นักวิทย์ปลูกต้นไม้จากเมล็ดพันธุ์อายุ 3 หมื่นปี ที่พบในโพรงกระรอกโบราณใต้ดิน

มนุษย์เรายังมีเรื่องราวที่ไม่รู้อีกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ใต้ทะเลลึกหรือในอวกาศที่ยากจะเดินทางไปถึง แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตที่มนุษย์เรายังคงต้องค้นหาคำตอบอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะสามารถสร้างไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปเห็นอดีตด้วยตาตัวเองได้ และในเมื่อเรายังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ สิ่งเดียวที่จะทำให้เรารู้จักประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นก็คือการศึกษาค้นคว้าจากสิ่งโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่จนถึงตอนนี้

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ในขณะที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียจำนวน 6 คน กำลังทำการสำรวจโพรงกระรอกโบราณในไซบีเรีย พวกเขาได้บังเอิญพบกับเมล็ดพันธุ์พืชปริศนาที่มีอายุระหว่าง 30,000 ถึง 32,000 ปี ที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งลึกลงไปใต้ดินถึง 125 ฟุต โดยชั้นดินเหล่านี้ถูกเรียกว่า “ชั้นดินเยือกแข็ง” หรือ Permafrost ซึ่งเป็นพื้นดินที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเป็นเวลานาน

หลังจากทำการตรวจสอบจึงพบว่า มันคือเมล็ดพันธุ์ของพืชที่มีชื่อว่า Silene Stenophylla โดยเป็นดอกไม้ที่ยังคงหาได้ในไซบีเรียอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ และที่น่าสนใจก็คือมันยังสามารถนำมาปลูกและเติบโตได้เป็นปกติอย่างไม่น่าเชื่อ

คำถามคือ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้สามารถอยู่รอดไปได้นานแค่ไหน มันอาจอยู่รอดไปได้นานกว่านี้เป็นแสนปีหรือเป็นล้านปีได้หรือไม่ ภายใต้สภาพภูมิอากาศที่อาจเปลี่ยนไป

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรียจากมหาวิทยาลัยทรัพยากรธรรมชาติและวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตแห่งกรุงเวียนนา จึงตัดสินใจที่จะไขปริศนานี้ด้วยการตรวจสอบ DNA ของพืชโบราณที่ถูกค้นพบเมื่อ 8 ปีก่อน

เป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือการค้นหาว่ามีการเปลี่ยนแปลงในยีนของพืชชนิดนี้ที่สามารถปรับตัวได้ในทุกสภาพอากาศตั้งแต่ร้อนจัดจนถึงเย็นจัดหรือไม่ และการศึกษานี้อาจช่วยให้พวกเขารับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมองหาวิธีเพื่อช่วยให้พืชชนิดอื่นอยู่รอดได้

ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่ชั้นดินเยือกแข็งในไซบีเรียกำลังละลาย นักวิทยาศาสตร์จะสามารถสามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อดูว่า มีปัจจัยใดบ้างที่อาจช่วยให้เมล็ดพันธุ์พืชนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ได้

นี่ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อได้มากกว่านี้ ครั้งต่อไปมันอาจไม่ใช่พืช แต่อาจเป็นการโคลนนิ่งสัตว์โบราณในยุคน้ำแข็ง หรือแม้แต่ไดโนเสาร์ที่เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนคงอยากเห็นมันตัวเป็น ๆ สักครั้งในชีวิตอย่างแน่นอน

ที่มา : Lisi Niesner | Yashina et al. | boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ