ครูสาวทดลองทิ้งขนมปัง 3 สัปดาห์หลังให้เด็กจับด้วยมือสะอาดและสกปรก และนี่คือผลลัพธ์

ถือเป็นช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐอเมริกา โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อได้รายงานการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ใน 23 รัฐ แต่เชื่อหรือไม่ว่าการรายงานด้วยผลทางสถิติในลักษณะนี้กลับไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจ

จาราลี เมตคาล์ฟ นักพฤติกรรมศาสตร์เด็กและ เดย์นา โรเบิร์ตสัน คุณครูโรงเรียนประถม ได้พบการทดลองที่น่าสนใจในเว็บไซต์โรงพยาบาลเด็ก C.S. Mott ที่มีชื่อว่า “มือของคุณสะอาดแค่ไหน ?” จนพวกเธอต้องนำมาทดสอบด้วยตนเอง

“เราเลือกการทดลองนี้เพราะมันเกี่ยวข้องกับเชื้อโรคและฤดูไข้หวัดใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ตอนนี้” จาราลีกล่าว “เราตัดสินใจว่า นี่คือการทดลองอันยอดเยี่ยมที่ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเชื้อโรคโดยใช้แค่เพียงขนมปังเท่านั้น”

พวกเธอนำขนมปัง 5 แผ่นใส่ถุงแบบซิปล็อคแยกกันและทิ้งไว้ 3-4 สัปดาห์เพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละแผ่นก็มีความแตกต่างกันดังนี้

แผ่นที่ 1 ขนมปังที่นำไปถูกกับแล็ปท็อป Chormebook ที่ใช้ในห้องเรียน จะเห็นว่าขนมปังเกิดราสีดำขึ้นเกือบเต็มแผ่นขนมปัง

แผ่นที่ 2 ขนมปังที่ไม่ได้ถูกแตะต้องใด ๆ มันยังคงดูสดใหม่ และดูเหมือนจะไม่มีราขึ้น

แผ่นที่ 3 ขนมปังที่ถูกสัมผัสด้วยมือเด็กที่สกปรกและยังไม่ได้ล้างมือ ผลลัพธ์คือมีราขึ้นเป็นแถบยังจุดที่คาดว่าโดนมือสัมผัส

แผ่นที่ 4 ขนมปังที่ถูกสัมผัสด้วยมือที่ล้างด้วยน้ำสบู่ธรรมดา ก็ดูดีไม่ต่างจากขนมปังที่ไม่ถูกแตะ

แผ่นที่ 5 ขนมปังที่ถูกสัมผัสโดยเด็กที่ใช้เจลฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดมือ ก็ยังคงมีราขึ้นเป็นแถบให้เห็นชัดเจน

และดูเหมือนการทดลองนี้จะได้ผล เพราะเธอโพสต์ผลการทดลองนี้บนเฟสบุ๊คและมันก็กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น เด็ก ๆ จากห้องเรียนอื่นทั้งโรงเรียนรวมถึงคุณครูต่างก็มาชมการทดลองนี้ด้วยตัวเอง และเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขอนามัยกันมากขึ้น

สุดท้ายพวกเธออยากจะใช้โอกาสนี้บอกกับพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายว่า การล้างมืออย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ “ถ้าคุณส่งลูกที่ป่วยมาโรงเรียน มันจะทำให้ทุกคนเสี่ยงกันหมด ไม่ว่าจะเด็กหรือคุณครู ฉันอยากกระตุ้นให้พ่อแม่เก็บลูกที่ป่วยเอาไว้ที่บ้าน จะเป็นการดีที่สุด”

หลังจากที่ได้ชมการทดลองนี้ไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะตระหนักถึงประโยชน์ของการล้างมือยิ่งขึ้น ว่ามันช่วยเพิ่มโอกาสให้เราปราศจาคเชื้อโรคได้มากมายขนาดไหน

ที่มา : facebook | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ