เด็กชายที่เป็นโรคกลัวการตัดผม จนอาจถูกไล่ออกจากโรงเรียน

การไว้ผมยาวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎในหลาย ๆ โรงเรียน แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดเด็กคนนั้นเกิดเป็นโรคกลัวการตัดผม

นี่คือเรื่องราวของ ฟารุก เจมส์ เด็กชายวัย 12 ปี ที่มีผมยาวฟูฟ่องน่าประทับใจ จนทำให้เขามีผู้ติดตามมากกว่า 250,000 คนบนอินสตาแกรม

แต่เบื้องหลังผมที่ยาวสลวยของฟารุกก็คือ เขาไม่เคยตัดผมมาก่อนในชีวิตเนื่องจากเป็นโรค Tonsurephobia ซึ่งเป็นความกลัวการตัดผมในแบบที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

นั่นจึงเป็นปัญหาที่อาจทำให้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน

นับตั้งแต่ที่ฟารุกย้ายมาที่โรงเรียนใหม่ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว เด็กชายก็ถูกกดดันให้ตัดผมของเขาเพื่อให้มันสั้นเกินคอเสื้อของตัวเอง ซึ่งนั่นคือกฎของโรงเรียน

ครอบครัวของฟารุกได้ส่งใบรับรองแพทย์ไปให้กับทางโรงเรียนเพื่อยืนยันว่าเด็กชายเป็นโรคกลัวการตัดผม แต่ดูเหมือนว่าโรงเรียนจะไม่ยอมให้เด็กชายฝ่าฝืนกฎของโรงเรียน และมีแนวโน้มว่าจะไล่เขาออก

ฟารุกกล่าวว่า “ผมเป็นโรคกลัวการตัดผม แถมยังเป็นโรคลมหลับ นั่นหมายความว่าผมนอนหลับลึกได้ง่าย มันเกี่ยวข้องกัน ผมมักฝันว่าตัวเองถูกตัดผมออก”

สำหรับโรคลมหลับ (Narcolepsy) เป็นโรคที่ทำให้คุณมีอาการง่วงนอนตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่สามารถฝืนให้ตื่นได้ ไม่ว่าคุณจะนอนเพียงพอแล้วหรือไม่ก็ตาม

“เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เชื่อผม พวกเขาคิดว่ามันก็เป็นแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น” ฟารุกกล่าว

บอนนี มิลเลอร์ แม่ของฟารุกกล่าวว่า ลูกชายของเธอพยายามไปโรงเรียนโดยการถักเปียเพื่อให้เป็นไปตามกฎ แต่พวกเขาก็ไม่ยอม การถักเปียเป็นสิ่งต้องห้ามในโรงเรียนในลอนดอน และเมื่อเขามีผมยาว จึงถูกเรียกผู้ปกครองหลายครั้งและอาจถูกไล่ออกอีกด้วย

“การลงโทษครั้งแรกคือการกักบริเวณหลังเลิกเรียนครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็หนึ่งชั่วโมง และในวันศุกร์นี้ ผมจะโดนอีก 2 ชั่วโมง” ฟารุกกล่าว “จากนั้นก็จะนำไปสู่การพักการเรียนและไล่ออกในที่สุด”

แม่ของฟารุกอ้างว่า เธอทราบกฎของโรงเรียนดีตั้งแต่ตอนที่ลงทะเบียน แต่เธอรู้สึกว่าโรงเรียนน่าจะละเว้นให้ได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ แต่หลังจากเริ่มปีการศึกษา อาจารย์ใหญ่กลับแจ้งว่า ลูกชายของเธอจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนเว้นแต่เขาจะตัดผม เพราะ Tonsurephobia ไม่ถือเป็นโรคกลัว

“ฉันกำลังพยายามทำให้ลูกชายของฉันตัดผมเพราะเขารักโรงเรียน และฉันก็เห็นคุณค่าของการเรียนที่นี่” คุณแม่กล่าว “เขากำลังเข้ารับการบำบัดทางจิตเพื่อเอาชนะโรคนี้ เรากำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้”

“ฟารุกบอกฉันว่า ถ้าต้องตัดผม ชีวิตเขาก็ไม่มีค่าที่จะอยู่ต่อไป จริง ๆ ฉันแค่พาเขาไปตัดผมแล้วส่งเขาไปโรงเรียน แต่ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงดี”

เมื่อสื่ออังกฤษขอให้แสดงความคิดเห็น โรงเรียนของฟารุกปฏิเสธ โดยอ้างว่าจำเป็นต้องเคารพความเป็นส่วนตัวถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในชุมชน

ที่มา: Facebook