แฟชั่นมักจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและยุคสมัย แต่เราพอจะนึกออกหรือไม่ ว่าในแต่ละทศวรรษ แฟชั่นทั่วโลกเขานิยมแต่งตัวกันอย่างไร ถ้านึกไม่ออกล่ะก็ มาลองชมภาพเหล่านี้กัน
1916 – 1926
ในระหว่างยุคนี้ น้ำหอมได้ถูกคิดค้นขึ้น ชุดเดรสสีดำเริ่มปรากฏขึ้นมา กระโปรงจะสั้นขึ้นเล็กน้อย เข็มขัดถูกนำมาใช้แทนคอร์เซ็ท และชุดทักซิโด้ ถูกใส่เหมือนกับเสื้อแจ็คเก็ต
1926 – 1936
กระโปรงของผู้หญิงจะสั้นขึ้นอีก และผู้หญิงได้รับอนุญาตให้ใส่กางเกงขายาวได้ แฟชั่นสมัยนี้จะเน้นให้เห็นสัดส่วน อก เอว สะโพก ส่วนผู้ชายก็ดูไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่
1936 – 1946
ผลจากสงคราม ทำให้ผู้คนหลงลืมเรื่องของแฟชั่นไป สไตล์การแต่งตัวของผู้ชายจึงมักเลียนแบบเครื่องแบบของทหาร ส่นวนผู้หญิงนิยมสวมใส่เสื้อผ้าที่ง่ายๆ สบายๆ ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
1946 – 1956
ในทศวรรษที่ 50 ผู้คนพยายามชดเชยเวลาที่สูญเสียไปจากสงคราม มีรองเท้าแบบใหม่ๆ ปรากฏขึ้น อย่างเช่นรองเท้าบัลเลต์ การแต่งหน้าแบบสดใส เน้นแสงและเงาเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก
1956 – 1966
เสื้อผ้าในยุค 60 จะเน้นให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของผู้หญิง หมวกและทรงผมม้วนลอนเริ่มกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก และกระโปรงก็จะสั้นลงไปอีก
1966 – 1976
แฟชั่นในยุค 70 ถือเป็นช่วงเสรีนิยมมากที่สุด คือ อยากใส่อะไรก็ได้ที่คุณต้องการ กระแสยีนส์เริ่มโด่งดังและมีชื่อเสียง ผู้หญิงเริ่มที่จะใส่เสื้อเชิ้ตมากขึ้น
1976 – 1986
ยุค 80 เป็นช่วงเวลาของกางเกง Cavaricci รองเท้ากลาดิเอเตอร์ เสื้อสเวทเชิร์ต และยีนส์ฟอก
1986 – 1996
ยุคนี้ถือเป็นยุคแนวพังค์มีอิทธิพลต่อแฟชั่นอย่างมาก กางเกงเลกกิ้ง ผมบลอนด์ เสื้อแจ็คเก็ต และเสื้อโค้ตตัวใหญ่ กลายเป็นที่นิยมในยุคนี้
1996 – 2006
เป็นยุคของยูนิเซ็กส์ (ใส่ได้ทั้งหญิงและชาย) ครองโลกไปแล้ว ผู้คนทั่วโลกต่างกล้าที่จะแต่งตัวอิสระมากขึ้น
2006 – 2016
แฟชั่นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทุกปี ผู้คนต่างวิ่งไล่ตามแฟชั่นที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา จนกระทั่งปัจจุบัน ถือเป็นกระแสของแฟชั่นแนวฮิปสเตอร์นั่นเอง
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
