ถ้าพูดถึงการศัลยกรรม ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไปทำศัลยกรรมให้ตัวเองดูดี แต่จะมีสักกี่คนที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดูน่ากลัวขึ้นแบบชายคนนี้
เฮนรี โรดริเกวส คุณพ่อลูกหนึ่ง ผู้ใช้เงินไปว่า 30,000 ปอนด์ หรือราวๆ 1.34 ล้านบาท เปลี่ยนใบหน้าตัวเองให้เหมือนกับ Red Skull วายร้ายสัญชาตินาซี จากการ์ตูนมาเวล
ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เฮนรี ทำศัลยกรรมใบหน้าตัวเองโดยเริ่มตั้งแต่สักลูกนัยน์ตาให้เป็นสีดำสนิท ปลูกถ่ายเนื้อเพิ่มบนศีรษะ ตัดปลายจมูกออก และรายละเอียดอีกนับไม่ถ้วน จนตอนนี้เขาได้กลายเป็นยอดวายร้าย Red Skull ที่เราเคยเห็นในเรื่องกัปตันอเมริกาสมใจ
การเปลี่ยนแปลงของเขาเริ่มตั้งแต่เขาพบกับ เอมิลิโอ กอนซาเลส นักเรียนการแพทย์ผู้ที่ออกจากโรงเรียนกลางคัน เพื่อมาเป็นช่างสักและศัลยกรรมร่างกายมืออาชีพ
เฮนรี่กล่าวว่า “ผมเริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว ผมต้องการเปลี่ยนตัวเองให้ดูเหมือนตัวละครที่น่าทึ่งตัวนี้ ที่ผมหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ผมรู้สึกว่า เรามีบางอย่างที่คล้ายกัน โดยเฉพาะเรื่องบุคลิกและทัศนคติบางอย่าง”
แต่สิ่งสำคัญที่เฮนรี่ต้องการสื่อให้ทุกคนเข้าใจก็คือ ถึงแม้ตัวละครดังกล่าวจะมีความเป็นนาซีที่ชัดเจน แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ใช่ตัวเขาแม้แต่น้อย “มันสำคัญที่จะบอกว่า สิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมไม่ได้เป็นเหมือนเขาก็คือ การนับถือลัทธินาซี” เฮนรี่กล่าว
ถึงแม้เขาจะมีความต้องการที่หลุดโลกแบบนี้ แต่ทางการแพทย์ เขาต้องผ่านการทดสอบทั้งทางร่างกายและจิตใจหลายครั้ง ก่อนที่จะเข้าสู่การผ่าตัด ซึ่งการศัลยกรรมทุกส่วนบนใบหน้าของเขา ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา รวมแล้วใช้เวลากว่า 130 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ตาดำเป็นต้นมา
“หลังจากนั้นผมก็ปลูกถ่ายภายใต้ผิวหนัง” เฮนรี่กล่าว “มันใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ซึ่งกินเวลานานกว่าที่คิดไว้”
“การปลูกถ่ายเริ่มตั้งแต่บริเวณกลางหน้าผาก หลังจากนั้นก็เป็นคิ้ว และสุดท้ายก็บริเวณแก้ม จากนั้นคือการตัดจมูก และเปลี่ยนรูปร่างของใบหูของผม และล่าสุดก็คือการผ่าตัดลิ้นให้เหมือนงู”
“มันไม่ง่ายที่ครอบครัวจะยอมรับในตัวตนของผมแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังเข้าใจ และยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมอยู่เหมือนเดิม”
แน่นอนว่าการปรากฏตัวของเขาในแต่ละครั้ง เป็นจุดสนใจอย่างมาก แต่เฮนรี่บอกว่า เขาไม่แคร์เลยสักนิด ตราบใดที่ลูกชายยอมรับในตัวเขา เขาจะไม่ใส่ใจสิ่งที่คนอื่นคิดแม้แต่น้อย
สิ่งสำคัญคือตัวผมเองมีความสุข และยอมรับในตัวเอง “ผมตัดสินใจที่จะเป็นแบบนี้ และผมก็รู้สึกดีกับตัวเอง นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดแล้วจริงๆ”
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : metro | เรียบเรียงโดย เพชรมายา