Hashem Al-Ghaili นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ได้เปิดตัว EctoLife แนวคิดเรื่องศูนย์ครรภ์เทียมที่สามารถบ่มเพาะและเลี้ยงดูทารกให้เติบโตในห้องปฏิบัติการได้ถึง 30,000 คนต่อปี
แน่นอนว่าศูนย์ดังกล่าวจะช่วยให้คู่สมรสที่มีบุตรยาก ผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ หรือแม้แต่ผู้หญิงที่ผ่าตัดเอามดลูกออกไปเนื่องจากมะเร็งก็จะกลับมามีลูกได้อีกครั้ง ซึ่งมันยังช่วยแก้ปัญหาการลดลงของประชากรในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น บัลแกเรีย และเกาหลีใต้
ศูนย์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียนแห่งนี้ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการล้ำสมัยที่มีอุปกรณ์ครบครัน 75 ห้อง แต่ละห้องสามารถรองรับ ‘พ็อด’ สำหรับการเจริญเติบโต หรือ ‘มดลูกเทียม’ ได้มากถึง 400 อัน
พ็อดทุกอันได้รับการออกแบบให้จำลองสภาวะที่เหมาะสมภายในครรภ์มารดา โดยมีเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพที่สร้างสารละลายของเหลวที่ทำหน้าที่เป็นน้ำคร่ำที่อยู่รอบ ๆ ทารกในครรภ์ โดยอุดมไปโดยฮอร์โมนที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กทารก
อีกทั้งภายในพ็อดยังปราศจากการติดเชื้อเนื่องจากพ็อดถูกทำมาจากวัสดุที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเกาะบนพื้นผิวของมัน
ส่วนภายในพ็อดยังมีเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับสัญญาณชีพจรของลูกน้อย อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิร่างกาย ความดันโลหิต อัตราการหายใจ และความอิ่มตัวของออกซิเจน
ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ทำให้ทารกแต่ละคนได้รับสารอาหารผ่านสายสะดือเทียมที่ปรับให้เหมาะสมกับทารกแต่ละคน อีกทั้งยังถูกใช้เพื่อตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของทารกและรายงานความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
ซึ่งคุณจะทราบได้ทันทีว่าลูกน้อยของคุณกำลังจะเป็นอะไรตั้งแต่อยู่ในครรภ์จำลองนี้ โดยข้อมูลทุกอย่างจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถติดตามสุขภาพของลูกน้อยได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนั้นคุณยังได้เห็นพัฒนาการของลูกคุณผ่านกล้อง 360 องศาความละเอียดสูง และมีลำโพงที่ช่วยเล่นคำศัพท์และเสียงดนตรีที่หลากหลายให้กับลูกน้อย มันอาจเป็นเพลย์ลิสต์ที่คุณเลือก หรือเสียงของคุณเองเพื่อการเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
จริง ๆ แล้ว ก่อนที่ลูกน้อยของคุณจะเติบโตในพ็อดของ EctoLife พวกเขาสามารถดัดแปลงพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนฝังลงในครรภ์เทียมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งสีตา สีผม สีผิว ความแข็งแรงทางร่างกาย ความสูง และระดับสติปัญญาของทารก รวมถึงช่วยแก้ไขโรคทางพันธุกรรมที่ติดอยู่ในประวัติครอบครัวของคุณ
สุดท้ายเมื่อลูกของคุณพร้อม ก็แค่กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวเพื่อขับน้ำคร่ำออกจากพ็อดโดยที่ผู้เป็นแม่ไม่ต้องทนความเจ็บปวดจากการคลอดอีกต่อไป
สุดท้าย พ็อดของลูกน้อยคุณไม่จำเป็นต้องอยู่ในศูนย์เสมอไป เพราะพ็อดสามารถนำไปติดตั้งที่บ้านโดยที่อยู่ในความดูแลของพ่อแม่ได้อย่างสบาย ๆ
แน่นอนว่าแนวคิดดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเกี่ยวกับความถูกต้องทางศีลธรรม โดยเฉพาะการดัดแปลงยีนเพื่อแก้ไขตัวตนทางธรรมชาติ ถึงแม้ว่ามันอาจมีประโยชน์มากมายมหาศาลก็ตาม
แล้วคุณล่ะคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับโครงการของ EctoLife บ้าง
ที่มา: superinnovators
