เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะเห็นสินค้าในท้องตลาดที่หลุด QC หรือการควบคุมคุณภาพ (Quality Control) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วของเหล่านั้นมักจะขายไม่ได้และกลายเป็นของมีตำหนิไป แต่ในบางครั้ง ตำหนิเหล่านี้อาจสร้างมูลค่าให้กับสินค้าบางอย่างได้มากขึ้น
เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่บัญชีทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า Internal Archive (@ArchiveInternal) ได้โพสต์หัวข้อข่าวเกี่ยวกับ iPhone 11 Pro ที่พิมพ์โลโก้ Apple เบี้ยว ถูกขายไปในราคา 2,700 เหรียญ หรือประมาณ 81,000 บาท
“การพิมพ์ผิดแบบนี้ถือว่าหายากมาก ๆ และมันอาจเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ใน 100 ล้านเลยทีเดียว” Internal Archive กล่าว
เมื่อลองตีเส้นแบ่งกึ่งกลางดูจะพบว่าโลโก้ดังกล่าวถูกจัดวางในตำแหน่งที่เอียงไปทางขวา แถมเฉียงขึ้นเล็กน้อยอีกด้วย
แน่นอนว่าการควบคุมคุณภาพของ Apple เป็นอะไรที่เข้มงวดมาก และเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น มันอาจกลายเป็นของหายากที่มีคนต้องการได้
มีสำนักข่าวด้าน IT หลายเจ้าได้รายงานข่าวเรื่องนี้ เช่น Apple Insider หรือ Mac Rumors และมันก็กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเจ้าของมือถือเครื่องนี้ต้องออกมาแก้ข่าวด้วยตัวเอง
y.shimizu_D (@closeup_miracle) ช่างภาพชาวญี่ปุ่นผู้เป็นเจ้าของเครื่องได้ออกมาตอบทวิตว่า นี่เป็นสมาร์ตโฟนของเขาเอง และเขายังมีมันอยู่กับตัว ไม่ได้ขายไปในราคา 2,700 เหรียญแต่อย่างใด
แน่นอนว่าข่าวของ Internal Archive เป็นเพียง Fake News ที่เราพบได้มากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่สิ่งที่เป็นจริงในเรื่องนี้คือ iPhone เครื่องนี้มีโลโก้ Apple ที่เบี้ยวจริง
หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตมากมายมาติดต่อขอซื้อ iPhone เครื่องนี้จาก y.shimizu_D
ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ y.shimizu_D พยายามจะขาย iPhone 11 Pro ของเขาแต่ไม่มีใครต้องการซื้อมันเนื่องจากข้อบกพร่องในการผลิต แต่ข่าวปลอมที่เพิ่งเกิดขึ้นดันสร้างมูลค่าให้กับมันจริง ๆ แล้ว
“ไม่ ผมยังไม่ขายมันตอนนี้” y.shimizu_D กล่าว ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามันอาจจะมีราคาสูงมากกว่า 2,700 เหรียญ และกลายเป็นของสะสมสำหรับแฟนพันธุ์แท้ Apple อย่างแน่นอน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าใครที่กำลังใช้ iPhone อยู่ คงต้องตรวจสอบโลโก้บนเครื่องของตัวเองว่ามันเบี้ยวอยู่หรือเปล่า
ที่มา : twitter | odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ