เรื่องราวลึกลับของชายคนหนึ่งที่ถูกพบนอนเสียชีวิตบนหาดในออสเตรเลีย กำลังจะถูกไขได้หลังจากเป็นปริศนามานานกว่า 70 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1948 มีรายงานการพบผู้เสียชีวิตบนชายหาดซัมเมอร์ตันปาร์ก บนร่างกายของเขามีบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุด 1 ซองที่เหน็บอยู่บริเวณปกเสื้อโค้ต
เขาแต่งตัวในชุดสูทและผูกเนกไท มีอายุอยู่ในช่วง 40 หรือ 50 ปี แต่ไม่มีกระเป๋าสตางค์หรือบัตรประจำตัวที่บ่งบอกว่าเขาเป็นใคร
ส่วนในกระเป๋าเสื้อโค้ตของเขามีทั้งบุหรี่ หมากฝรั่ง หวี ตั๋วรถประจำทาง และตั๋วรถไฟที่ยังไม่ได้ถูกเดินทาง ทั้งหมดล้วนเป็นของที่เขาพกติดตัวเอาไว้
แต่สิ่งที่สร้างความงุนงงให้กับเจ้าหน้าที่ก็คือเศษกระดาษที่ถูกฉีกจากหนังสือบทกวีของเปอร์เซียที่หายากชื่อว่า Rubaiyat of Omar Khayyam โดยในเศษกระดาษนั้นเป็นข้อความที่เขียนเป็นภาษาฟาร์ซีว่า Tamám Shud ที่แปลว่า “เสร็จสิ้น” ซึ่งภาษาฟาร์ซีคือภาษาเปอร์เซีย เป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้กันในอิหร่าน รวมถึงชาวอัฟกานิสถานและเอเชียใต้
ตำรวจพยายามหาหน้าหนังสือที่ถูกฉีกขาด และพวกเขาก็พบว่ามีร่องรอยตัวหนังสือที่ถูกเขียนอยู่บนด้านหลังของหนังสือ มันดูราวกับรหัสอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจ
ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการคาดเดาไปว่าชายลึกลับผู้นี้อาจเป็นสายลับจากที่ไหนสักแห่ง และเขาถูกตั้งชื่อว่า “ซัมเมอร์ตันแมน”
แต่สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้น บนหนังสือดังกล่าวมีหมายเลขโทรศัพท์ของใครบางคนปรากฎอยู่ เมื่อนำไปตรวจสอบก็พบว่ามันเป็นของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณนั้น เธอมีชื่อว่า เจสสิกา เอลเลน ‘โจ’ ทอมสัน โดยเธอไม่รู้ว่าทำไมเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองถึงไปอยู่ในหนังสือเล่มนั้นได้ และเธอก็ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนอีกด้วย
ต่อมาไม่นาน ตำรวจกลับมาพร้อมรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ครึ่งตัวของซัมเมอร์ตันแมน เมื่อเจสสิกาเห็นก็ตกใจจนแทบสิ้นสติ เธอปฏิเสธที่จะดูมันอีกครั้งและกล่าวว่า เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าชายคนนี้คือใคร
คดีของซัมเมอร์ตันแมนกลายเป็นหนึ่งในคดีที่เป็นปริศนาที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ มีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา รวมถึงมีทฤษฎีสมคบคิดอีกมากมาย แต่ก็ยังไม่มีใครที่สามารถไขปริศนาได้ว่าเขาคือใคร และรหัสบนแผ่นกระดาษมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่
จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาสตราจารย์ เดเร็ก แอบบอต์ จากมหาวิทยาลัยแอดิเลดเชื่อว่า เขากับทีมงานสามารถไขปริศนาของคดีนี้ได้แล้ว
ตามรายงานของ Australian Broadcasting Company ระบุว่า ความก้าวหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการวิเคราะห์ DNA ของชายลึกลับผ่านเส้นขนบางเส้นที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในแบบจำลองปูนปลาสเตอร์ที่ประกอบขึ้นจากใบหน้าของเขา
ศจ.เดเร็กได้ทำงานร่วมกับ คอลลีน ฟิตซ์แพทริก ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช จนทำให้เขาตัดผู้ต้องสงสัยที่เป็นไปได้จากทั้งหมด 4,000 คน ให้เหลือเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
ศจ.เดเร็กเชื่อว่า ชายปริศนารายนี้คือ คาร์ล เว็บบ์ วิศวกรชาวออสเตรเลียวัย 43 ปี
การสืบสวนได้รับความช่วยเหลือจากญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ของ คาร์ล เว็บบ์ เพื่อยืนยันข้อสงสัยในตัวตนของชายปริศนา และศจ.เดเร็กคิดว่า เขารู้สาเหตุว่าทำไมคาร์ลถึงอยู่ที่นั่นในช่วงเวลานั้น
ศจ.เดเร็กอธิบายว่า คาร์ล เว็บบ์ แยกทางกับ โดโรธี โรเบิร์ตสัน ภรรยาของเขา ซึ่งทำให้เขาอยู่ในเมืองแอดิเลดเพื่อตามหาเธอ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเซาท์ออสเตรเลียกล่าวว่า พวกเขาไม่สามารถยืนยันได้ว่าซัมเมอร์ตันแมนคือ คาร์ล เว็บบ์ จริงหรือไม่ แต่พวกเขารู้สึกมีความหวังที่จะไขคดีนี้อีกครั้ง
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่า “ตำรวจเซาท์ออสเตรเลียยังคงสืบสวนเรื่องของซัมเมอร์ตันแมนอย่างเต็มที่ พวกเรารู้สึกยินดีกับความก้าวหน้าล่าสุด และมองโลกในแง่ดีว่าเราอาจไขคดีนี้ได้ในไม่ช้า”
แม้ว่าคดีดังกล่าวจะยังไม่ถูกปิด แต่อย่างน้อยการค้นพบ DNA ของเขาอาจเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้หนึ่งในปริศนาที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้กำลังกระจ่างขึ้นเรื่อย ๆ
เหลือเพียงแค่ปริศนาที่ใหญ่กว่านั้นก็คือ คำในภาษาฟาร์ซีและรหัสโน๊ตแปลก ๆ ที่ติดตัวเขาอยู่มันมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่
ที่มา: ladbible | ladbible | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
