดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน โดยหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ที่กว้างกว่า 1 กิโลเมตรมีมากกว่า 300,000 หลุมด้วยกัน
ดวงจันทร์คือสถานที่ในอวกาศแห่งเดียวที่มนุษย์เหยียบย่างไปได้ แรงดึงดูดของดวงจันทร์ทำให้เกิดกระแสน้ำบนโลก กระแสน้ำที่ส่งผลต่อทุกชีวิตในมหาสมุทร ทำให้สภาพอากาศของเราค่อนข้างคงที่ สรุปง่าย ๆ ก็คือดวงจันทร์ทำให้โลกน่าอยู่และสมดุลมากยิ่งขึ้น
แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าดวงจันทร์พุ่งชนโลก
ถ้าดวงจันทร์เริ่มเคลื่อนที่เข้าหาโลกจนถึง ‘ขีดจำกัดโรช’ (Roche Limit) มันจะเริ่มแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที
แต่เดี๋ยวก่อน! ขีดจำกัดโรชคืออะไร
ดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่เป็นบริวารของโลก โคจรไปรอบโลกเรื่อย ๆ เนื่องจากมันอยู่ใน ‘ระยะที่พอดี’ กับโลกของเรา
ด้วยอิทธิพลแรงดึงดูดของโลก หากมันอยู่ห่างจากโลกเกินไป ดวงจันทร์จะหลุดลอยไปในอวกาศ ในทางกลับกันถ้ามันเข้ามาใกล้จนเกินไปก็จะถูกแรงดึงดูดของโลกดึงเข้ามาหาได้เช่นกัน
แต่วัตถุใดก็ตามหากถูกดึงดูดเข้ามาใกล้โลกจนถึงระยะที่เรียกว่า ‘ขีดจำกัดโรช’ ที่ห่างจากโลกประมาณ 18,870 กิโลเมตร แรงโน้มถ่วงของโลกเราก็จะฉีกกระชากวัตถุนั้นจนแตกละเอียด
ดวงจันทร์เองก็เช่นกัน ดวงจันทร์ไม่มีวันจะตกลงบนโลกเราทั้งดวงได้ แต่มันจะถูกฉีกกระชากจนแตกละเอียดเมื่อเข้ามาในขีดจำกัดโรช ทุกอย่างที่เราทิ้งไว้บนดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้า ธง ลูกกอล์ฟ ภาพถ่ายครอบครัวของนักบินอวกาศ รวมไปถึงหลุมอุกกาบาตและหุบเขาจะกระจัดกระจายจนกลายเป็นเศษซากวงแหวนลอยอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 37,000 กิโลเมตร
ไม่ใช่แค่ดาวเสาร์ แต่โลกก็มีวงแหวนเช่นกัน
เหตุการณ์นี้จะทำให้โลกกลายเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 2 ในระบบสุริยะที่มีวงแหวนโดดเด่นจนเห็นได้ชัดเจน ความแตกต่างก็คือวงแหวนของเราจะอยู่ได้ไม่นาน ชิ้นส่วนของวงแหวนเหล่านี้จะตกลงมาบนโลก ชิ้นที่เล็กจะร่วงหล่นมาก่อนที่ชิ้นใหญ่จะตกลงมาภายหลัง
ราวกับดาวเคราะห์น้อยหลายแสนดวงที่ร่วงหล่นลงมาบนพื้นผิวโลกและกวาดล้างเมืองทั้งหมดบนโลก แต่จริง ๆ แล้วปัญหาของมนุษย์ไม่ได้เริ่มขึ้นตอนนี้ แต่มันจะเกิดก่อนหน้านั้นพอสมควร เพราะเมื่อดวงจันทร์เริ่มเคลื่อนที่เข้าสู่โลก ผลกระทบที่มีต่อกระแสน้ำก็รุนแรงจนเราไม่อาจจินตนาการได้
เมื่อดวงจันทร์เดินทางมาถึงขีดจำกัดโรช ก็จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ที่สูงถึง 7,600 เมตร หรือประมาณ 30,000 ฟุต ซึ่งโลกของเราก็จะถูกกวาดล้างไปด้วยสึนามิ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจบ แต่มันจะเกิดขึ้นมากถึง 10 ครั้งต่อวัน
คลื่นลูกยักษ์จะเผยให้เห็นก้นมหาสมุทรและทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า นี่อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาโลกร้อน เมื่อดวงจันทร์เข้ามาใกล้ การหมุนของโลกก็จะเร็วขึ้น วันเวลาของโลกก็จะสั้นลงเรื่อย ๆ
อุณหภูมิโลกจะลดลง แต่คงไม่มีใครต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกต่อไป หลังจากเกิดทั้งคลื่นยักษ์สึนามิและอุกกาบาตนับแสนถล่มโลกจนหมดสิ้น
ในขณะที่อุกกาบาตที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธ์ไปจากโลกเมื่อ 66 ล้านปีก่อนมีความกว้างแค่เพียง 10-15 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนดวงจันทร์มีความกว้างถึง 3,475 กิโลเมตร คงไม่ต้องสงสัยว่าจะเกิดอะไรกับมวลมนุษยชาติและทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้บ้าง
สิ่งสุดท้ายที่เราควรรู้ก็คือ ดวงจันทร์กำลังเคลื่อนที่ห่างจากโลกเราประมาณ 4 ซม.ต่อปี ดังนั้นมนุษย์เราจึงแทบไม่มีโอกาสได้เห็นวงแหวนปรากฎบนโลกของเราดวงนี้ ยกเว้นแต่มีปรากฎการณ์บางอย่างเกิดขึ้นอย่างที่มนุษย์เราคาดไม่ถึงมาก่อน
ที่มา: insh.world | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
