กล่องดำ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญบนเครื่องบินที่จะช่วยบันทึกข้อมูลการบินต่าง ๆ โดยมีหน้าที่ช่วยให้ข้อมูลในยามที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุหรือแม้แต่เครื่องตก และถ้าเราเปรียบเทียบโลกเราเป็นเครื่องบิน เราอาจต้องมีกล่องดำสักใบที่ช่วยบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ในกรณีที่โลกของเราล่มสลาย
แทสเมเนีย รัฐในออสเตรเลียถูกรับเลือกให้เป็นสถานที่สำหรับตั้ง “กล่องดำของโลก” โดยชนะสถานที่จากประเทศอื่น ๆ เช่น มอลตา นอร์เวย์ และกาตาร์ เนื่องจากความเสถียรทางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายจนทำให้มนุษยชาติล่มสลาย
มันจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยบอกต่อให้ผู้ที่เหลือรอด และหวังว่าเนื้อหาที่บันทึกไว้จะสามารถนำมาช่วยเหลือให้ผู้ที่เหลือรอดหลีกเลี่ยงชะตากรรมเดียวกันได้
กล่องดำของโลกจะมีลักษณะเป็นแท่งโลหะที่มีขนาด 10 x 4 x 3 เมตร และหนาถึง 7.5 เซนติเมตร ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ราบที่เป็นไปด้วยหินแกรหิต ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูน บนพื้นที่ห่างไกลบนชายฝั่งตะวันตกของแทสเมเนีย
ความแข็งแกร่งของมันจะมีอายุยืนยาวกว่าพวกเราทุกคน กล่องดำจะเต็มไปด้วยไดรฟ์จัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก และมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่มาจากแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของกล่องดำ และยังมีแบตเตอรีช่วยเก็บพลังงานสำรองเอาไว้
เมื่อดวงอาทิตย์ส่องแสง กล่องดำจะดาวน์โหลดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และอัลกอริธึมจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากอินเทอร์เน็ต
มันจะรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิทั้งบนบกและในทะเล ค่ากรดในมหาสมุทร คาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิศาสตร์ ตลอดจนสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ เช่น จำนวนประชากรโลก การใช้พลังงานที่มีอยู่ หรือแม้แต่งบประมาณทางการทหาร
ถึงแม้ว่าการก่อสร้างโครงสร้างของกล่องดำจะเริ่มต้นในกลางปีหน้า แต่ฮาร์ดไดรฟ์ของกล่องดำได้เริ่มทำการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้แล้วตั้งแต่การประชุมสภาพภูมิอากาศ COP26 ในกลาสโกว์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผู้พัฒนาคาดว่า ความจุในการเก็บข้อมูลจะเพียงพอไปถึงในช่วง 30 ถึง 50 ปีข้างหน้า และในระหว่างนี้พวกเขากำลังตรวจสอบวิธีที่จะขยายความจุนั้น และวิธีจัดเก็บข้อมูลในระยะยาวจนสามารถบันทึกข้อมูลเอาไว้ได้หลายร้อยปีจนไปถึงเป็นพัน ๆ ปี
ถ้าโลกนี้ต้องพังลงไป และอารยธรรมมนุษย์ต้องสูญสิ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ กล่องดำนี้จะไม่ถูกทำลาย มันจะอยู่ที่นั่นเพื่อให้ใครก็ตามที่เหลือรอดได้เรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
หรือแม้แต่หากมีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนเราหลังจากที่ไม่มีใครเหลืออยู่บนโลก พวกเขาจะได้เรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกของเรา แต่นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องเรียนรู้และเข้าใจภาษาของเราเช่นกัน
ที่มา : abc | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
