ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกรมอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักรได้ออกมาเตือนว่าหลายพื้นที่จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และถึงแม้ว่าโอกาสที่คุณจะโดนฟ้าผ่านั้นต่ำมาก แต่สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ ในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากการถูกฟ้าผ่าประมาณ 24,000 คน และมีอีก 240,000 ที่ได้รับบาดเจ็บ
หลายคนอาจรู้วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกฟ้าผ่า เช่น ไม่ยืนใต้ต้นไม้ใหญ่หรือใกล้หน้าต่าง ไม่พูดโทรศัพท์แบบมีสาย (มือถือไม่มีปัญหา) แต่คุณอาจไม่รู้ว่า คุณควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำฝักบัว นอนแช่ในอ่าง หรือแม้แต่การล้างจานก็เช่นกัน
ก่อนที่จะรู้เหตุผลว่าทำไม เรามาทำความเข้าใจสักนิดก่อนว่า พายุฝนฟ้าคะนองและฟ้าผ่าทำงานอย่างไร
องค์ประกอบพื้นฐาน 2 ส่วนที่ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองคือ ความชื้นและการเพิ่มขึ้นของอากาศร้อน อุณหภูมิที่สูงและความร้อนจะทำให้เกิดมวลอากาศชื้นก้อนโตที่ลอยไปสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งมันสามารถก่อตัวเป็นพายุฝนฟ้าคะนองได้
เมฆประกอบด้วยหยดน้ำและก้อนน้ำแข็งนับล้าน ๆ เมื่อเกิดการเสียดสีจากลมที่เคลื่อนผ่านเข้าไปก็จะเกิดการเสียดสีกันจนเป็นประจุไฟฟ้าภายในก้อนเมฆ พวกมันจะสร้างประจุที่ตรงกันข้ามกับพื้นดิน และนี่คือสิ่งที่ดึงดูดให้แสงพุ่งเข้าหาพื้น
พายุฝนฟ้าคะนองต้องการสร้างสมดุลของประจุและทำได้โดยการคายประจุระหว่างบริเวณที่เป็นบวกและลบออกมา เส้นทางการปลดปล่อยของมันก็คือสิ่งที่นำไฟฟ้าได้ดีกว่า (เช่นโลหะ) มักจะถูกผ่าระหว่างเกิดพายุ
คำแนะนำที่ดีที่สุดของคุณคือการหนีเข้าบ้าน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัยต่อฟ้าผ่า 100% เพราะยังมีกิจกรรมบางอย่างที่อาจทำให้คุณเสี่ยงพอ ๆ กับการอยู่ข้างนอกบ้านท่ามกลางพายุ นั่นก็คือการอาบน้ำหรือล้างจาน
การอาบน้ำ คือกิจกรรมที่ไม่น่าจะมีความเสี่ยง แต่ถ้ากรณีที่เกิดฟ้าผ่ามาที่ตัวบ้านของคุณ กระแสไฟฟ้าจะไหลไปตามเส้นทางที่มีค่าความต้านทานต่ำที่สุดไปจนถึงพื้น ตัวอย่างเช่น โลหะและน้ำในท่อของคุณจะเป็นช่องทางนำไฟฟ้าได้อย่างดี
ฝักบัวอาบน้ำที่มีทั้งน้ำและโลหะจะเป็นเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไฟฟ้าวิ่งผ่าน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาสนับสนุนอย่างยิ่งให้ผู้คนหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้น้ำทั้งหมดในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง แม้แต่การล้างจานก็ตาม
ยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ต้องระวังในช่วงเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หนึ่งในนั้นก็คือการพิงกำแพง แม้ว่าคอนกรีตจะไม่นำไฟฟ้า แต่ถ้ามันเสริมเหล็กเส้นเอาไว้ก็จะทำให้มันกลายเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้
นอกจากนั้นคือการหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของใด ๆ ก็ตามที่เสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ ทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจานเนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นช่องทางถูกฟ้าผ่าได้เช่นกัน
ซึ่งตามหลักการแล้ว หากคุณได้ยินเสียงฟ้าร้องในระยะไกล นั่นหมายความว่าคุณอยู่ใกล้พอที่สายฟ้าจะฟาดไปหาคุณได้ แม้ว่าจะไม่มีฝนก็ตาม ฟ้าผ่าอาจเกิดได้ไกลถึง 20 กิโลเมตรจากพายุ
สำหรับช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุดที่คุณจะอาบน้ำก็คือครึ่งชั่วโมงหลังจากได้ยินเสียงฟ้าร้องครั้งสุดท้าย
เมื่ออ่านมาจนจบ คุณอาจสงสัยว่าทำไมชีวิตของเราต้องลำบากขนาดนี้
ที่มา: theconversation