เชื่อว่าทุกคนคงเคยคิดและสงสัยมาโดยตลอดว่า หน้าตาของเราเปลี่ยนไปจากเดิมหลังจากที่เพิ่งตื่นนอนจริงหรือเปล่า ทำไมหน้าตาของเราถึงดูแตกต่างจากตอนเข้านอนอย่างมาก มันเป็นเพียงการคิดเองเออเองหรือว่ามันคือเรื่องจริงกันแน่
หลายคนอาจสังเกตได้ว่าดวงตาและใบหน้าของเราจะดูบวมขึ้น ผิวของเราก็เต็มไปด้วยริ้วรอย และถึงแม้ว่าคุณจะนอนเต็มอิ่มมาทั้งคืน แต่คุณก็ยังดูมีสีหน้าอ่อนล้าอย่างน่าประหลาด
ใบหน้าเราเปลี่ยนไปจริงหรือไม่ และทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับเรากันแน่
คำตอบเบื้องต้นก็คือ มีปัจจัยมากมายตั้งแต่ภาวะขาดน้ำจนไปถึงพฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์ที่แย่ ๆ และแม้แต่ท่านอนของคุณก็ส่งผลต่อช่วงเวลาที่คุณตื่นนอนได้เช่นกัน
อ้างอิงจากนิตยสารการแพทย์ Medical News Today ระบุว่า เมื่อคุณเอนกายนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืน บริเวณรอบและข้างในศีรษะของคุณจะเกิดการสะสมของเหลวมากกว่าการนอนในเวลากลางวัน
สิ่งนี้จะทำให้เกิดผลที่รุนแรงยิ่งขึ้นหากคุณนอนหลับมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
โชคดีที่เวลาคุณตื่นนอนและลุกขึ้นยืน ของเหลวส่วนเกินเหล่านี้จะไหลออกไป และใบหน้าของคุณจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ดร.พูร์วิชา พาเทล แพทย์ผิวหนังชื่อดังผู้ก่อตั้ง Purvisha Skincare ระบุว่า ท่านอนของคุณเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้คุณตื่นมาพร้อมกับอาการหน้าบวม โดยเฉพาะการนอนคว่ำหน้า จะยิ่งส่งผลเสียต่อผิวของคุณที่จะเปลี่ยนไปเวลาตื่นนอน
เธอกล่าวว่า “แรงโน้มถ่วงคือผู้ชนะ เมื่อเรานอนคว่ำหน้าลง”
เธออธิบายว่า น้ำเหลืองในร่างกายของคุณจะไหลลงเมื่อคุณนอนหลับ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาถุงใต้และใบหน้าที่บวมได้
เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ ดร.พาเทลแนะนำให้คุณนอนหงายหรือพยายามยกหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยการนอนบนหมอน
นอกจากนั้นพฤติกรรมการใช้ชีวิตและบริโภคอาหารก็สามารถส่งผลเสียต่อผิวพรรณของคุณได้เช่นกัน เช่น การดื่มแอลกอฮอล์มาก, การสูบบุหรี่, การนอนไม่เป็นเวลา การสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป หรือการไม่ออกกำลังกาย
สาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ เช่น อาการแพ้ การร้องไห้ก่อนนอน และการนอนหลับไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ทำให้ร่างกายของคุณไม่ได้พักผ่อน และไม่มีเวลาซ่อมแซมตัวเองในตอนกลางคืน และอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ การไหลเวียนโลหิตที่ลดลงหรือการสร้างความเสียหายให้กับผิว
เมื่อรู้ดังนี้แล้ว คุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน การกิน และการใช้ชีวิต เพื่อที่จะทำให้ใบหน้าของคุณไม่บวมตอนตื่นเช้าอีกต่อไป
ที่มา : ladbible | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
